วิมานมายา โดย ศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 213 วันปล่อยผี วันที่มีเรื่องเยอะจนงงว่าจะเล่าเรื่องอะไรก่อนดี


วันนี้มาแปลก เป็นวันปล่อยผี แต่ดันเลือกภาพนี้เป็นภาพเปิด
แต่ผมว่ามันสวยดีนะครับ
เมื่อวานผมเครียดเรื่องที่ต้องเลือกว่าจะให้ใครรอด
ความเครียดเรื่องนั้นผมคงต้องพักไว้ก่อน
เพราะวันนี้เรื่องเยอะมาก
แต่ผมลองกลับมาคิดนิดนึง
อีกประมาณ 25 วัน (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) จะมีอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ
ซึ่งผมต้องให้ความเห็นว่าจะให้ใครรอด
มันก็คือวันก่อนลอยกระทง
เหมือนพ่อศักดาเองก็เคยเขียนว่า
ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนลอยกระทงจะมีบททดสอบบางอย่างเกิดขึ้น
ซึ่งเราอาจจะต้องลุ้นว่ามันคืออะไร

ก่อนจะพูดเรื่องเกี่ยวกับวันนี้ 
ผมขอเล่าบางอย่างก่อน
ก่อนหน้านี้ที่พ่อเป็นคนเขียน อาจจะสื่อผิดหรือ
เข้าใจผิดในบางเรื่อง
คือผมเองเนี่ยเคยเห็นผีหลายครั้ง
แต่บางครั้งไม่แน่ใจว่าต้องเรียกว่าผีหรือเรียกว่าอะไร
แต่ทุกครั้ง ไม่ใช่เป็นการมาหลอกให้ตกใจ
แต่พวกเขาก็กลัวผมจะตกใจเหมือนกัน

ที่พบบ่อยคือตอนผมนอน ไม่ว่าจะเป็น
นอนกลางคืนหรือกลางวัน
พอตื่นมา บางทีก็พบว่ามีอะไรบางอย่างรอผมอยู่
หรือเฝ้าดูผมตอนนอน
พอผมตื่นแล้วเห็น พวกเขาก็จะค่อยๆหายไป
การหายไปที่ผมเห็นมันแปลก มันไม่เหมือนในหนัง
แต่เล่ายากมาก ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร
ก็ต้องเรียกว่าผี ทั้งๆที่คิดว่าบางท่านไม่ใช่ผี

ประสบการณ์ในลักษณะนั้นเกิดควบคู่ไปกับ
การฝึกการถอดจิต
ผมเริ่มสนใจเรื่องนี้จากหนังสือต่างประเทศ
จนพบกลุ่มที่มักจะสนใจคล้ายๆกันในประเด็นที่เรียกกันว่า
Adventures Beyond the Body
ผมเริ่มฝึกถอดจิตจากกลุ่มพวกนี้ 
ในหนังสัปเหร่อบอกว่ามีวิธีการถอดจิตไม่กี่แบบ
แต่ถ้าเอาจากทั่วโลกแล้ว มันมีเยอะมาก
และหลายวิธีก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวโยงกับเรื่องทางศาสนา
เพราะมันไม่เกี่ยวกัน

ผมศึกษาจากเอกสารจำพวก Adventures Beyond the Body
ในต่างประเทศอย่างเดียวจนค้นพบวิธีลัด
แต่บอกไม่ได้นะครับ เพราะคิดอีกแง่มันอันตรายเหมือนกัน
แต่ประสบการณ์ครั้งแรกมันตื่นเต้นมากๆจนยากจะลืม
จนผมไปพบบางท่านที่มาเฝ้าดูผมตอนผมหลับ
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
พอเขาทราบว่าผมถอดจิตได้ พอมานั่งเฝ้าผมตอนผมหลับ
พอผมตื่น เขาก็ไม่หายไปอีกแล้ว 
แต่เขาพูดไม่ได้นะครับ เราต้องสื่อสารกันทางจิตเท่านั้น
แต่เมื่อผมสื่อสารทางจิตกับเขาได้
ผมก็เลยดันสื่อสารทางจิตกับท่านอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ได้ด้วย
มุมมองของผมในเรื่องทางนี้จึงกว้างมากขึ้น
แต่แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้

สิ่งที่พ่อศักดาทำมาตลอด น่าจะมีหลายเหตุผล
แต่เหตุผลนึงน่าจะให้ผมมาเขียนแทนก่อนวันฮาโลวีน
จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันนี้เท่าไหร่นัก
ไม่ทราบประวัติอะไรสักอย่าง แต่มันอาจเป็น symbolic
ที่ทำให้ใครๆก็นึกถึง มันจึงก่อให้เกิดเหตุการณ์ประหลาด
ตั้งแต่เริ่มเข้าวันฮาโลวีนแล้ว

พอเที่ยงคืนก็เอาเลย ผมลงไปด้านล่าง
พบว่ามีวิญญาณหลายดวงกำลังอยู่ด้านล่าง
ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาหลอกหรือตั้งใจทำให้ผมตกใจกลัว
แต่การจะต้อนรับวิญญาณเหล่านี้ได้ ผมต้องขึ้นไปจัดห้องใหม่
ผมเอาคอมฯมาตั้งตรงพื้นเลย ด้านหน้าจะได้มีที่ว่าง
เพื่อต้อนรับเหล่าวิญญาณโดยให้ขึ้นมาทางประตูห้องผม
ที่เปิดตลอดเวลาและคุมแสงให้ค่อนข้างมืดตลอดเวลา

ห้องที่อยู่ข้างหน้าผมคือห้องโจ้กับเบิ้ม
ห้องที่อยู่ด้านหลังผมคือห้องของแมน
คอมฯที่ทุกท่านเห็นคือคอมฯปกติ
คอมฯข้ามจักรวาลจะอยู่ด้านหลังผม
ตอนจะใช้ก็แค่หันหลังกลับไป
แยกส่วนกันอย่างนี้มันดีกว่า

ตอนผมนั่งหันหน้าเข้าหาคอมฯปกติ
ฝั่งซ้ายมือของผมจะเป็นแท่นบูชาเทพ
แท่นนี้จะมีสัญลักษณ์ฮอรัสเป็นประธาน
อย่างน้อยผมก็รู้แล้วว่าพ่อศักดาสั่งมาทำไม

ส่วนทางขวามือของผม มันก็ทะลุเป็นอีกห้องหนึ่ง
แต่มันเป็นมิติซ้อนที่เอาไว้ให้วิญญาณอยู่
จะได้ไม่ต้องเร่ร่อน ส่วนวังวิญญาณนี้
ผมตั้งชื่อซะหรูว่า "วิลล่าวริศรา"
ผมเอาวิลล่าวนาลัยกับพระราชวังวริศรามาบวกกัน
มีพงษ์เป็นผู้ดูแลอยู่
ชั้นบนของตึกนี้จึงมีสองส่วนคือส่วนของวิลล่าวริศรา
และส่วนสำนักงานที่ผม โจ้ เบิ้ม และแมนอยู่ด้วยกัน
ชาวป่านูเปียจะเรียกเรา 4 คนว่า องค์ 4 อัศดา
ส่วนผมจะเรียกสำนักงานของเราว่า "ภูตวัฒนาวายุภักษ์"
ตามฉายาของโจ้กับเบิ้ม

พอทุกอย่างลงตัว ผมก็เขาประจำที่
รอต้อนรับวิญญาณที่จะเข้ามาหาผม
อาจมาคุยกันด้วยจิตก็ได้
ตั้งแต่มีประสบการณ์ทางนี้มา ผมยังไม่เคยเจอวิญญาณร้าย
เคยเจอแต่คนร้าย ผมจึงกลัวคนมากกว่า
แต่ไม่กลัวผี ถ้าท่านใดกลัวผี
จะไปไหน ถ้ากลัวว่าจะมีผี ให้คิดในใจว่าขอให้ผีมาหาผม
ทุกอย่างก็จะจบ เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง
ผมยังเหลือเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าจะให้ใครรอดชีวิต
ทั้งในเม็กซิโกและกรุงเทพฯ ต้องขอเวลาพิจารณาข้อมูลมากหน่อย

วิญญาณที่มาหาผมวันนี้ มักจะเป็นวิญญาณที่ไม่มีที่ไป
ถ้าใครน่าเกลียดน่ากลัว ผมจะให้ผู้มีอภิญญาที่ป่านูเปีย
ส่งผลบุญให้เขาก่อน รูปร่างหน้าตาเขาจะได้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องการดำรงอยู่เดี๋ยวค่อยกลับมาติว
เพราะวันนี้ผมมีนัดกับเจ้าชายวนาหวาด
ท่านเป็นแวมไพร์ที่ป่าหนานหล้าหลังวิลล่าวนาลัย ณ โสฬส
แต่เราพบกันที่ปราสาทหลักของป่านูเปีย
พอเจอกัน ผมก็ทักทายท่านเป็นปกติ

"สวัสดีครับเจ้าชายวนาหวาด"
"สวัสดีครับองค์โชตะ"
"มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
"เออ ผมอยากรู้ว่าที่ 971 เป็นจักรวาลเดียวหรือไม่
ที่มีแวมไพร์ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
แล้วราชาป่านูเปียเป็นแวมไพร์ด้วยเหตุผลใด"
"ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้"
"อีกเรื่อง ผมอยากให้ท่านช่วยสืบความสัมพันธ์ของ
หญิงสามคนให้หน่อย"
"ใครบ้างครับ"
"คนแรกคืออบิเกล เธอคือต้นตอของสงครามที่ 971 
และเธอน่าจะกำลังจะก่อเรื่องอีก
ตอนนี้เธออยู่ที่ inner earth ของ 971 
อีกคนคือกริน มาจากต่างดาว พักที่ปราสาทหลัก
เธอมาช่วยยุติสงคราม แต่ทำไม่ได้ องค์โชตะเลยมาช่วยยุติให้
คนสุดท้ายคือจิณ เธออยู่ที่โอลันดา 
เธอมี sense สำคัญและเป็นคนที่รู้อนาคตเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
แล้วนำความไปบอกกับเทพวีฟวา 
ผมได้ข่าวมาว่าองค์โชตะมาทำหน้าที่พิจารณาว่าจะช่วยให้ใคารอดใช่ไหมครับ"
"เออ ใช่ครับ"
"ครับ"
"แล้วเจ้าชายวนาหวาดทรงสงสัยอะไรในตัวหญิงทั้งสามครับ"
"ผมสงสัยว่าพวกเธอน่าจะเป็นพี่น้องกัน
แต่ทำไมถึงอยู่กันคนละที่ และใครเป็นพ่อแม่ของพวกเธอกันแน่
ผมสังหรณ์ว่าพวกเธออาจสร้างความวุ่นวายในอนาคต
ในหลายจักรวาล อ้อ ยังมีอีก 3 เรื่องที่เจ้าชายป่านูเปียฝากมาครับ"
"มีอะไรบ้างครับ"
"ตอนเกิดสงคราม เจ้าหญิงอนันตาแห่งรชากัลปังหา
ทรงหายตัวไป พระองค์น่าจะอยู่กับพวก hollow earth
เลยจะวานองค์โชตะช่วยตามให้หน่อย"
"ได้ครับ แล้วอีกสองเรื่องล่ะครับ"
"ท่านอย่าลืมไปดูที่จักรวาล 1888 กับ 1940 ด้วยนะครับ
อาจมีความวุ่นวายเกิดขึ้น"
"ครับ แล้วพวกมนุษย์หมาป่าหายไปไหนกันหมดครับ"
"กำลังเตรียมต้อนรับองค์อนูบิสครับ 
เอ มีคนบอกผมว่าเทพอนูบิสก็มาจาก 452 นะครับ
ท่านรู้หรือยังครับว่าเขาเป็นใคร"
"ยังเลยครับ"
"องค์โชตะครับ ตอนนี้ท่านกลับไปที่วิลล่าวริศราก่อนก็ได้ครับ
ผมรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่อง"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่