ปกติได้ยินแค่เบาหวานขึ้นตา แต่โซเดียมขึ้นตาได้หรอ
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปีที่แล้วตอนนั้นผมอายุ 18 มีปัญหาเกี่ยวกับตาข้างซ้าย เหมือนมีรอยนิ้วมือมาแปะตรงกระจกตาแล้ว ขยับไปขยับมาตามที่เรามอง แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร มันรู้สึกรำคาญ ตอนต้นปีก่อนเป็นประมาณ2อาทิตย์ ทีแรกนึกว่ายาขึ้นตาแต่ไม่รู้ว่ายาขึ้นตาได้รึเปล่า เพราะตอนนั้นกินซิงค์เพื่อรักษาสิวอยู่ และบวกอยู่หน้าคอมนานๆ วันหนึ่งนั่งอยู่หน้าคอมประมาณเกือบ10ชั่วโมง แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ตอนต้นปีก็ใช้ชีวิตปกติ แล้วมันก็หาย แล้วพอท้ายปีก่อนช่วงเดือนกันยา-ตุลา อาการเดิมมันมาอีกแล้ว แต่รอบนี้มันหนักกว่า เพราะมันมีปัญหาในการขับรถตอนกลางคืน เวลาแสงรถหรือแสงข้างทางมากระทบตาเข้ามาจะแสบ และมองสู้ไม่ได้ ต้องค่อยๆหรี่ตา ตอนนั้นคิดว่าเดี๋ยวมันก็หาย ผ่านไปเดือนกว่าๆ มันก็ยังไม่หายมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจไปหาหมอตา หมอคนแรกบอกให้เอายาหยอดตาตัวหนึ่งไปยอดวันละสองเวลา เช้า-เย็น หยอดไปประมาณสัปดาห์หนึ่งรู้สึกว่ามันเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเลย เลยตัดสินใจไปหาหมออีกท่านนึ่งซึ่งเปิดคลีนิคมานานพอสมควร เลยไปหาหมอคนนั้น หมอก็ให้ไปนั่งตรงที่เขาเช็คตาไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร ซึ่งหมอคนแรกเขาเอาไฟฉายมาส่องเฉยๆ แต่หมอคนที่สองเขาตรวจกับเครื่องมือ สรุปว่า ไม่แน่ใจว่าหมอบอกว่าอะไร แต่คราวๆที่นึกได้หมอบอกว่า เค็มขึ้นตาคือกินโซเดียมหรือผงชูรสเยอะเกินไป หมอบอกมาจากพวกมาม่าพวกขนมที่โซเดียมสูงๆ ซึ่งตอนนั้นเราถามหมอว่า มันเกี่ยวกับการมองจอนานๆรึเปล่า แต่หมอบอกว่าเปอร์เซนต์น้อยมากที่จะเกิดจากแสงจอ ผมก็เลยมานั่งนึกได้ว่า ช่วงนั้นกินมาม่าของมาเลย์ยี่ห้อหนึ่ง มาเป็นเดือนๆ คือกินที2ซอง ซึ่งค่าโซเดียมต่อซองคือเยอะแล้วบวกกินสัปดาห์หนึ่งกินไปแล้ว4-5ซอง เกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งปกติตามที่ผมได้รู้คือ มนุษย์เราสามารถกินโซเดียมต่อวันไม่เกิน2,300มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งจากที่ผมกินเมื่อก่อนคือ 3000กว่าๆ วันนึ่งที่ได้รับ หมอก็เลยให้ดูจากที่เครื่องตรวจ ว่าเส้นประสาทตามันทับกันแล้ว ผมอธิบายไม่ค่อยถูกดูจากรูป อันนี้ตาข้างซ้ายที่เป็น
อันนี้ข้างขวา
แต่หมอบอกว่าถ้าไม่หยุดกินคือ มีสิทธ์ตาบอดได้ หมอก็เลยจ่ายยาหยอดแต่ไม่ใช่อันเดิมที่หมอคนแรกให้ แต่ให้ยอดเช้า-เย็น เหมือนเดิม และให้ลดโซเดียมแล้วให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆเพื่อขับมันออกมา ผ่านไปสัปดาห์กว่าๆ รอยตรงที่ตาหรือจางหายไปทีละนิดทีละนิด จนมันหายสนิทมองเป็นปกติเหมือนเดิม ฝากเพื่อนๆที่มาอ่านกระทู้ระวังการกินจำพวกมาม่าที่มีโซเดียมเยอะๆ กินเยอะเกินปริมานต่อวัน แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ
อายุ18เกือบตาบอดเพราะกินมาม่า
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปีที่แล้วตอนนั้นผมอายุ 18 มีปัญหาเกี่ยวกับตาข้างซ้าย เหมือนมีรอยนิ้วมือมาแปะตรงกระจกตาแล้ว ขยับไปขยับมาตามที่เรามอง แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร มันรู้สึกรำคาญ ตอนต้นปีก่อนเป็นประมาณ2อาทิตย์ ทีแรกนึกว่ายาขึ้นตาแต่ไม่รู้ว่ายาขึ้นตาได้รึเปล่า เพราะตอนนั้นกินซิงค์เพื่อรักษาสิวอยู่ และบวกอยู่หน้าคอมนานๆ วันหนึ่งนั่งอยู่หน้าคอมประมาณเกือบ10ชั่วโมง แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ตอนต้นปีก็ใช้ชีวิตปกติ แล้วมันก็หาย แล้วพอท้ายปีก่อนช่วงเดือนกันยา-ตุลา อาการเดิมมันมาอีกแล้ว แต่รอบนี้มันหนักกว่า เพราะมันมีปัญหาในการขับรถตอนกลางคืน เวลาแสงรถหรือแสงข้างทางมากระทบตาเข้ามาจะแสบ และมองสู้ไม่ได้ ต้องค่อยๆหรี่ตา ตอนนั้นคิดว่าเดี๋ยวมันก็หาย ผ่านไปเดือนกว่าๆ มันก็ยังไม่หายมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจไปหาหมอตา หมอคนแรกบอกให้เอายาหยอดตาตัวหนึ่งไปยอดวันละสองเวลา เช้า-เย็น หยอดไปประมาณสัปดาห์หนึ่งรู้สึกว่ามันเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเลย เลยตัดสินใจไปหาหมออีกท่านนึ่งซึ่งเปิดคลีนิคมานานพอสมควร เลยไปหาหมอคนนั้น หมอก็ให้ไปนั่งตรงที่เขาเช็คตาไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร ซึ่งหมอคนแรกเขาเอาไฟฉายมาส่องเฉยๆ แต่หมอคนที่สองเขาตรวจกับเครื่องมือ สรุปว่า ไม่แน่ใจว่าหมอบอกว่าอะไร แต่คราวๆที่นึกได้หมอบอกว่า เค็มขึ้นตาคือกินโซเดียมหรือผงชูรสเยอะเกินไป หมอบอกมาจากพวกมาม่าพวกขนมที่โซเดียมสูงๆ ซึ่งตอนนั้นเราถามหมอว่า มันเกี่ยวกับการมองจอนานๆรึเปล่า แต่หมอบอกว่าเปอร์เซนต์น้อยมากที่จะเกิดจากแสงจอ ผมก็เลยมานั่งนึกได้ว่า ช่วงนั้นกินมาม่าของมาเลย์ยี่ห้อหนึ่ง มาเป็นเดือนๆ คือกินที2ซอง ซึ่งค่าโซเดียมต่อซองคือเยอะแล้วบวกกินสัปดาห์หนึ่งกินไปแล้ว4-5ซอง เกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งปกติตามที่ผมได้รู้คือ มนุษย์เราสามารถกินโซเดียมต่อวันไม่เกิน2,300มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งจากที่ผมกินเมื่อก่อนคือ 3000กว่าๆ วันนึ่งที่ได้รับ หมอก็เลยให้ดูจากที่เครื่องตรวจ ว่าเส้นประสาทตามันทับกันแล้ว ผมอธิบายไม่ค่อยถูกดูจากรูป อันนี้ตาข้างซ้ายที่เป็น
อันนี้ข้างขวา
แต่หมอบอกว่าถ้าไม่หยุดกินคือ มีสิทธ์ตาบอดได้ หมอก็เลยจ่ายยาหยอดแต่ไม่ใช่อันเดิมที่หมอคนแรกให้ แต่ให้ยอดเช้า-เย็น เหมือนเดิม และให้ลดโซเดียมแล้วให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆเพื่อขับมันออกมา ผ่านไปสัปดาห์กว่าๆ รอยตรงที่ตาหรือจางหายไปทีละนิดทีละนิด จนมันหายสนิทมองเป็นปกติเหมือนเดิม ฝากเพื่อนๆที่มาอ่านกระทู้ระวังการกินจำพวกมาม่าที่มีโซเดียมเยอะๆ กินเยอะเกินปริมานต่อวัน แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ