
ประเด็นร้อนที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันในโลกโซเชียลมีเดียในช่วงนี้ก็คือ การที่ดอกเบี้ยบ้านสูงขึ้น แต่คนกู้เงินไปผ่อนบ้านมีรายได้ที่จะนำเงินมาผ่อนได้เพียงแค่ขั้นต่ำ ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยบ้านสูง แต่ตัดเงินต้นน้อย ยอดหนี้บ้านคงเหลือเกือบเท่าเดิมแทบไม่ลดอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อให้ผ่อนไปอีก 100 ปีก็คงจะไม่หมด
สาเหตุที่ดอกเบี้ยบ้านเพิ่มสูงขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อในประเทศนั้นๆเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นสถาบันทางการเงินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์และช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้สมดุล เพื่อไม่ให้ตลาดและเศรษฐกิจการเงินนั้นผันผวน ถ้าในประเทศไทยก็คือธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้ามาปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้านนั่นเอง
หนึ่งในรูปแบบธุรกิจการหารายได้ของธนาคารมาจากการที่เขาเอาเงินของคนที่มาฝากเงินกับเขาไปลงทุนต่อยอด อย่างเช่น การปล่อยเงินกู้สินเชื่อผ่อนบ้านผ่อนรถผ่อนทรัพย์สินอะไรต่างๆ แล้วก็ทำกำไรจากดอกเบี้ยเงินกู้นั่นเอง ดังนั้นเหล่าธนาคารทั้งหลายจึงพยายามอย่างหนักที่จะสร้างกิเลสความอยากทำให้ประชาชนคนทั่วไปต้องการบริโภคสิ่งของให้เยอะๆ แล้วมากู้เงินจากธนาคารไปผ่อนสิ่งของเหล่านั้น เขาต้องทำให้ผู้คนเป็นหนี้เยอะๆด้วยข้อเสนอโปรโมชั่นล่อใจต่างๆให้คนมากู้เงินจากธนาคารของเขา ซึ่งเงินเหล่านั้นก็ไม่ใช่เงินของเขาตั้งแต่แรก แต่เป็นเงินที่ยืมมาจากลูกค้าที่เอามาฝากเงินในธนาคารของเขานั่นแหละ แน่นอนว่าเขาก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องค่าจ้างพนักงานเรื่องค่าเช่าอาคารสำนักงานเรื่องเทคโนโลยีเรื่องความปลอดภัยอะไรต่างๆ และเรื่องการตามเก็บเงินกู้ทวงถามหนี้ ตลอดจนความเสี่ยงในเรื่องหนี้เสียหรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เขาเรียกว่า NPL ซึ่งเขาตามเก็บหนี้คืนมาไม่ได้นั่นเอง (Non-performing Loan = คือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือไม่ได้ชำระคืนตามข้อกำหนดตกลงกันตามสัญญา)
ดังนั้นเราจะไปมองว่าธนาคารนั้นไม่ดีหรือหน้าเลือดเห็นแก่ได้แบบนั้นก็คงจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะเขาก็ทำธุรกิจเพื่อหวังผลกำไรตามรูปแบบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเราเองต่างหากที่ต้องรู้ให้เท่าทันกิเลสความอยากความต้องการของตัวเอง ไม่ให้ไปหลงอยากได้อยากมีในสิ่งที่มันเกินตัวเกินกำลังเกินความจำเป็นหรือสิ่งที่จะสร้างภาระหนี้สินความลำบากยากแค้นแสนเข็ญไม่เป็นอิสระให้กับเราในอนาคตข้างหน้าโดยไม่จำเป็น เราควรที่จะต้องรู้จักการใช้จ่ายเงินการบริหารเงินการออมเงินการนำเงินที่ออมไปลงทุนต่อยอด แล้วเอากำไรที่ได้จากการลงทุนนั้นมาซื้อสิ่งของที่เราต้องการจะดีกว่าการที่เราจะไปกู้เงินจากธนาคารแล้วมาผ่อนจนไม่เหลือกินไม่เหลือใช้ไม่เหลือเก็บไม่เหลือออมไม่เหลือนำมาลงทุนต่อยอด การเรียนรู้เรื่องการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรารู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้ชีวิตของเรามีอิสระเสรีไม่ต้องมีหนี้เป็นทาสเงินกู้อีกต่อไปเราจะได้เป็นไทเสียที



จากข่าวคนเป็นหนี้บ้านผ่อนธนาคารโดนเก็บดอกเบี้ยสูง แต่ตัดเงินต้นน้อย ยอดหนี้บ้านคงเหลือเกือบเท่าเดิม
สาเหตุที่ดอกเบี้ยบ้านเพิ่มสูงขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อในประเทศนั้นๆเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นสถาบันทางการเงินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์และช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้สมดุล เพื่อไม่ให้ตลาดและเศรษฐกิจการเงินนั้นผันผวน ถ้าในประเทศไทยก็คือธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้ามาปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้านนั่นเอง
หนึ่งในรูปแบบธุรกิจการหารายได้ของธนาคารมาจากการที่เขาเอาเงินของคนที่มาฝากเงินกับเขาไปลงทุนต่อยอด อย่างเช่น การปล่อยเงินกู้สินเชื่อผ่อนบ้านผ่อนรถผ่อนทรัพย์สินอะไรต่างๆ แล้วก็ทำกำไรจากดอกเบี้ยเงินกู้นั่นเอง ดังนั้นเหล่าธนาคารทั้งหลายจึงพยายามอย่างหนักที่จะสร้างกิเลสความอยากทำให้ประชาชนคนทั่วไปต้องการบริโภคสิ่งของให้เยอะๆ แล้วมากู้เงินจากธนาคารไปผ่อนสิ่งของเหล่านั้น เขาต้องทำให้ผู้คนเป็นหนี้เยอะๆด้วยข้อเสนอโปรโมชั่นล่อใจต่างๆให้คนมากู้เงินจากธนาคารของเขา ซึ่งเงินเหล่านั้นก็ไม่ใช่เงินของเขาตั้งแต่แรก แต่เป็นเงินที่ยืมมาจากลูกค้าที่เอามาฝากเงินในธนาคารของเขานั่นแหละ แน่นอนว่าเขาก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องค่าจ้างพนักงานเรื่องค่าเช่าอาคารสำนักงานเรื่องเทคโนโลยีเรื่องความปลอดภัยอะไรต่างๆ และเรื่องการตามเก็บเงินกู้ทวงถามหนี้ ตลอดจนความเสี่ยงในเรื่องหนี้เสียหรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เขาเรียกว่า NPL ซึ่งเขาตามเก็บหนี้คืนมาไม่ได้นั่นเอง (Non-performing Loan = คือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือไม่ได้ชำระคืนตามข้อกำหนดตกลงกันตามสัญญา)
ดังนั้นเราจะไปมองว่าธนาคารนั้นไม่ดีหรือหน้าเลือดเห็นแก่ได้แบบนั้นก็คงจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะเขาก็ทำธุรกิจเพื่อหวังผลกำไรตามรูปแบบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเราเองต่างหากที่ต้องรู้ให้เท่าทันกิเลสความอยากความต้องการของตัวเอง ไม่ให้ไปหลงอยากได้อยากมีในสิ่งที่มันเกินตัวเกินกำลังเกินความจำเป็นหรือสิ่งที่จะสร้างภาระหนี้สินความลำบากยากแค้นแสนเข็ญไม่เป็นอิสระให้กับเราในอนาคตข้างหน้าโดยไม่จำเป็น เราควรที่จะต้องรู้จักการใช้จ่ายเงินการบริหารเงินการออมเงินการนำเงินที่ออมไปลงทุนต่อยอด แล้วเอากำไรที่ได้จากการลงทุนนั้นมาซื้อสิ่งของที่เราต้องการจะดีกว่าการที่เราจะไปกู้เงินจากธนาคารแล้วมาผ่อนจนไม่เหลือกินไม่เหลือใช้ไม่เหลือเก็บไม่เหลือออมไม่เหลือนำมาลงทุนต่อยอด การเรียนรู้เรื่องการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรารู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้ชีวิตของเรามีอิสระเสรีไม่ต้องมีหนี้เป็นทาสเงินกู้อีกต่อไปเราจะได้เป็นไทเสียที