เรื่องมีอยู่ว่า หน่วยงานผม ได้เกิดไฟไหม้รถเครื่องจักร และผมเป็นช่างซ่อมบำรุง โดยก่อนไฟไหม้รถขณะทำงาน หน่วยงานได้ส่งเครื่องจักรมาซ่อมแซมระบบช่วงล่าง ก่อนซ่อมเราก็ได้ทำความสะอาดบริเวณที่เราจะซ่อมแซมไป แล้วก็จ้างอู่เอกชนมาดำเนินการซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ เราตรวจเช็ครถสตาร์ทเครื่องยนต์ทดลองขับไม่มีปัญหา จึงส่งรถออกไปให้หน่วยงานอื่นไปใช้งานต่อ ได้ประมาณสองวันรถเกิดไฟไหม้ จากไดร์สตาร์ท(พนักงานขับเป็นคนแจ้ง) เราก็ไปตรวจสอบ ดูก็พบว่าไดร์สตาร์ทกับสายไฟเมนน่าจะเกิดการลัดวงจรทำให้เกิดประกายไฟ ประกอบกับการทำงานในป่าช่วงอากาศที่แห้งแล้งทำให้เศษใบไม้ตกหล่นเข้าไปก็เลยติดไฟลามไปเยอะและสภาพใช้งานของรถอายุประมาณ32-33ปี จากนั้นทางหน่วยงานก็ตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เราก็โดนสอบสวนไปด้วยตอนแรกก็เข้าใจว่าโดนสอบในฐานะคนไปตรวจสอบหลังเหตุไฟไหม้ แต่กลายจะให้เราร่วมรับผิดชอบกับการมีส่วนร่วมที่ทำให้เกิดไฟไหม้ เค้าก็ถามว่าได้ตรวจเช็คอย่างอื่นมั้ยนอกจากที่ซ่อมไป เราก็เลยตอบไปว่าตอนรถเข้ามาเราไม่ได้ตรวจเช็คระบบอื่นนอกจากที่เราไปซ่อมแซมมา เพราะเนื่องจากเราได้ทำการทดลองรถโดยการสตาร์ทเครื่องยนต์ก็เป็นปกติทุกอย่าง ไดร์สตาร์ทก็ทำงานปกติติดเครื่องยนต์ได้ขับเคลื่อนได้ คนถามก็ถามว่าแล้วได้ตรวจเช็คไดร์สตาร์ทมั้ย เราก็บอกไปว่าไม่ได้ตรวจเช็ค แล้วเวลาไดร์เสียเราจะส่งเข้าอู่เอกชนซ่อมเพราะเราซ่อมไม่เป็น คนสอบเลยเหมาเราว่าเราไม่มีความรู้เรื่องระบบไฟฟ้ารถยนต์ แล้วก็พิมพ์มาให้เราเซ็น จากนั้นเรื่องก็ยาวเลยที่นี้มาสอบอีก เพราะที่สอบก่อนหน้ามันย้อนแย้งกับใบเกรดผมเพราะไฟฟ้ารถยนต์ผมได้เกรดเอ ผมก็งง (ตอนเซ็นเอกสารผมผิดเองที่ไม่ได้อ่านให้ชัดเจนนึกว่าไม่มีอะไร) เอ้าก็เราตอบไปแล้วว่าเราไม่มีความรู้ในการแซมแซมไดร์สตาร์ท แต่ก็สามารถตรวจเช็คไฟเบื้องต้นได้ ทีนี้เค้าก็เอานักกฎหมายมาสอบอีกกำลังเดินการสอบใหม่ ผมว่าคือความเข้าใจในกฎหมายแล้วพิมกับภาษาช่างมันอาจเข้าใจคนละความหมายมั้ง เรื่องมีอีกยาวครับเอาแค่นี้ก่อน
จะทำอย่างไรเมื่อได้รับโทษทางวินัยและให้ชดใช้ค่าเสียหายแบบไม่เป็นธรรม