คือเรื่องมันมีอยู่ว่าหนูกับเพื่อนอีกสองคนตัดผมซอยแล้วโดนครูปกครองให้ใส่แฮร์พีช เรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะหนูใส่ตลอดยกเว้นตอนที่มันจำเป็นจริงจริงจะถอด
แต่เมื่อวันศุกร์ที่10 หนูลืมหยิบแฮร์พีชลงมาครูเขาเลยเรียกหนูเขาบอกหนูว่าถ้าจะลงมาข้างล่างต้องใส่แฮร์พีช หนูก็วิ่งขึ้นไปเอาแฮร์พีชมาใส่แล้วรีบไปถ่ายรูปกับรุ่นพี่แล้วก็หาเสื้อกันหนาวที่หายไปเมื่อวันศุกร์ที่3 หนูหาเสื้อกันหนาวแล้วมันไม่มี ส่วนตอนถ่ายรูปหนูถอดแฮร์พีชออกค่ะ แต่พอถ่ายเสร็จก็รีบใส่
พอหนูกำลังจะขึ้นห้องเพื่อนหนูเห็นครูปกครองแล้วเพื่อนหนูไม่ได้ใส่แฮร์พีชเพื่อนหนูเลยวิ่งหนี หนูก็ตกใจหนูก็เลยวิ่งตามเพื่อนแต่ตอนนั้นหนูใส่แฮร์พีชอยู่
พอหนูขึ้นมาบนห้องเรียนเพื่อนในห้องก็บอกให้ตามหนูไปห้องปกครองกับเพื่อนผมซอยที่ไปกับหนูตอนแรก หนูก็รีบไปหาเขาค่ะใส่แฮร์พีชไปด้วย
เขาก็บอกว่าจะใส่มาทำไมเขาไม่ได้บอกให้ใส่มา หนูก็ไม่ได้อะไร แต่ทีนี้เขาบอกหนูว่า ครูบอกหนูว่าไม่ให้ลงมาไม่ใช่หรอ หนูก็บอกครูเขาไปว่าครูบอกว่าถ้าจะลงให้ใส่แฮร์พีช หนูก็เลยขึ้นไปใส่แล้วค่อยลงค่ะ ครูเขาก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แล้วพูดต่อว่า ไหนเธอบอกจะไปหาเสื้อกันหนาว ชั้นไม่เห็นเธอจะมีเสื้อกันหนาวติดมาเลย หนูก็เลยเงียบเพราะถ้าพูดออกไปก็ไม่มีใครฟังหนู เขาบอกต่อว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องมาเรียนแล้ว ป้าเธอก็บอกแล้วหนิว่าถ้าเธอทำผิดก็จัดลงโทษได้เลย เขาถามหนูว่าไม่ต้องมาเรียนแล้วเนอะ หนูก็ส่ายหน้า เขาบอกเพื่อนหนูว่าคนแบบนี้หรอจะคบต่อ โกหกแบบนี้อีกนิดก็ไม่มีใครคบแล้ว
ตอนนั้นหนูน้ำตาซึมเลยร่ะ หนูก็ใส่แฮร์พีชตลอดลงพักหนูก็ใส่ แต่ทำไมเพื่อนหนูที่ไม่ใส่ถึงครูเขาปล่อยทั้งทั้งที่โดนออกใบปกครองบ่อยกว่าหนู หนูโดนแค่ใบเดียวกับการที่โดนกล่าวหาว่าโกหก
โดนพักการเรียน เพราะครูหาว่าโกหก?
แต่เมื่อวันศุกร์ที่10 หนูลืมหยิบแฮร์พีชลงมาครูเขาเลยเรียกหนูเขาบอกหนูว่าถ้าจะลงมาข้างล่างต้องใส่แฮร์พีช หนูก็วิ่งขึ้นไปเอาแฮร์พีชมาใส่แล้วรีบไปถ่ายรูปกับรุ่นพี่แล้วก็หาเสื้อกันหนาวที่หายไปเมื่อวันศุกร์ที่3 หนูหาเสื้อกันหนาวแล้วมันไม่มี ส่วนตอนถ่ายรูปหนูถอดแฮร์พีชออกค่ะ แต่พอถ่ายเสร็จก็รีบใส่
พอหนูกำลังจะขึ้นห้องเพื่อนหนูเห็นครูปกครองแล้วเพื่อนหนูไม่ได้ใส่แฮร์พีชเพื่อนหนูเลยวิ่งหนี หนูก็ตกใจหนูก็เลยวิ่งตามเพื่อนแต่ตอนนั้นหนูใส่แฮร์พีชอยู่
พอหนูขึ้นมาบนห้องเรียนเพื่อนในห้องก็บอกให้ตามหนูไปห้องปกครองกับเพื่อนผมซอยที่ไปกับหนูตอนแรก หนูก็รีบไปหาเขาค่ะใส่แฮร์พีชไปด้วย
เขาก็บอกว่าจะใส่มาทำไมเขาไม่ได้บอกให้ใส่มา หนูก็ไม่ได้อะไร แต่ทีนี้เขาบอกหนูว่า ครูบอกหนูว่าไม่ให้ลงมาไม่ใช่หรอ หนูก็บอกครูเขาไปว่าครูบอกว่าถ้าจะลงให้ใส่แฮร์พีช หนูก็เลยขึ้นไปใส่แล้วค่อยลงค่ะ ครูเขาก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แล้วพูดต่อว่า ไหนเธอบอกจะไปหาเสื้อกันหนาว ชั้นไม่เห็นเธอจะมีเสื้อกันหนาวติดมาเลย หนูก็เลยเงียบเพราะถ้าพูดออกไปก็ไม่มีใครฟังหนู เขาบอกต่อว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องมาเรียนแล้ว ป้าเธอก็บอกแล้วหนิว่าถ้าเธอทำผิดก็จัดลงโทษได้เลย เขาถามหนูว่าไม่ต้องมาเรียนแล้วเนอะ หนูก็ส่ายหน้า เขาบอกเพื่อนหนูว่าคนแบบนี้หรอจะคบต่อ โกหกแบบนี้อีกนิดก็ไม่มีใครคบแล้ว
ตอนนั้นหนูน้ำตาซึมเลยร่ะ หนูก็ใส่แฮร์พีชตลอดลงพักหนูก็ใส่ แต่ทำไมเพื่อนหนูที่ไม่ใส่ถึงครูเขาปล่อยทั้งทั้งที่โดนออกใบปกครองบ่อยกว่าหนู หนูโดนแค่ใบเดียวกับการที่โดนกล่าวหาว่าโกหก