บริษัทเข้างาน 9:00-18:00 น. ปัจจุบันเราลาออกจากบริษัทนี้เรียบร้อยล่ะ เหตุผลก็มีไม่มากแต่ไม่เข้าใจผู้นำว่าเขาคิดอะไรอยู่ คือเราทำงานมาสองปีกว่าแล้ว ในระหว่าสองปีก็ทำงานมาได้ปกติ อาจจะมีเหตุการลูกค้าวุ่นวายกับเรานิดหน่อย นั้นมันปัญหาเราที่ต้องปรับแก้ไข เราเคลียร์ปัญหาได้ทุกครั้ง ทั้งเรื่องงาน เรื่องในบริษัท อยู่มาวันนึงมีพี่คนนึงเขา เข้ามาตำแหน่งสูงกว่าเรา เราก็โอเคนะ พูดคุยไป จะมีพี่คนนึงที่เราเล่นด้วยกันมาเป็นปีๆ ก็บอกเรานะว่าอย่ายุ่งหรือพูดคุยกับพี่คนนี้ "แกระวังตัวไว้นะ พี่ไม่มั่นใจหรือไว้ใจเขาเท่าไร" เราก็บอกอืมๆ พี่คิดมากไปหรือเปล่า. เราก็พูดกับพี่ไป ผ่านไปไม่นาน เราก็ไมาได้อะไร เพราะเป็นคนไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วก็แค่พี่ร่วมงานในบริษัท จะมีบางวันที่เราออกไปหาลูกค้า ไม่ได้เข้าออฟฟิศ พี่คนนั้นเขาก็ถามนะว่าเราไปไหน ถามกับพี่อีกคน พี่อีกคนก็เลยตอบว่าไปหาลูกค้า แล้ววันไหนที่เราไม่เข้าออฟฟิศพี่เขาก็จะถามหาอยู่เรื่อย พี่ที่เล่นด้วยกันมาบอกว่า เขาถามหาแกอ่ะ เราก็คิดว่าน่าจะมีเรื่องอยากคุยกับเรารึเปล่า พี่ก็บอกว่าน่าจะจับผิดแกนะ ที่แกไม่เข้าออฟฟิศ
คือเราทำงานแบบนี้มานานแล้วเป็นปี ก็ไม่มีใครจะถามหาใครนะ นอกจากถามเรื่องงานกัน เราก็แอบเริ่มสงสัยล่ะ วันนึงเราเข้าออฟฟิศ ปกติเข้าเก้าโมง เราไปสิบโมง แต่ออกหนึ่งทุ่มกว่านะเพราะเราไปสายต้องเลิกช้ากว่า เราก็ทำแบบนี้มาตลอดผู้นำก็ไม่ว่าอะไรนะ ้เล่ามาตั้งนานเข้าเรื่องล่ะกัน คือเรื่องมีอยู่ว่างานที่พี่แกได้รับมาอ่ะ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรนะ แต่งานเราเสร็จพอดี พี่ในทีมเลยให้เราเข้าไปช่วยงาน เราก็เข้าไปช่วย คือคำว่าช่วยเราในทีมเราเข้าใจกีนดีนะก็คือช่วย แต่นี้บอดให้เราทำงานให้ เราทำงานเสร็จส่งให้ ไม่ตรวจงานให้เรา แถมให้เราเอางานนั้นไปปริ้น ไม่พอใช้เราต่อให้เราเล่ม ยังไม่จบจะให้เราส่งงานให้ลูกค้า คืออะไร งง
ทำงานมาก็นานคือการช่วยมันไม่เป็นแบบนี้นิ ช่วยก็คือนิดไปหน่อยๆ ไม่ใช้เราต้องทำทั้งหมด พอลองนึกถึงพี่ที่เล่นด้วยกันพูดเข้าใจขึ้นมาทันทีเลยว่า ทำไมเราไม่เชื่อพี่เราตั้งแต่แรก อาจเป็นเพราตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร เห็นเขาเป็นเด็กใหม่ เลยช่วยงาน สุดท้ายเป็นไง เป็นเราที่ต้องทำทุกอย่างเอง เหลืออย่างเดียวตำแหน่งที่เขาอยู่เปลี่ยนให้เรานี่จะครบแล้วนะ คือคุณไม่ต้องทำงานหรอ ไม่ต้องมีแล้วตำแหน่งนี้
วันเวลาผ่านไปเห็นว่าเราใช้งานได้ ใส่เีาไม่หยั่ง สั่ง สั่ง สั่ง ไม่รบกวนไม่ขอร้องไม่สอบถามว่าเราติดงานอะไรอยู่ สั่งอย่างเดียว ไอ้เราก็ใจดีก็ทำให้แหละกลัวงานไม่เสร็จ สุดท้ายงานมันมีผิดพลาดไง ก็เพราะเขาไม่ตรวจงานเรา ส่งไปหาลูกค้าดื้อๆเลย
เราไม่ไหว เราไม่สามารถทำงานกับคนนี้ได้อีก เราเลยยื่นคำบอกเราผู้นำไป ทั้งคุยแชททั้งคุยต่อหน้า เราบอกว่าสิ่งที่เราทำให้เขามันไม่ใช่การช่วยแต่มันเป็นการสั่งให้เราทำทุกอย่าง(ย้ำ) ทุกอย่าง ผู้นำก็บอกกับเราว่า อ๋อ การทำงานกับคนแต่ละคนก็แตกต่างกันไป คงต้องปรับกันไป คือ? ในหัวเรานี้คุณเป็นผู้นำทำไมไม่เรียกเขามาคุยให้เคลียร์ไปเลย
เราก็เลยบอกผู้นำไปว่าเราคิดเห็นเป็นแบบนี้ คุณลองไปถามอีกคนดูนะว่าพูดตรงกันกับเรารึเปล่า
คือเข้าใจไหมว่าเาทำงานมา เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนแบบนี้ ควรทำอะไร และเรามั่นใจมากว่าเราทำงานดีมาตลอด อย่างนั้นเราจะอยู่มาได้เป็นปีหรอ
"ผู้นำคุณไม่คิดที่จะแก้ปัญหาให้พนักงาน คิดว่าเป็นเล็กน้อย แต่เรื่องเล็กน้อยเยอะๆเข้าก็เป็นเรื่องใหญ่ได้นะ"
ผู้นำที่คิดเรื่องแปลกๆนะ คือคนทำงานเก่งๆ ไม่เอาไว้ในบริษัท เลือกคนที่แบบว่า...ไว้ เขาคิดอะไรอยู่
รึเขาเป็นพวกเดียวกัน เราคงไม่เข้าพวก!!😆
นี้เป็นเรื่องราวในบริษัทเราแค่ส่วนนึง แค่เรา
เพราในช่วงที่ผ่านมาก่อนที่เราจะออก พี่ๆ คนเก่งๆ ก็ทยอยลาออกกันทุกเดือน เดือนล่ะคนสองคน เหตุผลก็ไม่ต่างกันหรอกพี่ๆเขาแนะนำทางออกที่ดีเสนอไป ก็ไม่มีผล แก้ปัญหาไม่ได้ ใครเขาจะไปทดทำงาน หัวจะปวดก็ออกสิครับ
จนมาถึงทีเราสินะ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้เพราะผู้นำไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย คิดแค่เรื่องเงินเข้ากระเป๋า มีปัญหาก็ปัดทิ้ง ทั้งเรื่องภายในและเรื่องภายนอก บอกได้เลยว่าถ้าคุยยังจะคิดแบบนี้ ทำอยู่แบบนี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังจะเป็นแบบนี้
ไว้มาเล่าต่อนะ .......เรื่องมีอีกเยอะ

รีวิวประสบการณ์การทำงาน ผู้นำมีแนวคิดที่แปลก
คือเราทำงานแบบนี้มานานแล้วเป็นปี ก็ไม่มีใครจะถามหาใครนะ นอกจากถามเรื่องงานกัน เราก็แอบเริ่มสงสัยล่ะ วันนึงเราเข้าออฟฟิศ ปกติเข้าเก้าโมง เราไปสิบโมง แต่ออกหนึ่งทุ่มกว่านะเพราะเราไปสายต้องเลิกช้ากว่า เราก็ทำแบบนี้มาตลอดผู้นำก็ไม่ว่าอะไรนะ ้เล่ามาตั้งนานเข้าเรื่องล่ะกัน คือเรื่องมีอยู่ว่างานที่พี่แกได้รับมาอ่ะ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรนะ แต่งานเราเสร็จพอดี พี่ในทีมเลยให้เราเข้าไปช่วยงาน เราก็เข้าไปช่วย คือคำว่าช่วยเราในทีมเราเข้าใจกีนดีนะก็คือช่วย แต่นี้บอดให้เราทำงานให้ เราทำงานเสร็จส่งให้ ไม่ตรวจงานให้เรา แถมให้เราเอางานนั้นไปปริ้น ไม่พอใช้เราต่อให้เราเล่ม ยังไม่จบจะให้เราส่งงานให้ลูกค้า คืออะไร งง
ทำงานมาก็นานคือการช่วยมันไม่เป็นแบบนี้นิ ช่วยก็คือนิดไปหน่อยๆ ไม่ใช้เราต้องทำทั้งหมด พอลองนึกถึงพี่ที่เล่นด้วยกันพูดเข้าใจขึ้นมาทันทีเลยว่า ทำไมเราไม่เชื่อพี่เราตั้งแต่แรก อาจเป็นเพราตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร เห็นเขาเป็นเด็กใหม่ เลยช่วยงาน สุดท้ายเป็นไง เป็นเราที่ต้องทำทุกอย่างเอง เหลืออย่างเดียวตำแหน่งที่เขาอยู่เปลี่ยนให้เรานี่จะครบแล้วนะ คือคุณไม่ต้องทำงานหรอ ไม่ต้องมีแล้วตำแหน่งนี้
วันเวลาผ่านไปเห็นว่าเราใช้งานได้ ใส่เีาไม่หยั่ง สั่ง สั่ง สั่ง ไม่รบกวนไม่ขอร้องไม่สอบถามว่าเราติดงานอะไรอยู่ สั่งอย่างเดียว ไอ้เราก็ใจดีก็ทำให้แหละกลัวงานไม่เสร็จ สุดท้ายงานมันมีผิดพลาดไง ก็เพราะเขาไม่ตรวจงานเรา ส่งไปหาลูกค้าดื้อๆเลย
เราไม่ไหว เราไม่สามารถทำงานกับคนนี้ได้อีก เราเลยยื่นคำบอกเราผู้นำไป ทั้งคุยแชททั้งคุยต่อหน้า เราบอกว่าสิ่งที่เราทำให้เขามันไม่ใช่การช่วยแต่มันเป็นการสั่งให้เราทำทุกอย่าง(ย้ำ) ทุกอย่าง ผู้นำก็บอกกับเราว่า อ๋อ การทำงานกับคนแต่ละคนก็แตกต่างกันไป คงต้องปรับกันไป คือ? ในหัวเรานี้คุณเป็นผู้นำทำไมไม่เรียกเขามาคุยให้เคลียร์ไปเลย
เราก็เลยบอกผู้นำไปว่าเราคิดเห็นเป็นแบบนี้ คุณลองไปถามอีกคนดูนะว่าพูดตรงกันกับเรารึเปล่า
คือเข้าใจไหมว่าเาทำงานมา เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนแบบนี้ ควรทำอะไร และเรามั่นใจมากว่าเราทำงานดีมาตลอด อย่างนั้นเราจะอยู่มาได้เป็นปีหรอ
"ผู้นำคุณไม่คิดที่จะแก้ปัญหาให้พนักงาน คิดว่าเป็นเล็กน้อย แต่เรื่องเล็กน้อยเยอะๆเข้าก็เป็นเรื่องใหญ่ได้นะ"
ผู้นำที่คิดเรื่องแปลกๆนะ คือคนทำงานเก่งๆ ไม่เอาไว้ในบริษัท เลือกคนที่แบบว่า...ไว้ เขาคิดอะไรอยู่
รึเขาเป็นพวกเดียวกัน เราคงไม่เข้าพวก!!😆
นี้เป็นเรื่องราวในบริษัทเราแค่ส่วนนึง แค่เรา
เพราในช่วงที่ผ่านมาก่อนที่เราจะออก พี่ๆ คนเก่งๆ ก็ทยอยลาออกกันทุกเดือน เดือนล่ะคนสองคน เหตุผลก็ไม่ต่างกันหรอกพี่ๆเขาแนะนำทางออกที่ดีเสนอไป ก็ไม่มีผล แก้ปัญหาไม่ได้ ใครเขาจะไปทดทำงาน หัวจะปวดก็ออกสิครับ
จนมาถึงทีเราสินะ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้เพราะผู้นำไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย คิดแค่เรื่องเงินเข้ากระเป๋า มีปัญหาก็ปัดทิ้ง ทั้งเรื่องภายในและเรื่องภายนอก บอกได้เลยว่าถ้าคุยยังจะคิดแบบนี้ ทำอยู่แบบนี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังจะเป็นแบบนี้
ไว้มาเล่าต่อนะ .......เรื่องมีอีกเยอะ