ผมคิดว่าหลายคนที่กดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ คงสงสัยเเละมีคำถามไปในทิศทางเดียวกันว่า “Poker Face คืออะไร" เาจะมาหาคำตอบกันในกระทู้นี้ครับ

“Poker Face” หรือจะเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาไทยว่า ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ หรือสีหน้า (Emotional Control)
มาจากการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ที่ต้องใช้ทักษะทางจิตวิทยาสูงมาก ในการอ่านใจโดยอาศัยสีหน้า เพื่อคาดเดาไพ่ในมือของคู่ต่อสู้ ในขณะเดียวกันก็ต้องวางสีหน้าไม่ให้คู่ต่อสู้อ่านเราออกอีกด้วย นับเป็นหนึ่งใจskillsสำคัญในบุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ครับ มีประโยชน์ทั้งในด้านการสื่อสาร การต่อรอง การควบคุมสีหน้าไม่ให้ดูตื่นเต้นหรือลนลาน ในบางสถานะการณ์ โดยเฉพาะตอนที่เราเกิดความรู้สึกลบๆ เช่น อารมณ์โกรธ ผิดหวัง เสียใจ หรือเมื่อเราทำตัวไม่ถูกต่อหน้าผู้อื่นครับ Poker Face จะช่วยให้เราควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้มากกว่าคนที่แสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้ Poker Face ในที่ทำงาน ไม่ได้หมายถึงการทำหน้านิ่งไร้อารมณ์ หรือตีหน้าซื่อ แต่เป็นการควบคุมสีหน้าไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ลบๆ ออกไปจนคู่สนทนารู้สึกแย่ไปด้วย รวมๆก็คือ“Poker Face” เป็นskill ที่ช่วยเก็บซ่อนสีหน้า อารมณ์เเละความรู้สึกที่ไม่ดี เก็บซ่อนไว้นั่นเอง
“Poker Face” ใช่ว่าจะใช้เวลาไหน เเล้วก็เมื่อไหร่ก็ได้ครับ ในบางสถานะการณ์ “Poker Face” อาจจะไม่เหมาะเช่น ในการสนทนาที่ต้องหวังพึ่งอารมณ์ความรู้สึก หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Emphaty conversation นั่นเองครับ
หากพิจารณาเเละไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเเล้ว “Poker Face” ยังมีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยครับ เเละต่อจากนี้ผมจะเเนะนำการฝึกฝน เเละtricks เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “Poker Face” กันครับ
ข้อเเรกเลย รับรู้จุดอ่อนของตัวเอง
โดยปกติแล้ว การตอบสนองของร่างกายจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ และแต่ละคนก็จะตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ในสถานการณ์ที่เครียด ความกดดัน ร่างกายจะตอบสนอง และรับมือต่อสิ่งเร้าเหล่านั้นด้วยท่าทางต่างๆ ซึ่งท่าทางที่แสดงออกมานั้นก็มีทั้งคนที่รู้ตัว และไม่รู้ตัว ลองสังเกตดูว่าสีหน้าและท่าทางของเราเป็นอย่างไร เมื่อเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตอนเครียด กังวล หรือตอนที่รู้สึกประหม่า อาจจะลองถามคนรอบตัวดูก็ได้ครับ รวมถึงการบอก หรือระบายความรู้สึกให้คนสนิทฟังก็ถือเป็นวิธีที่ดี ที่ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกในใจให้โล่งขึ้นได้บ้าง
ต่อมาข้อสองนะครับ การระมัดระวังสีหน้าและท่าทาง
อารมณ์และปฏิกิริยาทางร่างกายเป็นสิ่งเชื่อมโยงกัน เมื่อเรากลัว ตื่นเต้น สมองจะประมวลผลได้ไม่ดีเท่าเวลาปกติ จึงทำให้พูดไม่รู้เรื่อง เนื้อหาวกไปวนมา
ทำให้เราต้องระวังช่วงนี้เป็นพิเศษนะครับ การควบคุมอารมณ์ที่ได้ผลดีต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายด้วยครับ
เเละข้อสามข้อสุดท้ายครับ ข่มอารมณ์ ควบคุม Reaction
เมื่อความรู้สึกของเรามันท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ เราเผลอแสดงออกโดยไม่ทันระมัดระวัง หรือตอบกลับด้วยท่าทางที่ซื่อตรงมากเกินไป เช่น เหม่อลอยเมื่อกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง แสดงอาการเสียใจเมื่อถูกปฏิเสธ หรือแสดงน้ำเสียงต่อต้านเมื่อมีคนเห็นต่าง การข่มอารมณ์ให้รู้สึก และแสดงออกมาอย่างพอดี สามารถฝึกได้ด้วยการมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ฝึกได้ด้วยการนั่งสมาธิเป็นประจำ แค่วันละ 10 นาทีก็ทำให้เรานิ่งขึ้น มีสติมากขึ้นได้ หรืออาจจะฝึกควบคุมอารมณ์ด้วยการนับเลข หรืออาจจะเป็นการจินตนาการ ถึงภาพที่ทำให้เราสงบก็ช่วยไได้เยอะเลยครับ
อย่างไรก็ดี ทักษะการควบคุมอารมณ์ และการใช้ Poker Face ในที่ทำงานไม่ได้หมายความว่าห้ามแสดงความรู้สึก หรือห้ามบอกความในใจให้ใครรู้ แต่เป็นทักษะการแสดงอารมณ์และสีหน้าอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างความประทับใจ เเละสร้างความน่าเชื่อถือเท่านั้นครับ
สุดท้ายผมขอฝากไว้ก่อนจบกระทู้ครับ หากจะมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เรานั้น เก็บสีหน้าหรือความรู้สึกไม่อยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเราทุกคนนั้นเป็นมนุษย์ ทุกคนล้วนมีเรื่องที่ส่งผลกระทบกับความรู้สึกต่างกันไป จะร้องไห้ หรือระบายให้คนรู้จักฟังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเเย่เลย เราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลาจริงๆครับ
“็human always being human”
ขอขอบคุณบทความอ้างอิงจากwedsite Misstion to the moon ครับ
(ที่เขียนมาทั้งหมดล้วนเป็นงานส่งอาจารย์ เเต่ก็หวังว่าคนอ่านจะได้ประโยชน์กันนะครับ) ด้วยรักเเละหวังดี corazon
#โบ๊ตคนสกล
“Poker Face” คืออะไร?
“Poker Face” หรือจะเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาไทยว่า ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ หรือสีหน้า (Emotional Control)
มาจากการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ที่ต้องใช้ทักษะทางจิตวิทยาสูงมาก ในการอ่านใจโดยอาศัยสีหน้า เพื่อคาดเดาไพ่ในมือของคู่ต่อสู้ ในขณะเดียวกันก็ต้องวางสีหน้าไม่ให้คู่ต่อสู้อ่านเราออกอีกด้วย นับเป็นหนึ่งใจskillsสำคัญในบุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ครับ มีประโยชน์ทั้งในด้านการสื่อสาร การต่อรอง การควบคุมสีหน้าไม่ให้ดูตื่นเต้นหรือลนลาน ในบางสถานะการณ์ โดยเฉพาะตอนที่เราเกิดความรู้สึกลบๆ เช่น อารมณ์โกรธ ผิดหวัง เสียใจ หรือเมื่อเราทำตัวไม่ถูกต่อหน้าผู้อื่นครับ Poker Face จะช่วยให้เราควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้มากกว่าคนที่แสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้ Poker Face ในที่ทำงาน ไม่ได้หมายถึงการทำหน้านิ่งไร้อารมณ์ หรือตีหน้าซื่อ แต่เป็นการควบคุมสีหน้าไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ลบๆ ออกไปจนคู่สนทนารู้สึกแย่ไปด้วย รวมๆก็คือ“Poker Face” เป็นskill ที่ช่วยเก็บซ่อนสีหน้า อารมณ์เเละความรู้สึกที่ไม่ดี เก็บซ่อนไว้นั่นเอง
“Poker Face” ใช่ว่าจะใช้เวลาไหน เเล้วก็เมื่อไหร่ก็ได้ครับ ในบางสถานะการณ์ “Poker Face” อาจจะไม่เหมาะเช่น ในการสนทนาที่ต้องหวังพึ่งอารมณ์ความรู้สึก หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Emphaty conversation นั่นเองครับ
หากพิจารณาเเละไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเเล้ว “Poker Face” ยังมีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยครับ เเละต่อจากนี้ผมจะเเนะนำการฝึกฝน เเละtricks เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “Poker Face” กันครับ
ข้อเเรกเลย รับรู้จุดอ่อนของตัวเอง
โดยปกติแล้ว การตอบสนองของร่างกายจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ และแต่ละคนก็จะตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ในสถานการณ์ที่เครียด ความกดดัน ร่างกายจะตอบสนอง และรับมือต่อสิ่งเร้าเหล่านั้นด้วยท่าทางต่างๆ ซึ่งท่าทางที่แสดงออกมานั้นก็มีทั้งคนที่รู้ตัว และไม่รู้ตัว ลองสังเกตดูว่าสีหน้าและท่าทางของเราเป็นอย่างไร เมื่อเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตอนเครียด กังวล หรือตอนที่รู้สึกประหม่า อาจจะลองถามคนรอบตัวดูก็ได้ครับ รวมถึงการบอก หรือระบายความรู้สึกให้คนสนิทฟังก็ถือเป็นวิธีที่ดี ที่ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกในใจให้โล่งขึ้นได้บ้าง
ต่อมาข้อสองนะครับ การระมัดระวังสีหน้าและท่าทาง
อารมณ์และปฏิกิริยาทางร่างกายเป็นสิ่งเชื่อมโยงกัน เมื่อเรากลัว ตื่นเต้น สมองจะประมวลผลได้ไม่ดีเท่าเวลาปกติ จึงทำให้พูดไม่รู้เรื่อง เนื้อหาวกไปวนมา
ทำให้เราต้องระวังช่วงนี้เป็นพิเศษนะครับ การควบคุมอารมณ์ที่ได้ผลดีต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายด้วยครับ
เเละข้อสามข้อสุดท้ายครับ ข่มอารมณ์ ควบคุม Reaction
เมื่อความรู้สึกของเรามันท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ เราเผลอแสดงออกโดยไม่ทันระมัดระวัง หรือตอบกลับด้วยท่าทางที่ซื่อตรงมากเกินไป เช่น เหม่อลอยเมื่อกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง แสดงอาการเสียใจเมื่อถูกปฏิเสธ หรือแสดงน้ำเสียงต่อต้านเมื่อมีคนเห็นต่าง การข่มอารมณ์ให้รู้สึก และแสดงออกมาอย่างพอดี สามารถฝึกได้ด้วยการมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ฝึกได้ด้วยการนั่งสมาธิเป็นประจำ แค่วันละ 10 นาทีก็ทำให้เรานิ่งขึ้น มีสติมากขึ้นได้ หรืออาจจะฝึกควบคุมอารมณ์ด้วยการนับเลข หรืออาจจะเป็นการจินตนาการ ถึงภาพที่ทำให้เราสงบก็ช่วยไได้เยอะเลยครับ
อย่างไรก็ดี ทักษะการควบคุมอารมณ์ และการใช้ Poker Face ในที่ทำงานไม่ได้หมายความว่าห้ามแสดงความรู้สึก หรือห้ามบอกความในใจให้ใครรู้ แต่เป็นทักษะการแสดงอารมณ์และสีหน้าอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างความประทับใจ เเละสร้างความน่าเชื่อถือเท่านั้นครับ
สุดท้ายผมขอฝากไว้ก่อนจบกระทู้ครับ หากจะมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เรานั้น เก็บสีหน้าหรือความรู้สึกไม่อยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเราทุกคนนั้นเป็นมนุษย์ ทุกคนล้วนมีเรื่องที่ส่งผลกระทบกับความรู้สึกต่างกันไป จะร้องไห้ หรือระบายให้คนรู้จักฟังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเเย่เลย เราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลาจริงๆครับ
“็human always being human”
ขอขอบคุณบทความอ้างอิงจากwedsite Misstion to the moon ครับ
(ที่เขียนมาทั้งหมดล้วนเป็นงานส่งอาจารย์ เเต่ก็หวังว่าคนอ่านจะได้ประโยชน์กันนะครับ) ด้วยรักเเละหวังดี corazon
#โบ๊ตคนสกล