ทำไมคนแก่ๆในที่ทำงานชอบคุยโม้ว่าเก่งกว่าเด็กสมัยนี้ครับ

คือมีพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง อายุห้าสิบปลายๆแล้วครับ ใกล้เกษียณแล้ว ต้องบอกก่อนว่าแกได้เลื่อนตำแหน่งครับ ซึ่งผมก็มาทำตำแหน่งเดิมแทนแก ซึ่งตอนผมมาใหม่ๆ แกก็ดูปกติดีครับ สอนงานผม ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่พอนานๆเข้า จากสอนงานเริ่มเป็นบงการแล้วครับ เช่นเค้าสอนเทคนิคที่เค้าเคยทำปกติ แต่ผมก็มีเทคนิคของผมอีกที แกกลับบอกกับผมว่า ทำแบบนี้ได้ไงทำแบบที่สอนสิมันดีอยู่แล้ว แล้วชอบมาเจ้ากี้เจ้าการกับผม มาคุยโม้ทับถม ประมาณว่า เมื่อก่อนนะตำแหน่งที่ผมทำอยู่เนี่ย ลำบากกว่านี้เยอะสมัยพี่ต้องทำเองหมด อะไรเสียพี่ก็ซ่อมได้หมด ตำแหน่งอื่นๆทุกตำแหน่ง ยกเว้นหัวหน้า พี่ก็ทำได้ แต่เด็กมาใหม่เดี๋ยวเนี่ยสบายเกินไปดูคุณหนู แถมยังไม่มีความสามารถอีกต่างหาก (ขอยกตัวอย่างครับ เช่น ผมเป็นคนไม่ชอบขับรถเร็ว ปกติก็ขับมอเตอร์ไซต์ที่ 70 -90 แค่นั้น พี่คนนี้ก็มาคุยทับผมว่า เนี่ยสกิลขับรถก็ไม่มีแบบนี้เวลามีเอกสารด่วนไปส่ง มันจะไปทันได้ไง)

จริงๆมันก็มีอีกหลายเรื่องครับ หลายเรื่องมากๆ พี่ผมโดนแบบนี้ จนผมรู้สึกว่าผมไม่มีคุณสมบัติดีพอจะทำงานที่นี่เหรอ ทั้งๆที่ผมก็ตั้งใจทำงานนะครับ ผมเคยแอบถามเพื่อนร่วมงานว่า ผมทำงานไม่ดีเหรอ เค้าก็บอกนะครับว่า ก็ปกตินะ เพียงแต่ว่าไอ่พี่คนนั้นอ่ะ เค้าเอาใจคนเก่ง เค้าอยู่มานาน เลยน่าจะคิดว่าตัวเองเก่งสุดในนี้แล้วมั้ง

ยอมรับเลยครับว่าตอนนี้ผมเครียดมาก บางวันผมเก็บกดจนบางทีผมแสดงอาการไม่ดีใส่คนในครอบครัวด้วย จนตอนนี้แฟนบอกว่าลองไปปรึกษาจิตแพทย์ไหม เพราะกลัวผมจะเป็นซึมเศร้า

แอบตกใจที่คนมาแสดงความเห็นเยอะขนาดนี้ แต่ผมเห็นบางความเห็นยังไม่ค่อยเข้าใจผมครับ ผมมาขอขยายเรื่องตรงนี้เลยละกันนะครับ
จริงๆผมยอมรับนะครับ ว่าพี่เค้าทำงานเก่ง แต่สิ่งที่เค้าทำกับผม เหมือนอยากให้ผมเก่งเหมือนเค้า แต่อีกความรู้สึกก็เหมือนไม่อยากให้ผมเก่งเกินหน้าเค้า
ขอยกตัวอย่างเพิ่มเลยครับ เช่นเค้าชอบว่าผม ลับหลังด้วย มีเพื่อนที่ทำงานบอก บอกว่า”ผมทำอะไรไม่รู้จักวางแผน“ ทั้งๆที่งานที่สั่งมานั้นมาจากหัวหน้าโดยตรงเลย และที่ผมเสียความรู้สึกคือ เค้าพูดลับหลังผมอีกว่า “ตำแหน่งผมไม่มีก็ได้ ผมทำเองได้หมด” คือผมได้ยินผมโครตเสียความรู้สึกเลยครับ

และอันที่หนักสุดเลยคือ อยากด่าคนอื่น แต่ไม่ด่าตรงๆ ดันมาด่าผ่านตัวผม ไปกระทบคนที่อยากด่า
ทุกวันนี้ผมพยายามทำตามหลายความเห็นอยู่ครับ ว่าอย่าไปใส่ใจ ให้อยู่เฉยๆ เออออไปกับเค้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณต้องรู้จักใช้คำว่า
"ช่างหัวมัน" ให้เป็นครับ

ผมอ่านเนื้อหาคุณอยู่ 2 รอบ, มันไม่มีสาระอะไรเลยครับ
ขอเพียงแค่คุณทำหูทวนลม กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
"ช่างมัน" ให้เป็น
อะไรที่ไร้สาระ เวลาเข้าหูซ้าย ก็ให้มันออกหูขวาครับ

ตราบใดที่คุณยังทำงานได้ตามปกติ ไม่ได้ผิดพลาด ไม่ได้ด้อยประสิทธิภาพ
เรื่องอื่นก็ไม่ต้องสนใจ
หรือถ้าหากหัวหน้างานสั่งงานแบบระบุวิธี ว่าต้องทำตามขั้นตอนแบบที่เขาสั่ง
ก็แนะนำให้ถอดสมองออก แล้วทำตามที่เขาสั่งในเรื่องนั้นครับ


ไม่ว่าจะเด็ก หรือแก่ ก็มีคนทุกวัยที่เก่งแต่ปากด้วยกันทั้งนั้น, อย่าได้แคร์อะไรที่ไร้สาระ
ความคิดเห็นที่ 2
“คนไทยในปัจจุบัน”
(พระพรหมคุณาภรณ์)
๑.เป็นคนประมาท คือเป็นคนที่หลงระเริง
    -เพลิดเพลินปล่อยตัว
    -ไม่รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
    -ไม่เร่งรัดจัดทำเรื่องที่ควรทำ เฉื่อยชา ชอบผัดวันประกันพรุ่งเสมอ
๒.เป็นคนขาดความใฝ่รู้
๓.เป็นคนอ่อนแอ อาจจะเรียกว่า “ไม่สู้สิ่งยาก”

น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เล่าถึงเพื่อนต่างชาติที่รับพนักงานที่จบจากมหาวิทยาลัยในไทยว่า
“ในจำนวน ๑๐ คนที่รับมา
มีทำงานได้เพียง ๑ คน
อีก ๒ คนต้องฝึกฝนใหม่
แต่อีก ๗ คนทำงานไม่ได้เลย
ต้องให้ออกสถานเดียว”
นสพ.ไทยรัฐ วันเสาร์ที่ ๕ พย. ๔๗ หน้า ๕

คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคน(กรอ.ศธ.)
เปิดเผยว่า.......เป็นปัญหาที่เราได้รับการต่อว่าจากภาคเอกชนมากว่า
บัณฑิตที่จบมา มีความรู้ความสามารถไม่พอเพียง ที่จะทำงาน ให้สมกับที่จบปริญญาตรี..
๑.อย่างน้อยต้องพูดภาษาอังกฤษได้  ใช้คอมฯ/สื่อ IT เป็น
    -ขาดความสามารถในการวิเคราะห์ตัวเลข
    -วิเคราะห์ปัญหาระบบงานไม่ได้
    -คิดเองไม่เป็น แก้ปัญหางานไม่ได้
๒.ขาดทักษะความเชี่ยวชาญในสาขาที่เรียนมา
๓.ขาดเจตคติที่ดีต่องาน ขาดความรับผิดชอบ  ขาดความอดทน ไม่มีวินัย ไม่ตรงต่อเวลา ขาดภาวะผู้นำ
   ที่สำคัญขาดความซื่อสัตย์ ไม่ภักดีองค์กรที่ตนทำงานด้วย
นสพ.ไทยรัฐ วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๕๒, หน้า ๓
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าเขาเก่งจริงอย่างโม้ ก็ควรน้อมรับ
ถ้าไม่เก่งจริงอย่างโม้ ก็ปล่อยแกไป
ถือซะว่า คืนความสุขให้คนแก่ ที่ได้ยืดกับเขาได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่