กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ "ต้นกล้า" เขาเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันขันแข็ง
ต้นกล้ามีเป้าหมายว่าอยากจะเป็นคนเก่งที่สุดให้ได้ เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ
ต้นกล้าเรียนหนังสือได้คะแนนดีเสมอ เขาเป็นที่รักของครูและเพื่อน ๆ ต้นกล้ายังชอบเล่นกีฬาและดนตรี
เขาเล่นกีฬาเก่งจนได้รับรางวัลชนะเลิศหลายครั้ง เขาเล่นดนตรีเก่งจนได้เป็นนักดนตรีประจำโรงเรียน
ต้นกล้าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน เขาเป็นนักเรียนดีเด่น นักกีฬายอดเยี่ยม และนักดนตรีฝีมือดี ต้นกล้าเป็นที่ชื่นชมของทุกคน
แต่แล้ววันหนึ่ง
ต้นกล้าได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ "ต้นหลิว" ต้นหลิวเป็นเด็กที่เก่งกว่าต้นกล้าในทุก ๆ ด้าน
ต้นหลิวเรียนหนังสือเก่งกว่า เล่นกีฬาเก่งกว่า และเล่นดนตรีเก่งกว่า
...
ต้นกล้ารู้สึกเสียใจและผิดหวัง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ
เขาเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับต้นหลิวอยู่ตลอดเวลา
ต้นกล้าเริ่มที่จะท้อแท้และหมดกำลังใจ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเก่งเท่าต้นหลิว
วันหนึ่ง ต้นกล้าได้คุยกับพ่อของเขา พ่อของต้นกล้าได้บอกกับเขาว่า
"ลูกไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุดหรอก ลูกแค่ต้องเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่ลูกจะเป็นได้"
คำพูดของพ่อทำให้ต้นกล้ารู้สึกดีขึ้น เขาเริ่มที่จะยอมรับความจริงว่าตัวเองอาจจะไม่เก่งเท่าต้นหลิว
แต่เขาก็ยังคงตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป ต้นกล้าเริ่มที่จะมองหาจุดเด่นของตัวเอง
เขาค้นพบว่าตัวเองเป็นคนที่มีความพยายามและอดทน เขาจึงมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้น
ต้นกล้ายังคงเรียนหนังสือและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ เขาพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เขายังช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
..
เมื่อเวลาผ่านไป ต้นกล้าก็เริ่มที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง
เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดดนตรีระดับประเทศ เขายังได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ
ต้นกล้ากลายเป็นคนเก่งคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเก่งที่สุด เขาเป็นเพียงแค่คนที่พยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ต้นกล้าได้เรียนรู้ว่า สิ่งสำคัญในชีวิตไม่ใช่การเป็นคนเก่งที่สุด แต่คือการเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่ลูกจะเป็นได้
ต้นกล้า...คนเก่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุด
ต้นกล้ามีเป้าหมายว่าอยากจะเป็นคนเก่งที่สุดให้ได้ เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ
ต้นกล้าเรียนหนังสือได้คะแนนดีเสมอ เขาเป็นที่รักของครูและเพื่อน ๆ ต้นกล้ายังชอบเล่นกีฬาและดนตรี
เขาเล่นกีฬาเก่งจนได้รับรางวัลชนะเลิศหลายครั้ง เขาเล่นดนตรีเก่งจนได้เป็นนักดนตรีประจำโรงเรียน
ต้นกล้าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน เขาเป็นนักเรียนดีเด่น นักกีฬายอดเยี่ยม และนักดนตรีฝีมือดี ต้นกล้าเป็นที่ชื่นชมของทุกคน
แต่แล้ววันหนึ่ง
ต้นกล้าได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ "ต้นหลิว" ต้นหลิวเป็นเด็กที่เก่งกว่าต้นกล้าในทุก ๆ ด้าน
ต้นหลิวเรียนหนังสือเก่งกว่า เล่นกีฬาเก่งกว่า และเล่นดนตรีเก่งกว่า
...
ต้นกล้ารู้สึกเสียใจและผิดหวัง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ
เขาเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับต้นหลิวอยู่ตลอดเวลา
ต้นกล้าเริ่มที่จะท้อแท้และหมดกำลังใจ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเก่งเท่าต้นหลิว
วันหนึ่ง ต้นกล้าได้คุยกับพ่อของเขา พ่อของต้นกล้าได้บอกกับเขาว่า
"ลูกไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุดหรอก ลูกแค่ต้องเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่ลูกจะเป็นได้"
คำพูดของพ่อทำให้ต้นกล้ารู้สึกดีขึ้น เขาเริ่มที่จะยอมรับความจริงว่าตัวเองอาจจะไม่เก่งเท่าต้นหลิว
แต่เขาก็ยังคงตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป ต้นกล้าเริ่มที่จะมองหาจุดเด่นของตัวเอง
เขาค้นพบว่าตัวเองเป็นคนที่มีความพยายามและอดทน เขาจึงมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้น
ต้นกล้ายังคงเรียนหนังสือและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ เขาพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เขายังช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
..
เมื่อเวลาผ่านไป ต้นกล้าก็เริ่มที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง
เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดดนตรีระดับประเทศ เขายังได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ
ต้นกล้ากลายเป็นคนเก่งคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเก่งที่สุด เขาเป็นเพียงแค่คนที่พยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ต้นกล้าได้เรียนรู้ว่า สิ่งสำคัญในชีวิตไม่ใช่การเป็นคนเก่งที่สุด แต่คือการเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่ลูกจะเป็นได้