JJNY : ทัพอิสราเอลปิดล้อมเมืองกาซา│แกนนำฮามาสยัน“เปิดกว้างต่อรอง”│ส.อ.ท.กังวลงบฯ67ล่าช้า│เขียงหมูปรับราคาขึ้น2สัปดาห์ติด

ทัพอิสราเอลปิดล้อมเมืองกาซา รบฮามาสแบบเผชิญหน้า ‘เนทันยาฮู’ บอกการต่อสู้กำลังเข้มข้น
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4264743
 
 
ทัพอิสราเอลปิดล้อมเมืองกาซา รบฮามาสแบบเผชิญหน้า ‘เนทันยาฮู’ บอกการต่อสู้กำลังเข้มข้น
 
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนว่า พวกเขาได้ทำการปิดล้อมเมืองกาซา ซึ่งเป็นเมืองหลักทางตอนเหนือในฉนวนกาซา และเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า การสู้รบกำลังอยู่ในจุดที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก เราประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ และได้ผ่านเขตชานเมืองกาซาไปแล้ว เราจะก้าวหน้าต่อไป อย่างไรก็ดีเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ
 
พลจัตวาแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า กองทหารอิสราเอลประสบความสำเร็จในการปิดล้อมเมืองกาซา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่มก่อการร้ายฮามาสได้แล้ว
 
ด้านพลจัตวาอิดโด มิซราฮี หัวหน้าวิศวกรทหารของอิสราเอล กล่าวว่า ทหารอิสราเอลกำลังเผชิญหน้ากับกับดักและทุ่นระเบิด พร้อมกับรับว่า กลุ่มฮามาสได้เรียนรู้และเตรียมตัวมาอย่างดี
 
อิสราเอลระบุว่า เมืองกาซาเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของกลุ่มฮามาส ซึ่งรวมถึงเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ บังเกอร์ และศูนย์บัญชาการขนาดใหญ่ของกลุ่มฮามาส
 
ขณะที่เฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการทหารอิสราเอล กล่าวว่า กองกำลังอิสราเอลกำลังสู้รบในพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้น มีความหนาแน่น และซับซ้อน โดยขณะนี้เป็นการสู้รบแบบเผชิญหน้ากับกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งจะมีการเรียกให้ทำการโจมตีทางอากาศและระดมยิงเมื่อจำเป็น
 
ฮาเลวีกล่าวว่า พวกเขากำลังสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับนักรบฮามาส และทำลายโครงสร้างพื้นฐานของฮามาสด้วยอุปกรณ์ทางวิศวกรรม
อิสราเอลระบุว่า ได้สูญเสียทหาร 18 นาย และได้สังหารกลุ่มติดอาวุธไปหลายสิบคน นับตั้งแต่มีการขยาปฏิบัติการภาคพื้นดินในพื้นที่ฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน
 
นายอาบู อูไบดา โฆษกกลุ่มติดอาวุธของฮามาส กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ยอดผู้เสียชีวิตของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้นสูงกว่าที่กองทัพอิสราเอลประกาศไว้มาก และว่า “ทหารของพวกคุณจะกลับไปในถุงดำ
 
ภาพวิดีโอที่ถูกเผยแพร่โดยฮามาสและนักรบญิฮาดที่เป็นพันธมิตรของฮามาสได้โผล่ออกมาจากอุโมงค์เพื่อยิงใส่รถถัง จากนั้นก็หายตัวกลับเข้าไปในเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน
 
หนึ่งในวิดีโอของฮามาสที่มีการเผยแพร่ แสดงให้เห็นภาพของนักรบฮามาสคนหนึ่งที่ปรากฎตัวขึ้นในทุ่งของฉนวนกาซาและนำระเบิดไปวางบนรถถัง จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ดูเหมือนว่านักรบรายนี้จะสวมหมวกซึ่งติดตั้งกล้องบันทึกภาพไว้ จากนั้นเขาได้วิ่งกลับไปยังอุโมงค์ และยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังใส่รถถึงของอิสราเอลอีกครั้ง
 
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน อิสราเอลยังได้โปรยใบปลิวให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากค่ายผู้ลี้ภัยชาติ ซึ่งอยู่ติดกับใจกลางเมืองกาซาทันที โดยข้อความในใบปลิวระบุว่า “หมดเวลาแล้ว” และเตือนว่า การโจมตีอย่างย่อยยับต่อนักรบฮามาสกำลังจะเกิดขึ้น
 


แกนนำฮามาสยืนยัน “เปิดกว้างต่อรอง” เรื่องตัวประกัน สหรัฐส่งโดรนค้นหา
https://www.dailynews.co.th/news/2864621/

หนึ่งในสมาชิกระดับสูงฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า "พร้อมประนีประนอม" เพื่อให้ตัวประกันทุกคนได้รับอิสรภาพ ขณะที่กองทัพสหรัฐส่งโดรนบินเหนือฉนวนกาซา เพื่อค้นหาเบาะแส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่านายกาซี ฮาหมัด หนึ่งในแกนนำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส กล่าวถึงสถานการณ์ตัวประกันราว 240 คน มีทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกลุ่มฮามาส นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่ากลุ่มฮามาส “เปิดกว้างที่จะประนีประนอม” เพื่ออิสรภาพของตัวประกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน 

อย่างไรก็ตาม การที่อิสราเอลยังคงยืนกราน ยังไม่เปิดทางให้มีการลำเลียงเชื้อเพลิงเข้าสู่ฉนวนกาซา และการที่กลุ่มฮามาสต้องการให้อิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ราว 6,000 คน ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ฮาหมัดเรียกร้องอิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา แต่กล่าวว่า การสู้รบของกลุ่มฮามาสครั้งนี้ “คือสิทธิอันชอบธรรม” ที่จะ “ต่อต้านการยึดครอง” พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับการที่ยุโรปร่วมกันต่อต้านการรุกคืบ และขยายอิทธิพลของนาซี

ขณะที่นายรอน เดอร์เมอร์ รมว.กิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล กล่าวว่า “อิสราเอลต้องปลดปล่อยฉนวนกาซาจากกลุ่มฮามาส

ด้านเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลแหล่งข่าวความมั่นคง ว่ากองทัพสหรัฐส่งโดรนหลายลำบินเหนือฉนวนกาซา โดยเน้นพื้นที่ทางตอนใต้ สอดแนมและรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือตัวประกัน



ส.อ.ท. กังวลงบฯ 67 ล่าช้ากระทบมาตรการกระตุ้นศก.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_635882/
 
ส.อ.ท. กังวลงบฯ 67 ล่าช้ากระทบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะรัฐใช้งบฯ พัฒนาเทคโนโลยีแบบมุ่งเป้า เร่งลงทุนน้ำทั้งระบบ
 
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 34 ในเดือนตุลาคม 2566 ภายใต้หัวข้อ “เรื่องใดที่ภาคอุตสาหกรรมอยากเห็นในแผนการใช้งบประมาณปี 2567” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มีความกังวลต่อผลกระทบของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ล่าช้า และอาจส่งผลกระทบต่อการนำงบประมาณไปดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ซึ่งที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวแล้ว จากการประเมินของ สศช. GDP ไตรมาสที่ 2/2566 ที่ผ่านมา ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.8 ชะลอลงจากร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 1/2566 แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ด้วยข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาและเงื่อนไขต่างๆ อาจทำให้การจัดสรรงบประมาณฯ ไม่สามารถตอบโจทย์ในการลงทุนสร้างเศรษฐกิจในระยะยาวได้
 
จากผลสำรวจยังพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ คาดหวังให้รัฐบาลให้ความสำคัญและจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายที่เน้นการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว อาทิการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมแบบมุ่งเป้าทั้งในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม รวมทั้ง การลงทุนด้านการจัดการน้ำทั้งระบบเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งน้ำแล้งและอุทกภัยในระยะยาว ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
 
เมื่อถามถึงสิ่งที่ภาครัฐควรปรับการจัดทำงบประมาณและการใช้จ่ายงบประมาณในระยะยาว พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. แนะนำให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบูรณาการวางแผนงบประมาณเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน มีการพัฒนาและนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการติดตามวัดผลประสิทธิภาพของการใช้จ่ายงบประมาณควบคู่กับการเปิดเผยข้อมูลให้มากขึ้น รวมถึงเร่งพัฒนากลไกการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ เช่น ปรับโครงสร้างภาษี, สร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจเข้ามาในระบบภาษี (E-Tax Invoice, E-Withholding TAX) เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่