JJNY : 5in1 เตือนน้ำแข็งละลายขั้นวิกฤต│มาเลเซียเผชิญขาดแคลน│‘ณัฐชา‘มองยังไม่มีสภาพคล่อง│ท็อปนิวส์โกย│ปลากระพงมาเลย์ทะลัก

องค์การอวกาศยุโรปเตือนสถานการณ์น้ำแข็งขั้วโลกละลายเข้าขั้นวิกฤต
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/210128

ผู้อำนวยการองค์การอวกาศยุโรปออกโรงเตือนสถานการณ์น้ำแข็งขั้วโลกละลายเข้าขั้นวิกฤตแล้ว

โจเซฟ อัสช์บัคเคอร์ (Josef Aschbacher) ผู้อำนวยการองค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA เตือนว่า การละลายของแผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งขั้วโลกนั้น เข้าขั้น “วิกฤตมาก” พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำโลกตระหนัก ถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกรอบการประชุมสุดยอด “One Planet Polar Summit” ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการป้องกันน้ำแข็งขั้วโลกละลาย และการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลก

ผู้อำนวยการองค์การอวกาศยุโรป กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศ ยังคงเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดที่ต้องเร่งรับมือ ซึ่งต้องอาศัยความพยายามจากทุกภาคส่วน หลังจากที่ในเดือนสิงหาคม อัสช์บัคเคอร์ เคยออกมาระบุว่า คลื่นความร้อนและไฟป่ารุนแรงเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจริงอย่างป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เมื่อเดือนพฤษภาคม ระบุว่า อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มทะลุ 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม เป็นครั้งแรกภายในปี 2027 หรืออีกเพียง 5 ปีข้างหน้าเท่านั้น
 


มาเลเซียเผชิญการขาดแคลนข้าวขาว ท่ามกลางปัญหาสภาพอากาศ-ราคาเมล็ดข้าว.
https://www.dailynews.co.th/news/2892318/

ภายในอีก 5 เดือน มาเลเซียอาจประสบปัญหาขาดแคลนข้าวขาวอย่างรุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน และราคาเมล็ดข้าวที่พุ่งสูง

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่า สภาพอากาศที่แปรปรวน อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวส่วนใหญ่ในมาเลเซียต้องเตรียมความพร้อม แม้พวกเขาเปลี่ยนไปใช้กำหนดการที่ทำให้เก็บเกี่ยวข้าว 5 ครั้ง ในทุก  2 ปีก็ตาม

นอกจากสภาพอากาศ ปัญหาอีกประการหนึ่งที่ชาวนาเผชิญ คือ การขาดแคลนเมล็ดข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวสูงขึ้น ซึ่งเกษตรกรมาเลเซียหลายคนอธิบายว่า นี่เป็นสถานการณ์วิกฤติ และกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา รวมถึงการจัดหาข้าวขาวภายในประเทศด้วย

นายวัน มหารุดดิน สุไลมาน ชาวนาวัย 66 ปี ในรัฐเกดะห์ กล่าวว่า เกษตรกรพยายามหาเมล็ดข้าวที่ได้รับการรับรองจากผู้จัดส่ง ทำให้พวกเขาต้องชะลอฤดูกาลปลูก ซึ่งควรจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

พวกเราส่วนใหญ่จากองค์การพื้นที่เกษตรกร (พีพีเคเอส) จองการจัดหาเมล็ดข้าวจากผู้จัดส่ง แต่เราได้รับแจ้งว่า ไม่มีเมล็ดข้าวที่ได้รับการรับรองเลย” สุไลมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้จัดส่งบางรายพยายามควบคุมราคาเมล็ดข้าว โดยกักตุนสต๊อกที่ควรขายให้เกษตรกร อีกทั้งเกษตรกรบางคนยังซื้อเมล็ดข้าวที่ผ่านการรับรอง ในราคาสูงกว่าราคาเพดานที่รัฐบาลกำหนด หรือได้รับเมล็ดข้าวในปริมาณจำกัด
 
อนึ่ง เกษตรกรในพื้นที่อื่น เช่น รัฐปีนัง และรัฐปะลิส ต่างเผชิญปัญหาเดียวกัน ขณะที่นายฟาห์มี ไซนอล ประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีการเกษตร  ความมั่นคงด้านอาหาร และการพัฒนาสหกรณ์ของรัฐปีนัง กล่าวว่า มีการดำเนินมาตรการต่าง ๆ แล้ว อาทิ การกำกับดูแล และการควบคุมการผลิตข้าวกับเมล็ดข้าวที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบ การจัดหาเมล็ดข้าวในโรงงานผลิตอย่างต่อเนื่อง และทำให้แน่ใจว่ามีอุปทานเพียงพอ


 
‘ณัฐชา‘ มอง รบ.ยังไม่มีสภาพคล่อง ซัด ‘กู้เงินได้ กู้เงินเป็น’ เหมือน ‘รบ.ตู่’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4278988
 
‘ณัฐชา’ มอง รบ.ยังไม่มีสภาพคล่อง ซัด ‘กู้เงินได้ กู้เงินเป็น’ เหมือน ‘รบ.ตู่’ ถามเงินกู้ 5 แสนล้านไม่มีที่มาชัดเจน พรรคร่วมจะลงมติอย่างไร ไม่เห็นด้วย ถ้าศาลรธน.ชี้ขาด

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการดิจิทัล วอลเล็ต ว่าแนวโน้มน่าจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อมาใช้กับโครงการดังกล่าวว่า ขณะนี้สภาพคล่องของรัฐบาลไม่สู้ดี โดยตั้งแต่การคิดโครงการมาหาเสียงไม่ได้มองรอบด้านว่าเอาเงินมาจากไหน ถ้าในวันหาเสียงพรรคเพื่อไทย (พท.) บอกประชาชนว่าจะกู้เงินเพื่อเอามาแจก ตนไม่แน่ใจว่าประชาชนจะให้การยอมรับหรือไม่ แต่วันนี้ประชาชนถามหาที่มาของเงิน รัฐบาลบอกเดี๋ยวไปกู้มา ตนเชื่อว่าประชาชนหลายคนถ้ารู้ว่ากู้มาโดยไม่หาช่องทางรายได้เข้ามา ก็จะให้การยอมรับไม่ได้แน่นอน ในช่วงหาเสียงบอกว่าเป็นรัฐบาลที่ “หาเงินเป็น หาเงินได้” แต่วันนี้เป็นแบบ “กู้เงินได้ กู้เงินเป็น” ซึ่งไม่ต่างกับรัฐบาลสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีที่แจกเงินแล้วประชาชนด่ากันทั้งประเทศ
 
วันนี้รัฐบาลเศรษฐาเข้ามากำลังทำเหตุการณ์เดียวกับรัฐบาลประยุทธ์ เปลี่ยนเพียงแค่นายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตนไม่เห็นด้วยกะบนโยบายนี้แน่นอน” นายณัฐชากล่าว
 
เมื่อถามว่านโยบายดังกล่าวสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงตามที่รัฐบาลประกาศไว้หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นโครงการ ฝั่งสนับสนุนก็บอกว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินดิจิทัล วอลเล็ตนั้นไม่ต่างจากแจกเช็ก 2,000 บาทในอดีต ซึ่งหลายคนมองว่านโยบายนี้ทำอะไรไม่ได้ เพียงแค่แจกเงินให้ประชาชนจับจ่ายเพื่อหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งเดียวเพื่อให้เศรษฐกิจเคลื่อนเป็นวงล้อ ซึ่งเป็นการประเมินทั้งสิ้น
 
ส่วนของเรามองว่าวันนี้ประชาชนเพิ่งผ่านสถานการณ์โควิดมา ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนต้องการในตอนนี้คือ การใช้หนี้คืน การแบ่งภาระลดดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นต้องทำอย่างไรก็ได้ให้เงินดิจิทัล วอลเล็ตเป็นเงินสด เพื่อเอาเงินสดไปใช้จ่ายคืนหนี้ที่จ่ายไปสมัยโควิด ตนเองเป็น ส.ส.เขตลงพื้นที่ ประชาชนก็บอกว่าอยากใช้หนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถที่ค้างอยู่ คำตอบคือ ดิจิทัล วอลเล็ต ใช้งานไม่ได้
 
ต่อข้อถามว่าถ้ามีการเสนอกฎหมายเข้าสภาฯจะคัดค้านหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า เงินกู้ 5 แสนล้าน เป็นเงินกู้ที่ไม่มีรายละเอียด 5 แสนล้านในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ ยังพอรู้ว่าเอามากู้วิกฤตโควิด แต่วันนี้ 5 แสนล้านของรัฐบาลเศรษฐา เป็น 5 แสนล้านที่ไม่ต้องการผิดคำพูด และเสียหน้าเท่านั้นเอง สุดท้ายส่งเข้าสภาฯมาทางส.ว.จะให้ผ่านหรือไม่ ตนคิดว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่จะเข้าสภาฯมีหลายคนวิจารณ์ว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้หาเสียงนโยบายนี้ไว้ วันนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติอย่างไรกับการสนับสนุนที่เขาไม่ได้หาเสียงไว้
 
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการพูดถึงให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด มองว่าเรื่องนี้จะไปถึงขั้นนั้นได้หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ถ้าไปถึงศาลรัฐธรรมนูญตนไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งไม่ใช่อำนาจของฝ่ายตุลาการ แต่เป็นอำนาจของฝ่ายบริหารถ้ามีเสถียรภาพพอ โดยฝ่ายนิติบัญัติและฝ่ายบริหารต้องพูดคุยกัน


 
ท็อปนิวส์ โกยรายได้ประชาสัมพันธ์ยุครัฐบาลประยุทธ์ 22 โครงการ 21 ล้าน
https://www.prachachat.net/politics/news-1435326

กลายเป็นทอคออฟเดอะทาว์ในวงการสื่อสารมวลชน เมื่อ “เสี่ยต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก ลาออกจากทุกตำแหน่งใน Top News โดยระบุเหตุผลไว้ในหนังสือลาออกที่เขียนด้วยลายมือว่า 
 
เนื่องด้วยทิศทางธุรกิจผมกับคณะบริหารไม่ตรงกัน นับจากนี้ ผมมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียว หากคณะกรรมการท่านใดพร้อมจะซื้อหุ้น ก็ยินดีจะขาย

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ด้วยทุนจะทะเบียน 100 ล้านบาท มีนายสนธิญาณเป็นผู้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัททำสัญญากับหน่วยงานของรัฐในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย “วิธีเฉพาะเจาะจง” เกือบทั้งหมด มีโครงการเดียวที่ใช้วิธีคัดเลือก รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ 21,442,448.53 บาท ดังนี้ 
 
ปี 2566 จำนวน 1 โครงการ คือ จ้างผลิตและประชาสัมพันธ์ 10 สุดยอด ชุมชนต้นแบบ เที่ยวชุมชน ยลวิถี ประจำปี 2565 ทางสื่อโทรทัศน์ 3,000,000 บาท หน่วยงานจัดซื้อ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
 
ปี 2565 จำนวน 9 โครงการ จำนวน 10,738,498 บาท 
- จ้างประชาสัมพันธ์ ปตท. วงเงิน 5,350,000 บาท บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 
- จ้างวางแผนและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แบบครบวงจรระยะยาว 9 เดือน  2,989,998 บาท การรถไฟแห่งประเทศไทย 
- จ้างเหมาดำเนินการผลิตและเผยแพร่สารคดีเชิงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ 500,000 บาท กรุงเทพมหานคร 
- จ้างผลิตและเผยแพร่สกู๊ปข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกและส่งเสริมให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม  499,500 บาท กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 
- จ้างองค์กรสื่อเพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โครงการเพลินใจไปกับไนท์ซาฟารี 499,000 บาท สำนักงานพัฒนาพิงคนคร(องค์การมหาชน)
- จ้างผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทางสื่อโทรทัศน์ 300,000.00 กรมการจัดหางาน 
- จ้างประชาสัมพันธ์ข่าวสารภารกิจภาพรวมของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทางสื่อโทรทัศน์ 300,000 บาท กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 
- จ้างประชาสัมพันธ์ข่าวสารภารกิจกรมพัฒนาฝีมือ ทางสื่อโทรทัศน์ 200,000 บาท กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 
- จ้างพูดประชาสัมพันธ์งานใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ทางสถานีโทรทัศน์ ช่องท็อปนิวส์ (TOP NEWS TV) 100,000 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม 

 ปี 2564 จำนวน 11 โครงการ จำนวน 7,703,950.53 บาท 
- จ้างผลิตและประชาสัมพันธ์มรดกภูมิปัญญา ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น ทางสื่อโทรทัศน์ 2,950,000 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วิธีคัดเลือก) 
- จ้างประชาสัมพันธ์ ปตท. ผ่านสื่อบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย จำกัด 1,605,000 บาท บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 
- จ้างเหมาดำเนินการผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ทางสถานีโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ 500,000 บาท สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 
- เผยแพร่สื่อโฆษณาสื่อสารการช่วยเหลือโควิด-19 ของ กฟผ. ทางสถานีโทรทัศน์ของ TOP NEWS 500,000 บาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 
- จ้างโครงการผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์  การดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2564 ของกระทรวงมหาดไทย 490,000 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
- จ้างโครงการผลิตและเผยแพร่สกู๊ปข่าวประชาสัมพันธ์ กระทรวงมหาดไทยกับการจัดการน้ำเสียเพื่อชมชน พ.ศ.2564  490,000 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 
- จ้างผลิตและเผยแพร่ข่าวสารของ กฟผ.ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ Top news  480,000 บาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 
- จ้างผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกระทรวงแรงงาน ผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ 321,000 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน 
- จ้างเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ในโอกาสครบรอบ 10 ปี 199,949.83 บาท การรถไฟแห่งประเทศไทย
- จ้างวางแผนและเผยแพร่สื่อโฆษณากิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ ครั้งที่ 2 จำนวน 84,000.35 บาท การรถไฟแห่งประเทศไทย
- จ้างวางแผนและเผยแพร่สื่อโฆษณากิจกรรมาส่งเสริมฯ 84,000.35 บาท การรถไฟแห่งประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่