*คำเตือน กระทู้รีวิวนี้มีสปอยล์เนื้อหาสำคัญของหนัง*
สดๆร้อนๆหลังจากหนังจบ ออกโรงปุ๊บ รีบเปิดมือถือแล้วเข้ากระทู้ทันที เดี๋ยวมาอ่านความคิดเห็นของผมต่อเรื่องนี้กันนะครับ
ในฐานะแฟนเกมส์นี้มาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก นี่คือของขวัญวันฮาโลวีนที่ดีที่สุด
ถ้าเรามองในมุมมองของภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง Five Nights at Freddy's ถือว่า(อาจจะ)ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันแทบไม่มีจุดไหนให้สยอง จัมพ์สแกร์ก็ไม่ค่อยตกใจ ส่วนใหญ่เดาได้ง่าย แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่าหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆที่เคยดูมา คือมันรู้จุดยืนตัวเอง มันรู้ว่ามันทำมาเพื่อแฟนๆ มันรู้ว่าแฟนๆของเกมนี้รออยู่มากมาย เขาเลยจัดอีสเตอร์เอ้กแบบจุกๆ เอาเป็นว่านะ กรี๊ดกันทั่วทุกสารทิศแน่นอน ซึ่งก็แน่นอนว่าผมก็กรี๊ดไปหลายรอบมาก แต่ดังไม่ได้ เดี๋ยวคนในโรงหนวกหู
เนื้อเรื่อง
สำหรับเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เดินเรื่องตามเกมแบบ 100% มันมีการเดินเรื่องของตัวมันเอง มันเป็นหนังที่เขียนเรื่องราวใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงความเอกลักษณ์ของ FNAF ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
การแคสต์นักแสดง
สำหรับเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก ทุกคนแสดงได้ดีตามมาตรฐาน และขอชมเด็กที่แสดงเป็นวิญญาณของ Golden Freddy เล่นดีใช้ได้ แต่ไม่พูดถึงคนนี้ไม่ได้ Matthew Lillard ที่แสดงเป็นพี่ม่วงของเรา ซึ่งขอบอกว่าแกทำเฉียบขาด มันดูมีความน่ากลัวแบบที่เกมเป็น เผลอๆอาจจะดีกว่า
ทำไม FNAF ถึงสำคัญกับผม
หลายคนที่ไม่ใช่แฟนเกมนี้ พออ่านมาถึงจุดนี้คงคิดว่าไอ้นี่มันอวยอย่างเดียว เพราะมันเป็นแฟนเกมแน่เลย แล้วเกมนี้มันดีตรงไหนวะ แค่ปิดๆประตู รักษาพลังงาน จบ ผ่านคืน อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์เล่นเองจะรู้ว่ามันกดดันขนาดไหน การต้องนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ ไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้แค่ปิดเปิดประตู มันโคตรจะเป็นบรรยากาศที่อึดอัดแบบ
ผมเป็นแฟนเกมนี้มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม รู้จักก็จากช่อง Bearry Channel ที่ทำประวัติข้อมูลของหุ่นอนิมาทรอนิกส์ และก็ช่อง Bankgarmo ที่แคสเกมส์นี้ให้เราทุกคนดู ถ้าใครทันช่วงนั้น ขอบอกเลยครับ คุณ OG
มีหวังภาคสองไหม
ขอบอกเลยว่ามี แบบมีแน่นอน ถ้าใครได้อยู่จนหนังจบ ไม่ใช่จบแบบเครดิตขึ้นนะ จบแบบอยู่จนเครดิตหมด เราจะได้ยินเสียงกล่องดนตรีของพับเพ็ต ตอนแรกกะจะลุกออกนะเพราะปวดฉี่ แต่พอได้ยินเสียงปุ๊บ นั่งเลย ไม่ยอมไปไหน แฟนเกมตัวจริงเขาไม่ยอมลุกจนกว่าหนังจะจบแน่นอน
โมเมนต์อันแสนประทับใจ
สปอยตัวใหญ่ๆเลย มันเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังแน่นอน
Matpat โผล่มาเป็นแขกรับเชิญ
เป็นฉากสั้นๆที่ผมแทบอยากจะกระโดดออกจากเก้าอี้ พี่แกโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถึงจะมาสั้นๆ แต่บอกเลยว่าเฉียบสัสๆ
"มันก็แค่ทฤษฎี"
Coryxkenshin โผล่มา
ตั้งแต่ตัวอย่างแล้ว แต่พอมาจริงๆมันก็โคตรจะดี เสียดายที่พี่ Markiplier ไม่ได้มาด้วย ถ้ามาจริงบอกเลยว่ามีโรงแตก
หุ่นอนิมาทรอนิกส์ช่วยแอบบี้สร้างซุ้ม
เป็นโมเมนต์สั้นๆที่อบอุ่นหัวใจ มันแสดงให้เห็นว่าวิญญาณที่สิงอยู่ในนั้นก็ยังเป็นเด็ก ฉากนั้นนี่ยิ้มจริงๆนะ
วิลเลี่ยม อาฟต้อน โผล่มา
เป็นฉากที่แบบ *โคตรรรรรรรรขนลุก* จริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่น ตอนเดินออกมาจากเงามืด พร้อมกับค่อยๆเข้ามาหาไมค์ มันเป็นอะไรที่หนังสยองขวัญทำกันมาแบบบ่อยมาก ฆาตกรถือมีดเดินเข้ามาหาพระเอก แต่มันกลับเป็นโมเมนต์ที่ทำให้แฟนเกมขนลุก ถึงจะรู้อยู่แล้วจากตัวอย่าง แต่มันขนลุกขนพองจริงๆ
สปริงล็อค
ถึงจะไม่ได้โหดเท่าเกม แต่มันก็ถือว่าโหดในระดับนึงเลย กับฉากที่พี่ม่วงโดนสปริงล็อคเข้าไปเต็มๆ มันเป็นฉากที่ขนลุก และน่ากลัวมากๆ แต่ก่อนที่พี่ม่วงจะตาย เขาก็พูดคำที่ทุกคนจำได้ขึ้น
"I always come back"
เพลง FNAF ขึ้น
มาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆก็ขึ้นมาในตอนเครดิตขึ้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมน้ำตาแทบไหล ผมโตมากับเพลงนี้จริงๆ มันเป็นเพลง FNAF เพลงแรกที่ผมฟัง ระหว่างเพลงขึ้นนี่คือร้องตามไปด้วยเลย
10/10 สำหรับ FNAF MOVIE
มันคือหนังที่สร้างจากเกม โดยคนสร้างเกม เพื่อแฟนของเกม ขอปรบมือให้ Scott Cawthon และ Emma Tammi ที่ทำให้ฝันของเหล่าแฟนๆเป็นจริง ไม่มีอะไรจะติ แค่เห็นหุ่นยนต์ที่เรารักมามีชีวิตมันก็คุ้มค่าตั๋วของเราแล้ว สำหรับคนที่กังวลว่าไม่เคยเล่นเกมหรือทำความรู้จักกับเกมมาก่อนจะดูได้ไหม ดูได้ครับ วันนี้ไปดูกับพ่อมา พ่อก็บอกว่าสนุก แต่คุณแค่อาจจะไม่ได้สนุกเท่ากับแฟนเกมส์
C-O-M-E-F-I-N-D-M-E
รีวิว Five Nights At Freddy's อาจจะไม่ใช่หนังจากเกมที่ดี แต่มันทำให้แฟนเกมนี้น้ำตาไหลได้ง่ายๆ
สดๆร้อนๆหลังจากหนังจบ ออกโรงปุ๊บ รีบเปิดมือถือแล้วเข้ากระทู้ทันที เดี๋ยวมาอ่านความคิดเห็นของผมต่อเรื่องนี้กันนะครับ
ในฐานะแฟนเกมส์นี้มาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก นี่คือของขวัญวันฮาโลวีนที่ดีที่สุด
ถ้าเรามองในมุมมองของภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง Five Nights at Freddy's ถือว่า(อาจจะ)ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันแทบไม่มีจุดไหนให้สยอง จัมพ์สแกร์ก็ไม่ค่อยตกใจ ส่วนใหญ่เดาได้ง่าย แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่าหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆที่เคยดูมา คือมันรู้จุดยืนตัวเอง มันรู้ว่ามันทำมาเพื่อแฟนๆ มันรู้ว่าแฟนๆของเกมนี้รออยู่มากมาย เขาเลยจัดอีสเตอร์เอ้กแบบจุกๆ เอาเป็นว่านะ กรี๊ดกันทั่วทุกสารทิศแน่นอน ซึ่งก็แน่นอนว่าผมก็กรี๊ดไปหลายรอบมาก แต่ดังไม่ได้ เดี๋ยวคนในโรงหนวกหู
เนื้อเรื่อง
สำหรับเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เดินเรื่องตามเกมแบบ 100% มันมีการเดินเรื่องของตัวมันเอง มันเป็นหนังที่เขียนเรื่องราวใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงความเอกลักษณ์ของ FNAF ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
การแคสต์นักแสดง
สำหรับเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก ทุกคนแสดงได้ดีตามมาตรฐาน และขอชมเด็กที่แสดงเป็นวิญญาณของ Golden Freddy เล่นดีใช้ได้ แต่ไม่พูดถึงคนนี้ไม่ได้ Matthew Lillard ที่แสดงเป็นพี่ม่วงของเรา ซึ่งขอบอกว่าแกทำเฉียบขาด มันดูมีความน่ากลัวแบบที่เกมเป็น เผลอๆอาจจะดีกว่า
ทำไม FNAF ถึงสำคัญกับผม
หลายคนที่ไม่ใช่แฟนเกมนี้ พออ่านมาถึงจุดนี้คงคิดว่าไอ้นี่มันอวยอย่างเดียว เพราะมันเป็นแฟนเกมแน่เลย แล้วเกมนี้มันดีตรงไหนวะ แค่ปิดๆประตู รักษาพลังงาน จบ ผ่านคืน อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์เล่นเองจะรู้ว่ามันกดดันขนาดไหน การต้องนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ ไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้แค่ปิดเปิดประตู มันโคตรจะเป็นบรรยากาศที่อึดอัดแบบ
มีหวังภาคสองไหม
ขอบอกเลยว่ามี แบบมีแน่นอน ถ้าใครได้อยู่จนหนังจบ ไม่ใช่จบแบบเครดิตขึ้นนะ จบแบบอยู่จนเครดิตหมด เราจะได้ยินเสียงกล่องดนตรีของพับเพ็ต ตอนแรกกะจะลุกออกนะเพราะปวดฉี่ แต่พอได้ยินเสียงปุ๊บ นั่งเลย ไม่ยอมไปไหน แฟนเกมตัวจริงเขาไม่ยอมลุกจนกว่าหนังจะจบแน่นอน
โมเมนต์อันแสนประทับใจ
สปอยตัวใหญ่ๆเลย มันเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังแน่นอน
Matpat โผล่มาเป็นแขกรับเชิญ
เป็นฉากสั้นๆที่ผมแทบอยากจะกระโดดออกจากเก้าอี้ พี่แกโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถึงจะมาสั้นๆ แต่บอกเลยว่าเฉียบสัสๆ
"มันก็แค่ทฤษฎี"
Coryxkenshin โผล่มา
ตั้งแต่ตัวอย่างแล้ว แต่พอมาจริงๆมันก็โคตรจะดี เสียดายที่พี่ Markiplier ไม่ได้มาด้วย ถ้ามาจริงบอกเลยว่ามีโรงแตก
หุ่นอนิมาทรอนิกส์ช่วยแอบบี้สร้างซุ้ม
เป็นโมเมนต์สั้นๆที่อบอุ่นหัวใจ มันแสดงให้เห็นว่าวิญญาณที่สิงอยู่ในนั้นก็ยังเป็นเด็ก ฉากนั้นนี่ยิ้มจริงๆนะ
วิลเลี่ยม อาฟต้อน โผล่มา
เป็นฉากที่แบบ *โคตรรรรรรรรขนลุก* จริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่น ตอนเดินออกมาจากเงามืด พร้อมกับค่อยๆเข้ามาหาไมค์ มันเป็นอะไรที่หนังสยองขวัญทำกันมาแบบบ่อยมาก ฆาตกรถือมีดเดินเข้ามาหาพระเอก แต่มันกลับเป็นโมเมนต์ที่ทำให้แฟนเกมขนลุก ถึงจะรู้อยู่แล้วจากตัวอย่าง แต่มันขนลุกขนพองจริงๆ
สปริงล็อค
ถึงจะไม่ได้โหดเท่าเกม แต่มันก็ถือว่าโหดในระดับนึงเลย กับฉากที่พี่ม่วงโดนสปริงล็อคเข้าไปเต็มๆ มันเป็นฉากที่ขนลุก และน่ากลัวมากๆ แต่ก่อนที่พี่ม่วงจะตาย เขาก็พูดคำที่ทุกคนจำได้ขึ้น
"I always come back"
เพลง FNAF ขึ้น
มาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆก็ขึ้นมาในตอนเครดิตขึ้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมน้ำตาแทบไหล ผมโตมากับเพลงนี้จริงๆ มันเป็นเพลง FNAF เพลงแรกที่ผมฟัง ระหว่างเพลงขึ้นนี่คือร้องตามไปด้วยเลย
10/10 สำหรับ FNAF MOVIE
มันคือหนังที่สร้างจากเกม โดยคนสร้างเกม เพื่อแฟนของเกม ขอปรบมือให้ Scott Cawthon และ Emma Tammi ที่ทำให้ฝันของเหล่าแฟนๆเป็นจริง ไม่มีอะไรจะติ แค่เห็นหุ่นยนต์ที่เรารักมามีชีวิตมันก็คุ้มค่าตั๋วของเราแล้ว สำหรับคนที่กังวลว่าไม่เคยเล่นเกมหรือทำความรู้จักกับเกมมาก่อนจะดูได้ไหม ดูได้ครับ วันนี้ไปดูกับพ่อมา พ่อก็บอกว่าสนุก แต่คุณแค่อาจจะไม่ได้สนุกเท่ากับแฟนเกมส์
C-O-M-E-F-I-N-D-M-E