JJNY : เชื้อเพลิงชุดแรกเคลื่อนเข้ากาซา│คุยฮามาสเรื่องแรงงานไทย│คิดถึงอานนท์ จะทำให้การถอนประกันมีคุณค่า│อสังหาหืดจับ

ต่อลมหายใจ! เชื้อเพลิงชุดแรก เคลื่อนเข้ากาซา หลังอิสราเอลเปิดทาง ให้ส่งเข้าไปจำกัด หลังโดนมะกันไล่บี้
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4288736
 
แฟ้มภาพเอเอฟพี
 
ต่อลมหายใจ! เชื้อเพลิงชุดแรก เคลื่อนเข้ากาซา หลังอิสราเอลเปิดทาง ให้ส่งเข้าไปจำกัด หลังโดนมะกันไล่บี้
 
การส่งเชื้อเพลิงครั้งแรกได้เคลื่อนเข้าสู่ฉนวนกาซาแล้ว ผ่านทางจุดผ่านแดนราฟาห์จากประเทศอียิปต์เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน หลังจากอิสราเอลยอมจำนนต่อแรงกดดันของสหรัฐอเมริกา โดยอนุญาตให้มีการส่งเชื้อเพลิงเข้าไปอย่างจำกัดในฉนวนกาซา เพื่อให้นำไปใช้สำหรับรถบรรทุกที่นำส่งความช่วยเหลือ ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินการขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในการจัดหาน้ำและระบบสุขาภิบาลให้กับพลเรือนในฉนวนกาซา และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหลังล่มไป 2 วันเนื่องจากไม่มีเชื้อเพลิง
 
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลลงมติเป็นเอกฉันท์ อนุญาตให้รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในฉนวนกาซาได้วันละ 2 คัน เพื่อใช้งานกับระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งกำลังพังทลายเนื่องจากไม่มีไฟฟ้า จากการเปิดเผยของนายซาชี ฮาเนกบี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ซึ่งกล่าวด้วยว่า เราตัดสินใจดังกล่าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาด
 
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐได้ใช้แรงกดดันอย่างมหาศาลต่ออิสราเอลมานานหลายสัปดาห์เพื่อให้ยอมให้นำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามา พร้อมกับระบุว่า ภายใต้ความตกลงดังกล่าวจะอนุญาตให้นำน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 140,000 ลิตร(ราว 37,000 แกลลอน) ส่งเข้าไปในฉนวนกาซาได้ในทุกๆ 48 ชั่วโมง โดยในจำนวนนี้ 20,000 ลิตร จะถูกจัดสรรไว้สำหรับเครื่องปั่นไฟเพื่อใช้กับเครือข่ายโทรศัพท์
 
ด้านบริษัทผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมในฉนวนกาซา เปิดเผยในวันเดียวกันว่า การบริการต่างๆ ของบริษัทกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง หลังจากได้รับเชื้อเพลิงบางส่วนผ่านทางสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ หรือ UNRWA
 
ก่อนหน้านี้ UNRWA ระบุว่า 70% ของผู้อยู่อาศัยไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดในตอนใต้ของฉนวนกาซาได้ที่น้ำเสียเริ่มไหลนองมาบนถนน UNRWA ระบุอีกว่า ระบบโทรศัพท์สื่อสารที่ถูกตัดขาดได้ขัดขวางการส่งมอบความช่วยเหลือของทางหน่วยงาน โดยนายมาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมของยูเอ็น ได้รายงานต่อสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า ขณะนี้เชื้อเพลิงที่ให้กับทางหน่วยงานมีเพียงเศษเสี้ยวของที่เราจำเป็นต้องเพื่อให้เป็นไปตามความรับผิดชอบด้านมนุษยธรรมของเรา
 
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสในฉนวนกาซา กล่าวอ้างว่า ใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว 24 รายเนื่องจากไม่มีเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปั่นไฟ



อิสราเอลเคยคุยฮามาสเรื่องตัวประกันแรงงานไทย แต่ยังตกลงกันไม่ได้
https://www.dailynews.co.th/news/2912283/

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลกล่าวว่า เคยมีการเจรจากับกลุ่มฮามาส เพื่อให้ปล่อยตัวประกันกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีแรงงานไทยรวมอยู่ด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องไม่ได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่า นายทีซาชี ฮาเนกบี ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า รัฐบาลเทลอาวีฟกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากนานาชาติ ให้หยุดยิงเพื่อเปิดทางการส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม แลกกับการที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันราว 240 คน 

ฮาเนกบีกล่าวด้วยว่า หลังมีการปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 4 คน คือแม่ลูกชาวอเมริกัน เมื่อวันที่ 20 ต.ค. และหญิงชราชาวอิสราเอล 2 คน เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการเจรจาเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 10 คน จากจำนวนดังกล่าวอย่างน้อย 8 คน เป็นแรงงานไทย และข้อเสนอเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกัน 15 คน 
 
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสเรียกร้องการหยุดยิง “ชั่วคราว” ซึ่งรัฐบาลอิสราเอลมองว่า หากต้องแลกกับตัวประกันจำนวนเท่านี้ “ถือว่าน้อยเกินไป” จึงยื่นเงื่อนไขกลับไปว่า ต้องเป็นการปล่อยตัวประกัน “จำนวนมาก” เท่านั้น 

ขณะที่ข้อมูลจากแหล่งข่าวการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งมีกาตาร์ทำหน้าที่คนกลาง ระบุว่า กลุ่มฮามาสเรียกร้องอิสราเอลยุติการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินลาดตระเวนและสอดแนมเหนือฉนวนกาซา

ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นหนึ่งในเงื่อนไขเพื่อการปล่อยตัวประกันด้วย แต่แหล่งข่าวให้ความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ไม่น่ายอมรับเงื่อนไขนี้ เนื่องจากจะทำให้กองทัพและหน่วยข่าวกรองอิสราเอล ไม่สามารถจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮามาส และการค้นหาเบาะแสซึ่งอาจนำไปสู่การพบและช่วยเหลือตัวประกัน.



บก.ลายจุด ลั่นจากนี้ จะขอพูด-คิดถึงอานนท์ จะทำให้การต่อสู้ ถอนประกันของเขา มีคุณค่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4288509

บก.ลายจุด ลั่นจากนี้ จะพูดและคิดถึงอานนท์ จะทำให้การต่อสู้ ถอนประกันของเขา มีคุณค่า   
  
จากกรณีที่ นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากคดีอาญา มาตรา 112 เขียนจดหมายถึงลูกๆ ถึงการประกาศตัดสินใจถอนประกันตัวเอง ทั้ง 20 คดีกว่าๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการต่อสู้ โดยยืนยันว่า การถูกลงโทษนี้ ไม่ใชช่การรับผิด ไม่มีการสารภาพ หรือยอมรับว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาเป็นความผิดอย่างเด็ดขาด
 
ล่าสุด (17 พ.ย.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ว่า 
 
การตัดสินใจของ อานนท์ นำภา ในการถอนการประกันตัวกว่า 20 คดีของตนเองนั้น เป็นพัฒนาการของการต่อสู้ที่สำคัญของอานนท์ เขาหันหลังให้กับความคาดหวังที่จะประกันตัวมาต่อสู้อยู่ข้างนอก แต่นี่คือการประกาศการต่อสู้จากในเรือนจำด้วยจุดยืนใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือพัฒนาต่อไปอย่างไร
 
เมื่อสัปดาห์ก่อน ศูนย์ทนายสิทธิฯ แวะมาคุยเรื่องอานนท์ ผมสารภาพไปแล้วว่าผมคิดไม่ออกว่าจะรณรงค์หรือใช้วิธีการใดในการเอาตัวเขาออกมาจากเรือนจำ แต่ผมขบคิดอยู่ว่าถ้าเขาไม่ได้ออกมาแต่ทำอย่างไรให้การอยู่ในเรือนจำของอานนท์มีคุณค่าเพียงพอที่จะเอาอิสระภาพของตนเองไปแลก
 
นั่นคือการพูดถึงเขา คิดถึงเขา และทำให้คนรู้จักอานนท์มากขึ้น ทำให้อานนท์เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ที่มีการค้นคว้าทำความเข้าใจบริบทของสังคมไทยผ่านชีวิตของเขา
 
พูดถึงเขากันครับ “ผมคิดถึงคุณ
 
https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid0Kr84M3ANLznq6P7UGPhwvjtKnJpGfBLwq4GGcVL8cjaLdg1NK7jgsh6PEtL5zJShl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่