“เกียรตินาคินภัทร” กำลังตกเป็นจำเลยร่วมของสังคม พร้อมกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์

กระทู้คำถาม
บล.เกียรตินาคินภัทร..โบรกเกอร์ ROBOT / สุนันท์ ศรีจันทรา                                                                                                                                       บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ แย่งตำแหน่งแชมป์โบรกเกอร์ที่มีมูลค่าซื้อขายหุ้นสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2562 โดยปี 2561 ยังเป็นโบรกเกอร์ที่มีมาร์เก็ตแชร์หรือส่วนแบ่งมูลค่าซื้อขายหุ้นเพียง 4.65% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นรวมทั้งตลาด โดยเป็นโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับ 6
แต่ปี 2562 ผงาดขึ้นเป็นโบรกเกอร์เบอร์ 1 มาร์เก็ตแชร์พุ่งขึ้น 9.74% ปี 2563 มาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 11.05% ปี 2564 มาร์เก็ตแชร์ 14.73% ปี 2565 มาร์เก็ตแชร์ 19.62% ส่วนปี 2566 จนสิ้นสุดวันที่ 15 พฤศจิกายน มาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 20.60%
บริษัทสมาชิกตลาดหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์มีจำนวนทั้งสิ้น 38 แห่ง แต่ บล.เกียรตินาคินภัทร โกยมาร์เก็ตแชร์ไปแล้วกว่า 1 ใน 5 ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งตลาด
เค้กก้อนโตจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขาย บล.เกียรตินาคินภัทร กวาดไปแล้ว 20% ส่วนโบรกเกอร์อีก 37 เบอร์ที่เหลือ ต้องตบตีแย่งชิงมาร์เก็ตแชร์ และหลายแห่ง รวมทั้งโบรกเกอร์ต่างชาติ ไม่อาจแย่งชิงมาร์เก็ตแชร์ได้ ต้องแบกขาดทุนต่อเนื่องหลายปี จนเริ่มถอดใจ เตรียมขายใบอนุญาตทิ้ง
ความเติบโตคับตลาดหุ้นของ บล.เกียรตินาคินภัทร เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการแทรกซึมของ ROBOT ซึ่ง บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นโบรกเกอร์ที่ใช้ ROBOT สูงสุด มูลค่าการซื้อขายหุ้นที่โตพรวดพลาดขึ้นมา ไม่ได้เกิดจากลูกค้ารายย่อย หรือนักลงทุนต่างชาติที่สั่งซื้อขายหุ้นตามกลไกปกติ
แต่เชื่อกันว่า ส่วนใหญ่เป็นมูลค่าการซื้อขายผ่าน ROBOT
“เกียรตินาคินภัทร” กำลังตกเป็นจำเลยร่วมของสังคม พร้อมกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์
เพราะขณะที่นักลงทุนรายย่อยล้มหายตายจาก นักลงทุนรายใหญ่ออกมาร้องโอดครวญ 5-6 ปีที่ผ่านมาขาดทุนหุ้นป่นปี้ แต่ บล.เกียรตินาคินภัทร กลับรุ่งเรืองขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
การที่นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนโตกระแสทวน ไม่ยอมทบทวนการอนุญาตให้ทำ SHORT SELL และไม่ยอมยกเลิก ROBOT ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอื้อ บล.เกียรตินาคินหรือไม่ 
เพราะเป็นโบรกเกอร์ที่หากินอย่างเป็นล่ำเป็นสันจาก ROBOT
เรื่องราวของ บล.เกียรตินาคินถูกขุดคุ้ยขึ้นมา โดยกรรมการตลาดหลกทรัพย์จำนวน 10 คน มีคนของกลุ่ม บล.เกียรตินาคิน ถูกเลือกเข้ามาเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ในวาระเดียวกันถึง 2 คนคือ นายศุภโชค ศุภบัณฑิต กรรมการธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.เกียรตินาคินภัทร
และ ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักผู้บริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
แน่นอนการประชุมคณะกรรมการตลาดหลีกทรัพย์ ค่ายเกียรตินาคินภัทร ย่อมมีเสียงดังกว่า เพราะมีถึง 2 เสียง
แต่โครงสร้างโควตาหกรรมการตลาดหลักทรัพย์ที่มาจากตัวแทนโบรกเกอร์ 4 คน กำลังถูกปรับเปลี่ยน ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันกลุ่มธุรกิจเอกชนส่งคนของตัวเองเข้ามาเป็นกรรมการตลาด และดูแลผลประโยชน์ของตัวเอง
นอกจากนั้นยังมีการโยงใยสายสัมพันธ์ทางครอบครัว ระหว่าง ดร.ณัฐ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ กับ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ทีมรีเสิร์ชของ บล.เกียรตินาคินภัทร พี่ชาย ดร.ณัฐด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง จะนำไปสู่ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ หรือเอื้อการทำงานกันหรือไม่ เป็นอีกประเด็นที่คนในแวดวงโบรกเกอร์ตั้งคำถาม
และความสัมพันธ์ระหว่าง นายภากร กับ ผู้บริหาร บล.เกียรตินาคีน ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อ คลุกคลีตีโมงดื่มกิน จนเกิดความเกรงใจกันหรือไม่
บล.เกียรตินาคิน กำลังถูกหางเลข ถูกดึงเป็นจำเลยร่วม ของนักลงทุนที่ลุกฮือต่อต้าน SHORT SELL และ ROBOT
แต่ บล.เกียรตินาคินภัทร อาจไม่ให้ความสำคัญกับเสียงนักลงทุนรายย่อย เพราะโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่ง ได้มาจากแรงหนุน ROBOT
ส่วน ROBOT จะไปไล่ต่อยตีนักลงทุนในประเทศจนอ่วมอรทัยขนาดไหน “เกียรตินาคินภัทร” ทำไมทุกข์ร้อนด้วย                                                              https://mgronline.com/stockmarket/detail/9660000103541?fbclid=IwAR3nmdrDdX7o_W60eSmwZm5w3_3rk7Fn4fdyPhMrxxW9vMFg5i3xNP5BpXc
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่