คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
- สิ่งที่ทิ้งให้ผมรับผิดชอบคือหนี้เพื่อน 40000 บาท ค่างวดรถเรายังต้องจ่ายตามปกติซึ่งจ่ายมาแล้ว 6 งวด รวมเงินส่วนตัวที่ช่วยเหลือไป 150,000
// เป็นหนี้เพื่อน ยังไงก็ต้องจ่ายให้ได้นะ หากไม่คืนรอบนี้ รอบหน้าชีวิตคุณลำบากเอง ใครจะช่วยคุณได้ พ่อหรือ?
- อยากจะถามว่าควรจะทวงหนี้คืนมั้ย?
// ลองทวงดูก็ได้นะ แต่คิดว่าผลก็เหมือนกันคือ ไม่ได้คืนหรอก
- ทำอย่างไรบ้างเรื่องรถตอนนี้อยากตัดภาระรถออกไป แต่พ่อไม่ให้คืนแน่ๆเพราะต้องใช้ขนน้ำยางไปขาย ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนของจ.เลย
// ถ้ารถ ผ่อนในชื่อของคุณ คุณก็ต้องผ่อนต่อให้หมด ไม่งั้นจะเสียเครดิตตัวเอง
แต่ คุณต้องจ่ายกับเจ้าหนี้รถ โดยตรง ห้ามโอนไปให้พ่อจ่าย เพราะพ่อจะไม่จ่าย สุดท้ายก็จบแบบเดิม
- ในใจสงสารน้อง2คนมากผมควรทำอย่างไรดี ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ก็รัก เอ็นดู พวกเขาอยู่เสมอ
// ถ้าคุณมีเงินเหลือใช้ จะเลี้ยงดูน้องๆ หรือส่งเงินเรียน ก็ตามสะดวกสิ
ต่ออีกนิด
คุณมีชีวิตของคุณ ที่ต้องดูแล ถ้ามีเมียลูกแล้ว ก็อย่าทำให้เค้าขาดแคลนเลย ไม่งั้น คุณก็จะตกในสภาพ พ่อคุณที่ทำกับคุณนั่นแหละ
ขอให้โชคดี
// เป็นหนี้เพื่อน ยังไงก็ต้องจ่ายให้ได้นะ หากไม่คืนรอบนี้ รอบหน้าชีวิตคุณลำบากเอง ใครจะช่วยคุณได้ พ่อหรือ?
- อยากจะถามว่าควรจะทวงหนี้คืนมั้ย?
// ลองทวงดูก็ได้นะ แต่คิดว่าผลก็เหมือนกันคือ ไม่ได้คืนหรอก
- ทำอย่างไรบ้างเรื่องรถตอนนี้อยากตัดภาระรถออกไป แต่พ่อไม่ให้คืนแน่ๆเพราะต้องใช้ขนน้ำยางไปขาย ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนของจ.เลย
// ถ้ารถ ผ่อนในชื่อของคุณ คุณก็ต้องผ่อนต่อให้หมด ไม่งั้นจะเสียเครดิตตัวเอง
แต่ คุณต้องจ่ายกับเจ้าหนี้รถ โดยตรง ห้ามโอนไปให้พ่อจ่าย เพราะพ่อจะไม่จ่าย สุดท้ายก็จบแบบเดิม
- ในใจสงสารน้อง2คนมากผมควรทำอย่างไรดี ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ก็รัก เอ็นดู พวกเขาอยู่เสมอ
// ถ้าคุณมีเงินเหลือใช้ จะเลี้ยงดูน้องๆ หรือส่งเงินเรียน ก็ตามสะดวกสิ
ต่ออีกนิด
คุณมีชีวิตของคุณ ที่ต้องดูแล ถ้ามีเมียลูกแล้ว ก็อย่าทำให้เค้าขาดแคลนเลย ไม่งั้น คุณก็จะตกในสภาพ พ่อคุณที่ทำกับคุณนั่นแหละ
ขอให้โชคดี
ความคิดเห็นที่ 15
ด้วยความเคารพ
คุณติดกับดักกตัญญู เหมือนโดนหลอกใช้ครับ
"อย่าเตี้ยอุ้มค่อม" เอาตัวเองให้รอดก่อน รีบจัดการเรื่องรถ หากคุณตัดใจได้ ก็ถือเป็นสมบัติสุดท้ายที่ให้ติดตัวไปทำทุน "กับครอบครัวใหม่ ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่โดยตรง จขกท.เลย" ควรคุยกับพ่อให้รับรู้เรื่องนี้ด้วย
ว่าเจตนาแรก คือ ออกให้แล้วผ่อนครึ่งๆ แต่นี่พ่อเล่นเชิดไปเลย ( ไม่รับรู้หนี้สิน ) ดังนั้นควรแจ้งให้พ่อทราบ ผิดเงื่อนไข แต่โอเคพ่อต้องใช้งาน หากคุณจะกัดฟันรับผิดชอบต่อ ก็บอกให้พ่อ "รับทราบอย่างจริงจัง" ด้วยว่า นี่คือภาระก้อนใหญ่สุดท้ายที่คุณจะส่งต่อให้ ( ป้องกันดราม่าลำเลิกบุญคุณ )
ส่วนเด็ก 2 คน "อย่าหาเหาใส่หัว" ระวังจะเจอเด้งที่ 2 !
อ้างสารพัดให้คุณส่งเสียเด็ก 2 คนนี้เรียนต่อ คชจ.จิปาถะ เหมือนถูกมัดมือชกให้เลี้ยงดูครอบครัวใหม่ของพ่อทั้งหมด
มีเยอะนะ ทำงานทั้งชีวิตส่งเสียแต่คนอื่น พอถึงเวลาวัยกลางคน คนอื่นตั้งตัวได้เสวยสุข ส่วนคุณหมดผลประโยชน์ จะเหลือเงินเก็บในบัญชีตัวเองกี่หมื่น ลองตรองดูครับ
แต่ถ้าคุณไหว คุณเต็มใจ อยากติดอยู่ในบ่วงนี้ก็สุดแท้แต่
ขอให้โชคดีครับ
คุณติดกับดักกตัญญู เหมือนโดนหลอกใช้ครับ
"อย่าเตี้ยอุ้มค่อม" เอาตัวเองให้รอดก่อน รีบจัดการเรื่องรถ หากคุณตัดใจได้ ก็ถือเป็นสมบัติสุดท้ายที่ให้ติดตัวไปทำทุน "กับครอบครัวใหม่ ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่โดยตรง จขกท.เลย" ควรคุยกับพ่อให้รับรู้เรื่องนี้ด้วย
ว่าเจตนาแรก คือ ออกให้แล้วผ่อนครึ่งๆ แต่นี่พ่อเล่นเชิดไปเลย ( ไม่รับรู้หนี้สิน ) ดังนั้นควรแจ้งให้พ่อทราบ ผิดเงื่อนไข แต่โอเคพ่อต้องใช้งาน หากคุณจะกัดฟันรับผิดชอบต่อ ก็บอกให้พ่อ "รับทราบอย่างจริงจัง" ด้วยว่า นี่คือภาระก้อนใหญ่สุดท้ายที่คุณจะส่งต่อให้ ( ป้องกันดราม่าลำเลิกบุญคุณ )
ส่วนเด็ก 2 คน "อย่าหาเหาใส่หัว" ระวังจะเจอเด้งที่ 2 !
อ้างสารพัดให้คุณส่งเสียเด็ก 2 คนนี้เรียนต่อ คชจ.จิปาถะ เหมือนถูกมัดมือชกให้เลี้ยงดูครอบครัวใหม่ของพ่อทั้งหมด
มีเยอะนะ ทำงานทั้งชีวิตส่งเสียแต่คนอื่น พอถึงเวลาวัยกลางคน คนอื่นตั้งตัวได้เสวยสุข ส่วนคุณหมดผลประโยชน์ จะเหลือเงินเก็บในบัญชีตัวเองกี่หมื่น ลองตรองดูครับ
แต่ถ้าคุณไหว คุณเต็มใจ อยากติดอยู่ในบ่วงนี้ก็สุดแท้แต่
ขอให้โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาชีวิตยอมเป็นหนี้เพื่อพ่อตัวเอง จนสุดท้ายตัวเองต้องมาแบกรับภาระทุกอย่าง
พ่อแม่ แยกทางตั้งแต่เรายังเด็ก คือเราจะเข้าหาทางแม่เป็นหลัก ส่วนพ่อก็มีครอบครัวใหม่มีลูกกัน 2 คน ตัวเราก่อน covid ก็ไปเจอพ่อบ้างปีละครั้ง พ่อตั้งแต่ covid มาจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้เจอเลย พ่อเราทำอาชีพค้าขาย (รถพุ่มพวง) ตระเวนขายของตามหมู่บ้านที่ตจว. มีอยู่วันนึงรถที่ออกไปขายของเสียบ่อยมาก ซ่อมทีก็หลายพันบาท แต่ว่าด้วยการค้าขายของเขาแต่ละวันคือต้องหาเงินเพื่อจ่ายหนี้หมวกกันน็อคและประทังชีวิตทั้งครอบครัว
นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา พ่อจะหมดหนทางก็จะโทรมาขอกับเรา เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถบ้าง หนี้หมวกกันน็อคบ้าง เอาไปลงทุนซื้อของเพื่อค้าขายในวันต่อไป ซึ่งผมเองก็ให้ไปรวมๆแล้วแตะหลักแสนบาท เราคิดว่าเขาคือพ่อ ยังไงก็พ่อถือว่าทดแทนบุญท่านละกัน คิดอย่างนี้ให้ตัวเองได้สบายใจ หารู้ไม่ว่ากำลังเริ่มสร้างปัญหาให้ตัวเราเอง มีอยู่วันนึงพ่อไม่สามารถออกไปขายของได้เนื่องจากรถยนต์ที่ใช้พัง ต้องโทรมาขอเงินผมให้ช่วยซ่อมรถเพื่อจะได้ขายของ ต้องบอกก่อนว่าเงินที่ให้ๆไปบางทีก็ได้คืนบ้าง บางทีก็ไม่ได้บ้าง เราก็เข้าใจบริบทนี่เพราะเขาไม่มีจริงๆ จนวันนึงต้องการใช้เงินประมาณ 4-5หมื่นบาท เพื่อจะไปปิดหนี้รายวัน เราก็ถามว่าเป็นหนี้เท่าไหร่? พ่อตอบว่า 4หมื่น 3 เจ้า จึงต้องเอาเงินไปปิดจะได้มีกำลังในการขายของต่อไป เพราะทุกวันนี้ภวงค์กับหนี้รายวันที่มาตามอยู่เรื่อยๆ ตามทุกวัน
เราเองก็วิ่งหาให้ ยืมเพื่อนมาให้บ้าง ขอยืมแฟนบ้าง จนได้ยอด จากนั้นก็เอาไปปิดหนี้รายวัน3 เจ้าที่บอก เราคิดว่ามันคงจบแล้วเขาจะได้โฟกัสที่การค้าขายไปเลยแล้วเก็บเงินไว้กินไว้ใช้ต่อไป พอมาวันนึงรถขายของดันเสียอีก ต้องบอกก่อนว่ารถเป็นรถกระบะปี 2008 ตอนเดียว สภาพเละพอสมควรปัญหาเยอะมากรถคันนี้ซึ่งไปเห็นมากับตาแล้ว ถึงเข้าใจและต้องช่วยเหลือ (ทุกครั้งที่รถเสียเขาจะถ่ายรูปรถเวลาเกิดปัญหาและอาการมาบอกทุกครั้งเพราะกลัวหาว่าจะโกหกเพื่อหลอกเอาเงินเราไป)
เราก็เห็นสภาพรถแบบนี้ทนไม่ไหวตัดสินใจเอ่ยปากออกไปว่าจะออกรถมือ2ให้ เพื่อให้ได้ออกไปขายของต่อ ในสัปดาห์นั้นก็เลยบอกให้พ่อไปเต็นรถเพื่อดูรถได้เลย เดี๋ยวให้เซลล์ที่เต็นติดต่อมาเดี๋ยวเราจะรอทำสัญญาเอง แต่ข้อตกลงคือพ่อจะต้องช่วยผ่อนเราครึ่งนึง เราจะช่วยครึ่งนึง ในระยะ 2เดือนจะขอรับผิดชอบค่างวดให้ก่อนเพื่อเขาจะได้ตังตัวและเตรียมพร้อมจ่าย จนผ่านมาแล้ว 8 เดือน กลายเป็นว่าเราต้องมารับภาระผ่อนต่อให้จนถึบทุกวันนี้
เราก็เริ่มสงสัยตั้งแต่เข้าเดือนที่ 3 ว่าทำไมถึงจ่ายให้เราไม่ได้เพราะอะไร เงินก็หามาปิดหนี้ให้แล้ว ยังมีอะไรอีก? คำตอบที่ได้คือ พ่อไม่กล้าบอกเราว่าพ่อติดกนี้รายวัน 13 เจ้า เรานี้ถึงกับเข่าทรุด ช็อตหนักมาก สตั้นจนพูดไม่ออก เพราะพยายามช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้น แต่ทำไมถึงปิดบังกันขนาดนี้ พ่อก็เล่าให้ฟังอีกว่าจำได้มั้ยกลางปี 65 พ่อกับน้า(ภรรยาใหม่) ได้สุญเสียพี่ชาย(พี่ชายของภรรยาใหม่พ่อ) ต่อมาปลายปี พ่อตาก็เสียอีกคน และเมื่อกุมภาพันธ์ปี 66นี้ ก็เสียแม่ยายไปอีกคน นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อหนี้ขึ้นมา เขาวิ่งไปยืมเงินรายวัยเพื่อมาจัดงานศพทั้ง3คน ซึ่งน้าเขาก็มีพี่น้อง6คน แต่พี่น้องไม่เอาพ่อ เอาแม่หรือเหลียวแลคนทั้งบ้านเลย เขาตองหาเงินมาจัดงานศพให้ทั้ง3 คน ต่างจังหวัดเวลาจัดงานคือจัดที่บ้าน ทำกับข้าวเลี้ยงแขกที่มาช่วยงาน ค่าใช้จ่ายต่อศพ ประมาณ 5หมื่นขึ้น พวกเขาจึงต้องยอมเป็นหนี้กัน
ด้วยความที่ผมไปเห็นสภาพการเป็นอยู่ที่นั่นมาแล้วเกิดสงสารพ่อขึ้นมา จึงรีบดำเนินการเรื่องรถให้ไว้ที่สุดเขาจะได้เอารถไปขายของ เราก็ทำสัญญาอะไรเรียบร้อยแบบไม่รีรอ ไม่คิดหน้าคิดหลัง ช่วยจนเราหมดตัวในแต่ละเดือนใช้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนไม่พอใช้ก็ไปยืมเพื่อนมา
ด้วยความที่เขามีน้อง2 คนรับชะตากรรมนี้ด้วย คนนึง 10 ขวบ อีกคนนึง 5 ขวบ ทุกครั้งที่น้องคนโตเวลาเจอเราจะกอดเราทันที เวลาเราจะลากลับกทม.ก็จะร้องไห้ตามไม่อยากให้ไป เกิดความผูกผันไปแล้ว
จากนั้นเกิดเหตุการณ์มากมายจนกระทั้งน้องคนโตต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน แล้วพ่อกับน้าหนีมาขายของ(รถพุ่งพวง)ที่ศรีราชา อยู่ได้ประมาณ2เดือน ต้องกลับไปที่บ้านต่างจังหวัดอีกครั้งเพราะครูที่โรงเรียนตามน้องให้ไปสอบก่อนแล้วค่อยแจ้งย้ายโรงเรียนจนตอนนี้น้องก็ยังไม่ได้ไปโรงเรียน ข่าวล่าสุดทราบมาว่า พ่อน้าน้อง2คนได้ไปใช้ชีวิตที่จังหวัดเลย มีคุณหมอท่านนึงมาช่วยเหลือให้ไปทำสวนยาง กรีดยางขายเอง เวลา3 เดือนกับการกรีดยางคือให้พ่อและครอบครัวนี้ทั้งหมดเลย หลังจาก3เดือนค่อยเอามาให้ครึ่งนึงตอนนี้พ่อพึ่งไปเลยได้ไม่ถึงเดือน
- สิ่งที่ทิ้งให้ผมรับผิดชอบคือหนี้เพื่อน 40000 บาท ค่างวดรถเรายังต้องจ่ายตามปกติซึ่งจ่ายมาแล้ว 6 งวด รวมเงินส่วนตัวที่ช่วยเหลือไป 150,000
- อยากจะถามว่าควรจะทวงหนี้คืนมั้ย?
- ทำอย่างไรบ้างเรื่องรถตอนนี้อยากตัดภาระรถออกไป แต่พ่อไม่ให้คืนแน่ๆเพราะต้องใช้ขนน้ำยางไปขาย ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนของจ.เลย
- ในใจสงสารน้อง2คนมากผมควรทำอย่างไรดี ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ก็รัก เอ็นดู พวกเขาอยู่เสมอ
ใครมีไอเดียรบกวนแชร์หน่อย ว่าควรทำอย่างไรต่อไป!
ขอบคุณอ่าน ขอบคุณที่รับฟัง ขอบคุณกำลังใจ และขอบคุณสำหรับความหวังดีจากทุกๆคนนะครับ