ฝากถึง Rever Thailand ให้รีบช่วยแก้ปัญหาเรื่องฝาครอบแบตกันหนูกัดโดยด่วน (ลูกค้ารอซื้อรถอยู่ครับ)

ฝากถึง Rever Thailand ให้รีบช่วยแก้ปัญหาเรื่องฝาครอบแบตกันหนูกัดโดยด่วน (ลูกค้ารอซื้อรถอยู่ครับ)
                      
                       ผมสนใจที่จะซื้อรถ BYD Dolphin รุ่น Standard  แต่พอมีข่าวเรื่องหนูกัดฝาครอบแบต ที่ทำให้ต้องเสียค่าซ่อมถึง 600,000 บาท  ถึงแม้ว่าจะเคลมประกันได้  แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยการเสียส่วนลดประวัติดี และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ลูกค้าต้องเพิ่มเงินค่าเบี้ยประกันในปีต่อไปด้วย   และหากไม่ได้ทำประกันชั้น 1 ต่อ (ซึ่งเบี้ยประกันตอนนี้ ประมาณ 20,000 บาท/ต่อปี) หรือ หมดประกันไปแล้ว หรือลืมทำประกัน  เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น   เราต้องจ่ายค่าซ่อมเอง ซึ่งมากถึง 600,000 บาท  มันจะเป็นปัญหาใหญ่    และยังมีปัญหายืดเยื้อในการเคลมแบตฯ ระหว่างบริษัทประกัน (ตามที่เป็นข่าว ลอง Search google อ่านข่าวเอาเองนะครับ)   

                       ซึ่งในเรื่องแบตเตอร์รี่รถนั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร เพราะมันคือหัวใจของรถเลยก็ว่าได้ กว่า 70% ของราคารถ EV ในปัจจุบันอยู่ที่แบตเตอร์รี่รถ  ดังนั้น การที่แบตเตอร์รี่ ถูกโจมตีได้อย่างง่ายดาย และเป็นจุดที่บอบบางที่สุด (ซึ่งในความเป็นจริง น่าจะเป็นจุดที่แข็งแรงที่สุด ที่มีการป้องกันอย่างดีและเสียหายได้ยาก)  ย่อมทำให้ลูกค้าจำนวนมาก กังวลใจ และชะลอการตัดสินใจซื้อ  หรืออาจจะหันไปซื้อรถ EV ค่ายอื่นแทน 

                        สำหรับ ผมมีความพอใจในการออกแบบรูปร่าง-รูปทรงรถ BYD Dolphin รุ่น Standard พอสมควร  ถึงแม้จะไม่ถูกใจในส่วนของรูปแบบไฟหน้ารถอยู่บ้าง   แต่เมื่อเทียบกับ MG4 ที่มีทรงโฉบเฉี่ยว และดูเป็นวัยรุ่นซิ่งแล้ว (โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบเลย)  แต่หากมีความจำเป็น หรือ ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า ก็อาจเป็นทางเลือกในการซื้อ ภายในก่อนสิ้นปีนี้ได้   เพราะจุดยืนของราคาในตลาด ของ MG4 รุ่น X ปัจจุบัน อยู่ที่ 769,000 บาท (หลังจากที่ MG ลดลงมา 100,000 บาท)   ทำให้รถรุ่นนี้ อยู่ตรงกลางระหว่าง BYD Dolphin รุ่น Standard และรุ่น Extend   เพราะด้วยแรงม้า และแบตเตอรี่ ของ MG4 มากกว่า  BYD Dolphin รุ่น Standard    โดยเพิ่มเงินจากรุ่น Standard  เพียงเล็กน้อย ก็ได้ MG4 มาครอบครอง      แต่ถ้า  BYD Dolphin รุ่น Standard ไม่มีข่าวเรื่องหนูกัด  คนส่วนใหญ่ก็กำลังจะจองรุ่นนี้แล้ว   แต่พอมีข่าวทำให้คนไม่กล้าซื้อ  อีกทั้งราคายังแพงกว่า Neta V มากถึง 200,000บาท (ซึ่ง Neta V ลดลงมาอีก 50,000 บาท เหลือ 499,000 บาท)   จึงทำให้คนตัดสินใจไป Neta V หรือ MG4 (งบน้อยไป Neta V เพิ่มอีกนิดไป MG4 จะได้ไม่มีปัญหา)    อีกทั้ง  มีสื่อหลายสำนัก นำภาพแบตเตอรี่ของแต่ละค่ายที่ถูกห่อหุ้มด้วยโลหะ มาเปรียบเทียบกับทาง BYD ซึ่งเป็นพลาสติก (ไม่ว่าพลาสติกเกรดใด ถ้าถูกหนูกัดได้ก็หมดสภาพทั้งนั้น)    แต่ถ้าในปัจจุบัน ทาง BYD ยังแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้  การลดราคารถ  BYD Dolphin  ลงมา 100,000 บาท น่าจะเรียกความสนใจให้ผู้ซื้อได้ไม่น้อยเลยทีเดียว  (เพื่อเขาจะได้เอาไปเป็นทุนในการหาซื้ออุปกรณ์ครอบแบตเตอร์รี่ ป้องกันหนูกัดกันไปก่อน)  และเป็นการสร้างจุดยืนการตลาดใหม่  ให้อยู่ระหว่าง Neta V และค่าย MG ตลอดจนค่ายอื่นๆ  (และยังหวังโกยลูกค้า Neta V และ MG มาเพิ่มได้อีกด้วย)   อีกทั้งการลดราคาช่วงโค้งสุดท้ายของปี ก็ถือเป็นการดีที่จะทำให้เกิดการปิดยอดท้ายปี 2566 อีกด้วย   ประกอบกับในปีหน้า มีค่ายรถน้องใหม่จำนวนมาก จากจีนที่จะทะลักเข้ามาทำการตลาดในไทย  ทั้ง เทคโนโลยี และแบตเตอรี่  ที่ดีกว่า และราคาถูกกว่า อีกด้วย

            สุดท้ายนี้  หวังว่า ท่านและทีมงานผู้บริหาร ฝากถึง Rever Thailand  จะได้นำความคิดเห็นของผมและเพื่อนๆอีกหลายท่าน ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้  นำไปพิจารณา เพื่อเพิ่มยอดขาย ให้กับทางบริษัท ในช่วงโค้งสุดท้ายปี ก่อนสิ้นสุดโครงการรัฐบาลนะครับ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่