ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2565 ผมเคยป่วยเป็นโรค COVID-19 แล้วก็หายเป็นปกติ จนกระทั่งในช่วงเดือนกันยายนในปีเดียวกันได้ออกฝึกงาน ผมเริ่มมีอาการไอแห้ง คันคอ พูดนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไอ เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ระหว่างที่มีอาการผมก็ได้กินยาแก้ไอ แต่ก็ไม่ดีขึ้น ตอนแรก ๆ ผมก็คิดว่าคงเป็นภาวะ Long COVID จนช่วงปลายเดือนกันยายน ผมเริ่มไอเป็นเลือด ปริมาณเลือดที่ออกมาเกือบ ๆ ครึ่งแก้วน้ำปกติที่เราดื่มกัน ผมตกใจมาก คิดในใจก็เอาล่ะต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่ ๆ เย็นวันต่อมาเลยโทรบอกพ่อกับแม่ และแจ้งกับพี่เลี้ยงว่าจะลาไปหาหมอ เช้าวันต่อมาพ่อขับรถมารับผมอยู่ที่ฝึกงาน แล้วพาไปหาหมอที่จ.ขอนแก่น
หลังจากถึงโรงพยาบาลก็ทำประวัติใหม่ เพราะไม่เคยมารักษาที่นี่มาก่อน ได้พบกับหมอ คุณหมอก็ซักประวัติ ผมก็เล่าให้หมอฟังเหมือนพารากราฟแรกเลยครับ แล้วหมอก็ถามว่าเคยสูบบหรี่ ดื่มเหล้าไหม ผมก็ตอบว่า ผมไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่เคยดื่มเหล้า หมอเลยเขียนใบให้ผมไปเจาะเลือด ตรวจเสมหะ และเอ็กซเรย์ปอด เพราะหมอสงสัยว่าอาจจะเป็นวัณโรค ก็รอฟังผลช่วงบ่าย พอผลตรวจทั้งหมดออก หมอก็บอกว่า จากที่ดูแผ่นเอ็กซเรย์ทรวงอกดูแล้วเข้าได้กับวัณโรคปอดนะ ส่วนเสมหะไม่เจอเชื้อ ผลเลือดก็ปกติดี
หมอก็อธิบายว่าเราต้องรับประทานยาต่อเนื่อง 6 เดือนนะ โดยต้องมาติดตามผลการรักษาทุก ๆ เดือน หลังจากหมออธิบายเสร็จผมก็นั่งซึม ๆ แล้วลุกไปเอายาที่หมอสั่ง ระหว่างนี้พ่อก็เดินเข้ามาแตะไหล่เบา ๆ แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร มันรักษาได้ เดี๋ยวก็หาย" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียวน้ำตาผมไหลทันที เพราะช่วงเวลานั้นจิตใจผมอ่อนไหวมาก ผมก็ได้แต่คิดว่าผมไปรับเชื้อวัณโรคนี้มาได้ยังไง ผมคงจะโชตร้ายมากแน่ ๆ เพราะหมอบอกว่าเคสแบบนี้ ที่ไม่มีประวัติสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ไม่ได้เป็นเอดส์ ไม่มีโรคประจำตัวเลย จะเป็นวัณโรคปอดได้ก็ 1 ใน 1,000 คน และผมต้องรักษาตัวกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อ แต่ยังคงต้องกินยาต่อเนื่อง 6 เดือน ถ้ากินยาไม่ต่อเนื่องจะทำให้เชื้อดื้อยาได้
หลังจากกลับถึงบ้านก็เจอแม่ อยากกอดแม่มากแต่ก็กอดไม่ได้ เพราะกลัวว่าแม่จะมีความเสี่ยงรับเชื้อไปด้วย ก็ใช้มาตรการในการเว้นระยะห่างเอา แม่ก็พูดมาว่า "เอาหน่า เดี๋ยวมันก็หาย สบาย ๆ" หลังจากเข้าห้องนอนทางอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็รู้ข่าวว่าเราเป็นวัณโรคปอดก็โทรมาให้กำลังใจเราแบบไม่ขาดสาย กลัวว่าผมจะเครียด เพราะเป็นช่วงเวลาฝึกงานด้วยแล้วผมต้องหยุดฝึกงานไป 2 สัปดาห์
ผมจะต้องรับประทานยาวันละ 10.5 เม็ด ในทุก ๆ วัน ตอนเช้าจะเป็นวิตามินบำรุงครึ่งเม็ด และตอน 20.00 น. ของทุกวันอีก 10 เม็ด กินยาปริมาณเท่านี้อยู่ประมาณ 3 เดือน หลังจากพบคุณหมอก็บอกว่าปอด และอาการโดยรวมดีขึ้นจะลดปริมาณยาลง ใน 3 เดือนสุดท้ายได้กินยาวันละ 6 เม็ด จนท้ายที่สุดจนครบ 6 เดือน ผมก็ได้หายกลับมาเป็นปกติ เป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมากสำหรับผม
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเลย และอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้หันมารักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ป้องกันตัวเองจากโรคต่าง ๆ ให้ดีนะครับ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ประสบการณ์ป่วยเป็นวัณโรคปอดในวัย 22 ปี
หลังจากถึงโรงพยาบาลก็ทำประวัติใหม่ เพราะไม่เคยมารักษาที่นี่มาก่อน ได้พบกับหมอ คุณหมอก็ซักประวัติ ผมก็เล่าให้หมอฟังเหมือนพารากราฟแรกเลยครับ แล้วหมอก็ถามว่าเคยสูบบหรี่ ดื่มเหล้าไหม ผมก็ตอบว่า ผมไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่เคยดื่มเหล้า หมอเลยเขียนใบให้ผมไปเจาะเลือด ตรวจเสมหะ และเอ็กซเรย์ปอด เพราะหมอสงสัยว่าอาจจะเป็นวัณโรค ก็รอฟังผลช่วงบ่าย พอผลตรวจทั้งหมดออก หมอก็บอกว่า จากที่ดูแผ่นเอ็กซเรย์ทรวงอกดูแล้วเข้าได้กับวัณโรคปอดนะ ส่วนเสมหะไม่เจอเชื้อ ผลเลือดก็ปกติดี
หมอก็อธิบายว่าเราต้องรับประทานยาต่อเนื่อง 6 เดือนนะ โดยต้องมาติดตามผลการรักษาทุก ๆ เดือน หลังจากหมออธิบายเสร็จผมก็นั่งซึม ๆ แล้วลุกไปเอายาที่หมอสั่ง ระหว่างนี้พ่อก็เดินเข้ามาแตะไหล่เบา ๆ แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร มันรักษาได้ เดี๋ยวก็หาย" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียวน้ำตาผมไหลทันที เพราะช่วงเวลานั้นจิตใจผมอ่อนไหวมาก ผมก็ได้แต่คิดว่าผมไปรับเชื้อวัณโรคนี้มาได้ยังไง ผมคงจะโชตร้ายมากแน่ ๆ เพราะหมอบอกว่าเคสแบบนี้ ที่ไม่มีประวัติสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ไม่ได้เป็นเอดส์ ไม่มีโรคประจำตัวเลย จะเป็นวัณโรคปอดได้ก็ 1 ใน 1,000 คน และผมต้องรักษาตัวกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อ แต่ยังคงต้องกินยาต่อเนื่อง 6 เดือน ถ้ากินยาไม่ต่อเนื่องจะทำให้เชื้อดื้อยาได้
หลังจากกลับถึงบ้านก็เจอแม่ อยากกอดแม่มากแต่ก็กอดไม่ได้ เพราะกลัวว่าแม่จะมีความเสี่ยงรับเชื้อไปด้วย ก็ใช้มาตรการในการเว้นระยะห่างเอา แม่ก็พูดมาว่า "เอาหน่า เดี๋ยวมันก็หาย สบาย ๆ" หลังจากเข้าห้องนอนทางอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็รู้ข่าวว่าเราเป็นวัณโรคปอดก็โทรมาให้กำลังใจเราแบบไม่ขาดสาย กลัวว่าผมจะเครียด เพราะเป็นช่วงเวลาฝึกงานด้วยแล้วผมต้องหยุดฝึกงานไป 2 สัปดาห์
ผมจะต้องรับประทานยาวันละ 10.5 เม็ด ในทุก ๆ วัน ตอนเช้าจะเป็นวิตามินบำรุงครึ่งเม็ด และตอน 20.00 น. ของทุกวันอีก 10 เม็ด กินยาปริมาณเท่านี้อยู่ประมาณ 3 เดือน หลังจากพบคุณหมอก็บอกว่าปอด และอาการโดยรวมดีขึ้นจะลดปริมาณยาลง ใน 3 เดือนสุดท้ายได้กินยาวันละ 6 เม็ด จนท้ายที่สุดจนครบ 6 เดือน ผมก็ได้หายกลับมาเป็นปกติ เป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมากสำหรับผม
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเลย และอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้หันมารักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ป้องกันตัวเองจากโรคต่าง ๆ ให้ดีนะครับ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ