กาตาร์พยายามเจรจาให้อิสราเอลหยุดยิง 3 วัน ฮามาสปล่อยตัวประกัน 50 คน
https://www.dailynews.co.th/news/2904731/
มีรายงานว่า อิสราเอลกำลังพิจารณาข้อเสนอจากกลุ่มฮามาส ซึ่งบอกผ่านกาตาร์ ว่าพร้อมปล่อยตัวประกัน 50 คน แต่อิสราเอลต้องหยุดยองนาน 3 วัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลฟาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 16 พ.ย.โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลกาตาร์ ซึ่งเป็นคนกลางการเจรจาเรื่องตัวประกัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ว่าอิสราเอลกำลังพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มฮามาส ในการพักรบเป็นเวลา 3 วัน และเพิ่มการเปิดทางให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา แลกกับการที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 50 คน โดยในเบื้องต้นกลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ หากอิสราเอลตกลง จะเป็นการปล่อยตัวประกันครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มฮามาส นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยจนถึงตอนนี้ กลุ่มฮามาสควบคุมตัวประกันไว้ราว 240 คน และปล่อยตัวประกันออกมาเพียง 4 คน เป็นแม่ลูกชาวอเมริกัน และหญิงชราชาวอิสราเอลสองคน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลช่วยเหลือทหารหญิงซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันออกมาได้นายหนึ่ง
https://twitter.com/TimesofIsrael/status/1724850788810494042
UNSC ร้องหยุดต่อสู้ เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถกปล่อยตัวประกันไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4285212
UNSC ร้องหยุดต่อสู้ เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถกปล่อยตัวประกันไม่คืบ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ผ่านข้อมติเรียกร้องให้มีการระงับการต่อสู้เพื่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นการเร่งด่วนในฉนวนกาซาแล้ว หลังความพยายามก่อนหน้านี้ถึง 4 ครั้งประสบความล้มเหลว เพราะมีชาติสมาชิกใช้สิทธิวีโต้ข้อมติดังกล่ว
ข้อมติของยูเอ็นเอสซียังระบุว่า การระงับการต่อสู้ดังกล่าวจะต้องมีจำนวนวันที่เพียงพอต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้อิสราเอลยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้หยุดยิง โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ และมีการหารือถึงการระงับการต่อสู้เป็นการชั่วคราว ภายใต้การหารือที่มีกาตาร์เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันบางส่วนที่ฮามาสจับกุมตัวเอาไว้
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ภายใต้การเจรจาของกาตาร์มีการพูดถึงข้อตกลงซึ่งรวมถึงการหยุดยิงเป็นเวลา 3 วัน โดยฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คน ขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวผู้หญิงและผู้เยาว์บางส่วนจากกลุ่มผู้ต้องขังด้านความมั่นคงที่อิสราเอลควบคุมตัวเอาไว้
เจ้าหน้าที่รายนี้บอกด้วยว่า ฮามาสตกลงกับรายละเอียดดังกล่าวแล้ว แต่อิสราเอลไม่เห็นด้วย ขณะนี้จึงยังอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขต่อไป
ด้านแหล่งข่าวในตะวันออกกลางที่ทราบเรื่องการเจรจาบอกด้วยว่า การรวบรวมตัวประกันเพื่อการปล่อยตัวพร้อมๆ กันตามที่อิสราเอลต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในเชิงโลจิสติกส์หากไม่มีการหยุดยิงเกิดขึ้น
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ยังเผยแพร่ภาพถ่ายทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกล่องกระดาษแข็งที่มีเครื่องหมายว่าเวชภัณฑ์และอาหารเด็กทารก ในสถานที่ที่รอยเตอร์ยืนยันว่าอยู่ภายในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ขณะที่ภาพถ่ายอื่นๆ แสดงให้เห็นกองทหารอิสราเอลที่จัดขบวนเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีเดินผ่านเต็นท์และที่นอนชั่วคราวที่ชาวบ้านจัดทำขึ้น
ไอดีเอฟระบุว่า ก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่โรงพยาบาล กองทัพได้เผชิญกับระเบิดและกลุ่มก่อการร้าย ทำให้เกิดการต่อสู้ซึ่งผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต แต่สามารถยืนยันได้ว่าตู้อบ อาหารสำหรับทารก และเวชภัณฑ์จากอิสราเอลถูกนำไปส่งยังโรงพยาบาลอัล-ชิฟาแล้วโดยรถถังของไอดีเอฟ
“
ทีมแพทย์ของเราและทหารที่พูดภาษาอาหรับได้ลงพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่า สิ่งของเหล่านั้นจะถูกส่งไปถึงมือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ” ไอดีเอฟระบุ
‘
กมธ.มั่นคง’ เชิญหน่วยงานแจงช่วยคนไทยในเล้าก์ก่าย ‘โรม’ มองยังล่าช้า เตรียมจะใช้ช่องทาง กมธ.ช่วยเจรจา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4285062
กมธ.มั่นคง สภาฯ เชิญหน่วยงานแจง การช่วยเหลือคนไทยในเล้าก์ก่าย ด้าน “โรม” มองยังล่าช้าอยู่ เตรียมจะใช้ช่องทาง กมธ.ช่วยเจรจา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นัดประชุมในวาระพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ได้แก่ อธิบดีกรมการกงสุล เป็นตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้ากรมยุทธการทหารบก ตัวแทนผู้บัญชาการกองทัพบก
โดย นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.ฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ว่า การประชุมคงมีหลากหลายประเด็นที่จะสอบถามตัวแทนหน่วยงานที่เชิญมา ว่าทิศทาง จะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือคนไทยให้ออกมาอย่างเร็วที่สุด ซึ่งตนก็ติดตามและทราบดีว่าจะมี 41 คนที่มาถึงเมืองไทย แต่เข้าใจว่าเมืองที่จัดมาอาจจะไม่ใช่เล้าก์ก่าย เบื้องต้นสำหรับการช่วยเหลือคนไทย ก็ยังกังวลว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าการเดินทางมีความยากลำบาก หากจะเดินทางมาเมืองไทยโดยตรง สถานการณ์ในเมียนมาก็มีความละเอียดอ่อนค่อนข้างสูง
“
ถ้าเราจะใช้ความสัมพันธ์หรืออะไรต่างๆ ที่เป็นไปได้ในการเจรจากันในการช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างอยู่ ก็คงมีความจำเป็นที่อาจจะขอผ่านทางนี้ได้หรือไม่ แต่ก็ต้องผ่านการเจรจา ผมก็อยากจะทราบใน 2-3 ข้อ คือ
1.ที่ผ่านมาติดอุปสรรคอะไรในการที่จะช่วยเหลือคนไทย เพราะต้องยอมรับว่าไม่ได้มีแค่คนไทยล็อตนี้ แต่ในอนาคตก็จะมีอีก อาจจะยังรอเวลาสถานการณ์ในเมียนมา แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ
2. คงเป็นเรื่องของเราต้องทำอะไรที่จะช่วยกันเพื่อที่จะช่วยเหลือคนไทย และคงจะเป็นในส่วนของกมธ.ฯ เราก็อาจจะต้องไปเจรจาหาทางพูดคุย
ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรารู้เรื่องนี้เราพยายามพูดคุยกับหน่วยความมั่นคง ก็ต้องยอมรับว่ามันยังล่าช้าอยู่ ผมหวังว่าวันนี้เราจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจและเราก็จะแบ่งงานกันในการหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่” นาย
รังสิมันต์ กล่าว
JJNY : กาตาร์พยายามเจรจาหยุดยิง 3 วัน│UNSC ร้องหยุดต่อสู้│‘กมธ.มั่นคง’เชิญแจงช่วยคนไทย│สุดย้อนแย้ง!เชื่อมั่นผู้บริโภคสูง
https://www.dailynews.co.th/news/2904731/
มีรายงานว่า อิสราเอลกำลังพิจารณาข้อเสนอจากกลุ่มฮามาส ซึ่งบอกผ่านกาตาร์ ว่าพร้อมปล่อยตัวประกัน 50 คน แต่อิสราเอลต้องหยุดยองนาน 3 วัน
ทั้งนี้ หากอิสราเอลตกลง จะเป็นการปล่อยตัวประกันครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มฮามาส นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยจนถึงตอนนี้ กลุ่มฮามาสควบคุมตัวประกันไว้ราว 240 คน และปล่อยตัวประกันออกมาเพียง 4 คน เป็นแม่ลูกชาวอเมริกัน และหญิงชราชาวอิสราเอลสองคน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลช่วยเหลือทหารหญิงซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันออกมาได้นายหนึ่ง
https://twitter.com/TimesofIsrael/status/1724850788810494042
UNSC ร้องหยุดต่อสู้ เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถกปล่อยตัวประกันไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4285212
UNSC ร้องหยุดต่อสู้ เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถกปล่อยตัวประกันไม่คืบ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ผ่านข้อมติเรียกร้องให้มีการระงับการต่อสู้เพื่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นการเร่งด่วนในฉนวนกาซาแล้ว หลังความพยายามก่อนหน้านี้ถึง 4 ครั้งประสบความล้มเหลว เพราะมีชาติสมาชิกใช้สิทธิวีโต้ข้อมติดังกล่ว
ข้อมติของยูเอ็นเอสซียังระบุว่า การระงับการต่อสู้ดังกล่าวจะต้องมีจำนวนวันที่เพียงพอต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้อิสราเอลยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้หยุดยิง โดยให้เหตุผลว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ และมีการหารือถึงการระงับการต่อสู้เป็นการชั่วคราว ภายใต้การหารือที่มีกาตาร์เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันบางส่วนที่ฮามาสจับกุมตัวเอาไว้
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ภายใต้การเจรจาของกาตาร์มีการพูดถึงข้อตกลงซึ่งรวมถึงการหยุดยิงเป็นเวลา 3 วัน โดยฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คน ขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวผู้หญิงและผู้เยาว์บางส่วนจากกลุ่มผู้ต้องขังด้านความมั่นคงที่อิสราเอลควบคุมตัวเอาไว้
เจ้าหน้าที่รายนี้บอกด้วยว่า ฮามาสตกลงกับรายละเอียดดังกล่าวแล้ว แต่อิสราเอลไม่เห็นด้วย ขณะนี้จึงยังอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขต่อไป
ด้านแหล่งข่าวในตะวันออกกลางที่ทราบเรื่องการเจรจาบอกด้วยว่า การรวบรวมตัวประกันเพื่อการปล่อยตัวพร้อมๆ กันตามที่อิสราเอลต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในเชิงโลจิสติกส์หากไม่มีการหยุดยิงเกิดขึ้น
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ยังเผยแพร่ภาพถ่ายทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกล่องกระดาษแข็งที่มีเครื่องหมายว่าเวชภัณฑ์และอาหารเด็กทารก ในสถานที่ที่รอยเตอร์ยืนยันว่าอยู่ภายในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ขณะที่ภาพถ่ายอื่นๆ แสดงให้เห็นกองทหารอิสราเอลที่จัดขบวนเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีเดินผ่านเต็นท์และที่นอนชั่วคราวที่ชาวบ้านจัดทำขึ้น
ไอดีเอฟระบุว่า ก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่โรงพยาบาล กองทัพได้เผชิญกับระเบิดและกลุ่มก่อการร้าย ทำให้เกิดการต่อสู้ซึ่งผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต แต่สามารถยืนยันได้ว่าตู้อบ อาหารสำหรับทารก และเวชภัณฑ์จากอิสราเอลถูกนำไปส่งยังโรงพยาบาลอัล-ชิฟาแล้วโดยรถถังของไอดีเอฟ
“ทีมแพทย์ของเราและทหารที่พูดภาษาอาหรับได้ลงพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่า สิ่งของเหล่านั้นจะถูกส่งไปถึงมือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ” ไอดีเอฟระบุ
‘กมธ.มั่นคง’ เชิญหน่วยงานแจงช่วยคนไทยในเล้าก์ก่าย ‘โรม’ มองยังล่าช้า เตรียมจะใช้ช่องทาง กมธ.ช่วยเจรจา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4285062
กมธ.มั่นคง สภาฯ เชิญหน่วยงานแจง การช่วยเหลือคนไทยในเล้าก์ก่าย ด้าน “โรม” มองยังล่าช้าอยู่ เตรียมจะใช้ช่องทาง กมธ.ช่วยเจรจา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นัดประชุมในวาระพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ได้แก่ อธิบดีกรมการกงสุล เป็นตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้ากรมยุทธการทหารบก ตัวแทนผู้บัญชาการกองทัพบก
โดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.ฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ว่า การประชุมคงมีหลากหลายประเด็นที่จะสอบถามตัวแทนหน่วยงานที่เชิญมา ว่าทิศทาง จะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือคนไทยให้ออกมาอย่างเร็วที่สุด ซึ่งตนก็ติดตามและทราบดีว่าจะมี 41 คนที่มาถึงเมืองไทย แต่เข้าใจว่าเมืองที่จัดมาอาจจะไม่ใช่เล้าก์ก่าย เบื้องต้นสำหรับการช่วยเหลือคนไทย ก็ยังกังวลว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าการเดินทางมีความยากลำบาก หากจะเดินทางมาเมืองไทยโดยตรง สถานการณ์ในเมียนมาก็มีความละเอียดอ่อนค่อนข้างสูง
“ถ้าเราจะใช้ความสัมพันธ์หรืออะไรต่างๆ ที่เป็นไปได้ในการเจรจากันในการช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างอยู่ ก็คงมีความจำเป็นที่อาจจะขอผ่านทางนี้ได้หรือไม่ แต่ก็ต้องผ่านการเจรจา ผมก็อยากจะทราบใน 2-3 ข้อ คือ
1.ที่ผ่านมาติดอุปสรรคอะไรในการที่จะช่วยเหลือคนไทย เพราะต้องยอมรับว่าไม่ได้มีแค่คนไทยล็อตนี้ แต่ในอนาคตก็จะมีอีก อาจจะยังรอเวลาสถานการณ์ในเมียนมา แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ
2. คงเป็นเรื่องของเราต้องทำอะไรที่จะช่วยกันเพื่อที่จะช่วยเหลือคนไทย และคงจะเป็นในส่วนของกมธ.ฯ เราก็อาจจะต้องไปเจรจาหาทางพูดคุย
ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรารู้เรื่องนี้เราพยายามพูดคุยกับหน่วยความมั่นคง ก็ต้องยอมรับว่ามันยังล่าช้าอยู่ ผมหวังว่าวันนี้เราจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจและเราก็จะแบ่งงานกันในการหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว