ตนเป็นที่พึ่งเเห่งตน(เอส)

ผมพยายามเข้าหาคนที่ประสบความสำเร็จเเล้วเมื่อตอนผมอายุน่าจะ20ต้นๆผมได้ไปห้องค้าหุ้นต่างๆปรากฎไปเจอเซียนหุ้นคนหนึ่งพอตหลักสิบ
ล้านบาทเขาเล่าให้ฟังว่าเขาเริ่มต้นด้วยเงินลงทุน5000บาท ปัจจุบันเขาทำอาชีพขายถุงพลาสติกเขาทำมาหลายสิบปีเเล้ว เขาบอกสร้างพอต
จากเงินเพียง5000บาทสู่หลักสิบล้านบาท ตอนนี้เเกอายุ60กว่าๆ ด้วยความอยากได้วิชาผมก็เลยอาสาไปช่วยเเกเเบกถุงพลาสติกทั้งคันรถซึ่ง
หนักมาก ผมผู้ชายตัวเล็กๆต้องเเบกถุง10-20โลขึ้นบรรไดอีกไปส่งถุงให้ลุกค้าเขาผมทำกับเเกมาหลายปีมากผมบอกว่าทำไมเราไม่สร้างเเบรนด์
เองเลยละ สร้างโรงงานเองเลย เเกตอบว่าเขาเเก่เเล้วมันหมดยุคของเขาเเล้ว เวลาในขณะที่ผมนั่งรถกับเขาเขาจะสอนไปด้วย ให้วิชาผม เช่น
การสังเกตเเละตนเป็นที่พึ่งเเห่งตน ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง เขาเล่าว่าเขาไม่เคยได้รับโอกาสจากใคร ผมยินดีไปทำงานให้เขา
เเกค่อนข้างขี้เหนียวบางทีค่าเเรงคือพาไปเลี้ยงข้าวบางวันก็ให้ตัง100นึง เเต่ผมยอมทำงานให้กับเเกมาหลายปี เพื่อหวังโอกาสนั้นเเหละ เเละ
ช่วงชีวิตผมตลอดมาไม่เคยมีใครช่วยผมเลยด้วยซ้ำ เวลาเจ๊งเงินผมเอง ให้กำลังใจตัวเอง จะไม่เอาปัญหาของผมไปให้ใครฟัง ผมได้มีโอกาส
คุยกับเซียนหุ้นรายใหญ่คนหนึ่งๆที่ใครๆก็รู้จัก เขาก็จะบอกเหมือนกับเฮียขายถุงพลาสติกว่า อย่าใช้จมูกคนอื่นหายใจ ความสำเร็จไม่มีทางลัด
ส่วนใครที่ยังมีพ่อเเม่ทางบ้านมีเงินที่คอยซัพพอตคุณโชคดีกว่าผมเยอะมาก ใครๆก็รู้ว่าการขาดทุนไม่ว่าจะเรื่องหุ้นหรือธุรกิจเวลาเงินลดลงมัน
รู้สึกเสียดายเงินมาก ถ้าคุณเป็นคนคนนึงที่ได้รับโอกาสจากพ่อเเม่ ค่อยช่วย ค่อยเติมเงิน ค่อยให้กำลังใจ จงภูมิใจนะเพราะอีกหลายชีวิตรวม
ถึงผมด้วยไม่ได้มีเเบบนั้น ผมเเบกตัวเองสร้างฐานะด้วยตัวเองถึงชาตินี้ผมก็ยังคงมีเป้าหมายคืออยากรวย เพราะตัวเองสมัยเด็กเคยเก็บขยะ
เคยกินน้ำก๊อก เคยทำธุรกิจรับจ้างเล่นเกมเเละขายเครื่องเกมเเผ่นเกมเพื้อนำเงินนั้นไปซื้อข้าวกินผมเกียจความจนผมมาก คำดูถูกของเเต่ละ
คนมันฝังใจผมตลอด ผมไม่เคยลืม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่