RedLife
เรื่องย่อ “Red Life เรดไลฟ์”
หนังใหม่เรื่อง RedLife เล่าเรื่องราวของ “ส้ม” วัยรุ่นสาวที่มีแม่เป็นโสเภณีย่านสลัมที่ยอมกัดฟันขายตัวเพื่อส่งลูกสาวไปเรียนในโรงเรียนดีๆ โดยที่ตัวส้มเองหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้พบกับความรักที่จะพาเธอออกไปจากโลกที่แสนเกลียดชังนี้ได้ จนกระทั่งส้มได้พบกับ “พีช” รุ่นพี่ที่เป็นไอดอลประจำโรงเรียน ทั้งสองรู้สึกถูกดึงดูดเข้าหากันจนเรื่องราวความรักในโลกแห่งความจริงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ขณะที่อีกมุมหนึ่งของสังคมก็ยังมี “เต๋อ” หนุ่มวัยรุ่นที่ผันตัวเองเป็นนักฉกชิงวิ่งราวย่านสถานีรถไฟ ทว่าเขาก็เป็นได้แค่โจรกระจอกที่กล้าๆ กลัวๆ ในทุกครั้งที่ต้องวิ่งราวเหยื่อ วันหนึ่งเต๋อได้พบกับ “มายด์” โสเภณีวัยรุ่นที่เป็นดั่งรักเดียวของเขา เต๋อจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้พามายด์ออกไปจากวังวนชีวิตโสมมเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนคู่รักทั่วไป แต่ยิ่งพยายามเท่าไร ก็เหมือนเต๋อยิ่งดำดิ่งสู่โลกมืดหม่นมากขึ้นเท่านั้น
เรื่องราวความรักที่พวกเขาทั้งหมดพยายามดิ้นรนไขว่คว้า อาจเป็นรักทั่วไปที่ใครๆ ก็สามารถมีได้ แต่สำหรับตัวละครต่างๆ ใน Red Life ดูเหมือนอาจเป็นสิ่งที่มีราคาแพงเกินไปสำหรับพวกเขา
เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้อยู่ในสายตาเลย ทั้งโปรโมท และกระแส จนมาได้ข่าวว่า เป็นหนังไทยชิงรางวัลเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 36
ก็มีกระแส และเป็นที่พูดถึงขึ้นมา แต่ดูตัวอย่างก็น่าสนใจ และอยากดู แต่ก็หวั่นใจเสมอกับการดูหนังรางวัล เพราะถ้าคุณชอบก็จะชอบไปเลย ถ้าคุณไม่ชอบ มันก็จะน่าเบื่อสุดๆ
ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังที่ตีแผ่และสะท้อนด้านมืดของสังคม ที่หลายๆคนเห็น และไม่เคยเห็น หนังมีความเรียล ความหม่น ความเทา ไม่รู้จะดาร์กไปไหน
ช่วงหลังๆมา รู้สึกว่า หนังกำลังพยายามยัดเยียด ความดาร์ก ความเทา ให้ตัวละครจนมากเกินไป ทำให้ดูแล้ว คิดในใจ มันต้องขนาดนี้เลยหรอ? น่าจะมาจากความขาดๆเกินๆของตัวบท
และตัวละครบางตัว อย่างพีช ทิ้งปมไว้เยอะเกิน เยอะมาก และสุดท้าย ก็ปล่อยให้ไม่เคลียร์ โยนทิ้งไปเฉยๆ
ตัวหนังทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค โปรดักชั่นดี ภาพ มุมกล้อง สวย ดนตรีประกอบ ทำออกมาดี
นักแสดงทุกคนเล่นดี เข้าถึงบทบาท และอารมณ์ของตัวละคร ทำให้เรารู้สึกอินไปกับหนัง
ถึงอย่างไรก็ตาม หนังชิงรางวัลแนวนี้ ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคน อย่าคาดหวังกับการเล่าเรื่อง ตอนจบ ที่เหมือนหนังแมสทั่วไป ไม่ใช่แน่นอน และตอนจบ ก็อย่างที่รู้ๆกันดี ตัดจบแน่นอน!
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นเลย แรกๆก็ดูโอเคนะ กับดราม่า ดาร์กๆ ด้านเทาๆ หม่นๆ แต่หลังๆมา หนังพยายามยัดเยียด ระบายสีดำ ให้ตัวละครมากเกินไป ซึ่งชีวิตจริง คนเรา มันก็ไม่ได้เลวไปซะขนาดนั้น มันยังมีหลายๆด้าน อันนี้แบบมันสุดๆเกินไป เราว่าบทค่อนข้างเกินเบอร์ไปหน่อย
ดูไปดูมาช่วงท้ายๆ มันรู้สึกเอียนมากกว่า เหมือนคนเสพยาเกินขนาด ไม่ค่อยมีความพอดีในตัวบท
มันดูพยายาม และยัดเยียดเกินไป ซึ่งเราดูแล้ว มันรู้สึกได้เลย ว่าเกินพอดี
ตัวละครพีช เราชอบในการโยงเรื่อง และปมนะ เยอะดี แต่ตอนท้าย ทำไมทิ้งไปดื้อๆ หาทางลงไม่เจอ? หรือหนังรางวัล มันก็ต้องให้เป็นอย่างนี้แล
ส่วนตอนจบ เราไม่คาดหวังกับแนวนี้อยู่แล้ว เพราะรู้ว่ายังไงก็ตัดจบ
#RedLife
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=2JQ9oc
RedLife (7/10) l ตีแผ่ด้านมืดในสังคมได้ดี แต่ความดาร์ก กลับดูเหมือนว่าพยายามยัดเยียดจนเกินไป (สปอยล์)
เรื่องย่อ “Red Life เรดไลฟ์”
หนังใหม่เรื่อง RedLife เล่าเรื่องราวของ “ส้ม” วัยรุ่นสาวที่มีแม่เป็นโสเภณีย่านสลัมที่ยอมกัดฟันขายตัวเพื่อส่งลูกสาวไปเรียนในโรงเรียนดีๆ โดยที่ตัวส้มเองหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้พบกับความรักที่จะพาเธอออกไปจากโลกที่แสนเกลียดชังนี้ได้ จนกระทั่งส้มได้พบกับ “พีช” รุ่นพี่ที่เป็นไอดอลประจำโรงเรียน ทั้งสองรู้สึกถูกดึงดูดเข้าหากันจนเรื่องราวความรักในโลกแห่งความจริงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ขณะที่อีกมุมหนึ่งของสังคมก็ยังมี “เต๋อ” หนุ่มวัยรุ่นที่ผันตัวเองเป็นนักฉกชิงวิ่งราวย่านสถานีรถไฟ ทว่าเขาก็เป็นได้แค่โจรกระจอกที่กล้าๆ กลัวๆ ในทุกครั้งที่ต้องวิ่งราวเหยื่อ วันหนึ่งเต๋อได้พบกับ “มายด์” โสเภณีวัยรุ่นที่เป็นดั่งรักเดียวของเขา เต๋อจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้พามายด์ออกไปจากวังวนชีวิตโสมมเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนคู่รักทั่วไป แต่ยิ่งพยายามเท่าไร ก็เหมือนเต๋อยิ่งดำดิ่งสู่โลกมืดหม่นมากขึ้นเท่านั้น
เรื่องราวความรักที่พวกเขาทั้งหมดพยายามดิ้นรนไขว่คว้า อาจเป็นรักทั่วไปที่ใครๆ ก็สามารถมีได้ แต่สำหรับตัวละครต่างๆ ใน Red Life ดูเหมือนอาจเป็นสิ่งที่มีราคาแพงเกินไปสำหรับพวกเขา
เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้อยู่ในสายตาเลย ทั้งโปรโมท และกระแส จนมาได้ข่าวว่า เป็นหนังไทยชิงรางวัลเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 36
ก็มีกระแส และเป็นที่พูดถึงขึ้นมา แต่ดูตัวอย่างก็น่าสนใจ และอยากดู แต่ก็หวั่นใจเสมอกับการดูหนังรางวัล เพราะถ้าคุณชอบก็จะชอบไปเลย ถ้าคุณไม่ชอบ มันก็จะน่าเบื่อสุดๆ
ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังที่ตีแผ่และสะท้อนด้านมืดของสังคม ที่หลายๆคนเห็น และไม่เคยเห็น หนังมีความเรียล ความหม่น ความเทา ไม่รู้จะดาร์กไปไหน
ช่วงหลังๆมา รู้สึกว่า หนังกำลังพยายามยัดเยียด ความดาร์ก ความเทา ให้ตัวละครจนมากเกินไป ทำให้ดูแล้ว คิดในใจ มันต้องขนาดนี้เลยหรอ? น่าจะมาจากความขาดๆเกินๆของตัวบท
และตัวละครบางตัว อย่างพีช ทิ้งปมไว้เยอะเกิน เยอะมาก และสุดท้าย ก็ปล่อยให้ไม่เคลียร์ โยนทิ้งไปเฉยๆ
ตัวหนังทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค โปรดักชั่นดี ภาพ มุมกล้อง สวย ดนตรีประกอบ ทำออกมาดี
นักแสดงทุกคนเล่นดี เข้าถึงบทบาท และอารมณ์ของตัวละคร ทำให้เรารู้สึกอินไปกับหนัง
ถึงอย่างไรก็ตาม หนังชิงรางวัลแนวนี้ ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคน อย่าคาดหวังกับการเล่าเรื่อง ตอนจบ ที่เหมือนหนังแมสทั่วไป ไม่ใช่แน่นอน และตอนจบ ก็อย่างที่รู้ๆกันดี ตัดจบแน่นอน!
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นเลย แรกๆก็ดูโอเคนะ กับดราม่า ดาร์กๆ ด้านเทาๆ หม่นๆ แต่หลังๆมา หนังพยายามยัดเยียด ระบายสีดำ ให้ตัวละครมากเกินไป ซึ่งชีวิตจริง คนเรา มันก็ไม่ได้เลวไปซะขนาดนั้น มันยังมีหลายๆด้าน อันนี้แบบมันสุดๆเกินไป เราว่าบทค่อนข้างเกินเบอร์ไปหน่อย
ดูไปดูมาช่วงท้ายๆ มันรู้สึกเอียนมากกว่า เหมือนคนเสพยาเกินขนาด ไม่ค่อยมีความพอดีในตัวบท
มันดูพยายาม และยัดเยียดเกินไป ซึ่งเราดูแล้ว มันรู้สึกได้เลย ว่าเกินพอดี
ตัวละครพีช เราชอบในการโยงเรื่อง และปมนะ เยอะดี แต่ตอนท้าย ทำไมทิ้งไปดื้อๆ หาทางลงไม่เจอ? หรือหนังรางวัล มันก็ต้องให้เป็นอย่างนี้แล
ส่วนตอนจบ เราไม่คาดหวังกับแนวนี้อยู่แล้ว เพราะรู้ว่ายังไงก็ตัดจบ
#RedLife
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว มาแชร์กันได้นะ
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=2JQ9oc