สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเป็นเด็ก ตจว. คนนึงที่ตอนนั้นเชื่อว่าเรียนที่ไหนก็เหมือกัน ตอน ป.6 เรียนโรงเรียน ตจว เวลาเรียนก็สอบได้ที่ 1-3 เป็นประจำ
พอตอนจะเข้า ม.1 จำได้ว่าตัวเองร้องไห้ งอแง เพราะโดนให้ไปสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดแถว ๆ กทม. แล้วดันสอบติด ตอนนั้นร้องไห้ไม่อยากไปเพราะคิดว่าเรียนที่ไหน ๆๆ มันก็เหมือนกันหมด (ตอนนั้นอยากเรียนกับเพื่อนมากกว่า)
สุดท้ายพอได้เข้ามาเรียนจริง ๆ ก็พบความจริงข้อนึงว่า (เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด มันไม่จริงเลย (เอาแบบไม่โลกสวยนะ)) ถ้าุณได้เรียนโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมที่ดี มันก็มีส่วนสำคัญทำให้เด็กคนนั้นโตมามีคุณภาพมากขึ้น ในที่นี้ผมหมายถึงทุก ๆ เรีองนะครับ ไม่ใช่ค่การเรียน หลัก ๆ เลยมันคือเรื่องของ ความคิด และคอนเน็คชั่น
ยกตัวอย่าง เพื่อนผมที่เรียนโรงเรียนแถวบ้านอยู่เหมือนเดิม ตอนนั้นพอช่วง ม.ปลาย ก็ถามความฝันกัน คือเพื่อนส่วนใหญ่ตอนแค่ว่า เรียนจบ ม.6 ก็จะออกไปช่วยที่บ้านทำงานรับจ้างบ้าง งานโรงงานบ้าง เพื่อนบ้างคนก็หัวดีกว่าผมอีก(ดูจากเกรด) แต่เขามีความคิดอยู่แค่นั้น
ส่วนเพื่อนในโรงเรียนที่ผมเรียน ทุกคนมีเป้าหมายเพื่อสอบเข้ามหาลัย ไม่ก็สอบเตรียมทหารฯ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความพร้อมในเรื่องของเงินนะ แต่คนที่ไม่มีความพร้อมมันก็มีทุนให้จนสามารถเข้าไปเรียนต่อในมหาลัยได้อยู่ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นยุคนี้เรื่องความจนไม่ได้เป็นปัญหาทางด้านการศึกษาเท่าเมื่อก่อน สุดท้ายโรงเรียนที่ผมอยู่ก็สอบเข้ามหาลัยได้ 100% ส่วนสำคัญเป็นเพราะ mindset นี่แหละ ในขณะที่โรงเรียนเพื่อนผมปีนึงมีคนเข้าเรียนต่อมหาลัยปีละไม่กี่คน
ดังนั้นขอสรุปว่า ในทุกที่ก็มีคนเก่งทั้งนั้นแหละครับ แต่มีน้อยหรือมีมากเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับว่าใช้อะไรเป็นตัววัดความสำเร็จหรือความเก่ง และผมก็ยังเชื่อว่าคนเก่งจริง อยู่ที่ไหนก็เก่งครับ แต่สิ่งสำคัญและสิ่งที่ต่างออกไปสำหรับผม มันคือ ความคิด คอนเน็คชั่น และสภาพแวดล้อม คนเก่งแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ก็ทำให้ล้มเหลวได้สูง
ขอยกตัวอย่างให้เห้นภาพชัด ๆ ถ้ามีหมอสองคนที่เก่งมาก ๆ เหมือนกันแล้วต้องทำการผ่าตัด
หมอคนแรกมีสภาพแวดล้อมในการผ่าตัดที่ดี อยู่ในห้องผ่าตัด มีอุปกรร์ครบ มีผู้ช่วยที่ดีคอยซัพพอร์ต
กับหมอคนที่สองที่ไม่มีอุปกรร์อะไรเลยนอกจากมีดเก่า ๆ อุปกรรืพื้นฐาน กับห้องผ่าตัดที่มีไฟริบหรี่ และมีผู้ช่วยคอยกรอกหูว่า "ผ่าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ผ่า ๆ ไปให้เสร็จเถอะ"
คุณคิดว่าใครจะผ่าตัดและรักษาคนไข้ได้ประสบความสำเร็จมากกว่ากันในระยะยาว?
ดังนั้น "เก่งที่บ้านนอก" ก็ ไม่เท่า "กิ๊กก๊อก" (สำหรับผม) มันคือเรื่องจริง เพราะต่อให้เรากิ๊กก๊อก แต่ถ้าสภาพแวดล้อมของเราเต็มไปด้วยคนเก่ง ๆ เราจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านี้ รวมถึงมี mindset ที่ดีด้วย และได้คำแนะนำที่ดี
พอตอนจะเข้า ม.1 จำได้ว่าตัวเองร้องไห้ งอแง เพราะโดนให้ไปสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดแถว ๆ กทม. แล้วดันสอบติด ตอนนั้นร้องไห้ไม่อยากไปเพราะคิดว่าเรียนที่ไหน ๆๆ มันก็เหมือนกันหมด (ตอนนั้นอยากเรียนกับเพื่อนมากกว่า)
สุดท้ายพอได้เข้ามาเรียนจริง ๆ ก็พบความจริงข้อนึงว่า (เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด มันไม่จริงเลย (เอาแบบไม่โลกสวยนะ)) ถ้าุณได้เรียนโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมที่ดี มันก็มีส่วนสำคัญทำให้เด็กคนนั้นโตมามีคุณภาพมากขึ้น ในที่นี้ผมหมายถึงทุก ๆ เรีองนะครับ ไม่ใช่ค่การเรียน หลัก ๆ เลยมันคือเรื่องของ ความคิด และคอนเน็คชั่น
ยกตัวอย่าง เพื่อนผมที่เรียนโรงเรียนแถวบ้านอยู่เหมือนเดิม ตอนนั้นพอช่วง ม.ปลาย ก็ถามความฝันกัน คือเพื่อนส่วนใหญ่ตอนแค่ว่า เรียนจบ ม.6 ก็จะออกไปช่วยที่บ้านทำงานรับจ้างบ้าง งานโรงงานบ้าง เพื่อนบ้างคนก็หัวดีกว่าผมอีก(ดูจากเกรด) แต่เขามีความคิดอยู่แค่นั้น
ส่วนเพื่อนในโรงเรียนที่ผมเรียน ทุกคนมีเป้าหมายเพื่อสอบเข้ามหาลัย ไม่ก็สอบเตรียมทหารฯ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความพร้อมในเรื่องของเงินนะ แต่คนที่ไม่มีความพร้อมมันก็มีทุนให้จนสามารถเข้าไปเรียนต่อในมหาลัยได้อยู่ ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นยุคนี้เรื่องความจนไม่ได้เป็นปัญหาทางด้านการศึกษาเท่าเมื่อก่อน สุดท้ายโรงเรียนที่ผมอยู่ก็สอบเข้ามหาลัยได้ 100% ส่วนสำคัญเป็นเพราะ mindset นี่แหละ ในขณะที่โรงเรียนเพื่อนผมปีนึงมีคนเข้าเรียนต่อมหาลัยปีละไม่กี่คน
ดังนั้นขอสรุปว่า ในทุกที่ก็มีคนเก่งทั้งนั้นแหละครับ แต่มีน้อยหรือมีมากเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับว่าใช้อะไรเป็นตัววัดความสำเร็จหรือความเก่ง และผมก็ยังเชื่อว่าคนเก่งจริง อยู่ที่ไหนก็เก่งครับ แต่สิ่งสำคัญและสิ่งที่ต่างออกไปสำหรับผม มันคือ ความคิด คอนเน็คชั่น และสภาพแวดล้อม คนเก่งแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ก็ทำให้ล้มเหลวได้สูง
ขอยกตัวอย่างให้เห้นภาพชัด ๆ ถ้ามีหมอสองคนที่เก่งมาก ๆ เหมือนกันแล้วต้องทำการผ่าตัด
หมอคนแรกมีสภาพแวดล้อมในการผ่าตัดที่ดี อยู่ในห้องผ่าตัด มีอุปกรร์ครบ มีผู้ช่วยที่ดีคอยซัพพอร์ต
กับหมอคนที่สองที่ไม่มีอุปกรร์อะไรเลยนอกจากมีดเก่า ๆ อุปกรรืพื้นฐาน กับห้องผ่าตัดที่มีไฟริบหรี่ และมีผู้ช่วยคอยกรอกหูว่า "ผ่าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ผ่า ๆ ไปให้เสร็จเถอะ"
คุณคิดว่าใครจะผ่าตัดและรักษาคนไข้ได้ประสบความสำเร็จมากกว่ากันในระยะยาว?
ดังนั้น "เก่งที่บ้านนอก" ก็ ไม่เท่า "กิ๊กก๊อก" (สำหรับผม) มันคือเรื่องจริง เพราะต่อให้เรากิ๊กก๊อก แต่ถ้าสภาพแวดล้อมของเราเต็มไปด้วยคนเก่ง ๆ เราจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านี้ รวมถึงมี mindset ที่ดีด้วย และได้คำแนะนำที่ดี
แสดงความคิดเห็น
"เก่งที่บ้านนอก" ก็ ไม่เท่า "กิ๊กก๊อก" ในเมืองนี่จริงเหรอครับ
สุดท้ายก็แตกคว่มเห็นกัน บางคนว่าจริง บางคนว่าไม่จริง จนสุดท้ายต้องยุติเพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน แล้วทุกคนมองว่าจริงไหมครับ