เปิดมหากาพย์ ย้อนปมปัญหา ส่งพื้นที่ให้จุฬาฯ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด หลังกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากที่นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงการย้ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ออกจากพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยล่าสุดเช้านี้ ที่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กลุ่มนักศึกษาศิษย์ปัจจุบันตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก กว่า 100 คนนัดรวมตัวกัน คัดค้านการย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมอ่านแถลงการณ์ขอความเห็นใจไปยัง นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) พร้อมนำป้ายไวนิลแสดงออกถึงการคัดค้าน ด้านบนฟุตปาทหน้าสถาบันดังกล่าว
ปมความขัดแย้ง
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้เจรจาตกลงเรื่องการขอคืนพื้นที่อุเทนถวาย ที่ตั้งอยู่ย่านพญาไท เพราะว่าจุฬาฯ ต้องการนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้เป็นพื้นที่การศึกษา
ทางด้านนักศึกษาอุเทนถวาย รวมถึงศิษย์เก่า ออกมาเรียกร้องขอใช้พื้นที่นี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถาบันผลิตบุคคลที่มีคุณภาพสายช่างมาอย่างยาวนานเกือบ 80 ปี ที่ตรงนี้เปรียบเสมือนบ้าน ไม่อยากย้ายไปไหน มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน อีกทั้งการที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาข้อพิพาทนี้ ก็ยังส่งผลให้ถูกตัดงบประมาณการพัฒนาการศึกษา
ซึ่งมองว่าการที่อุเทนถวายมีข่าวไม่ดีออกไปหลาย ๆ ครั้ง ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาการศึกษา ทำให้คุณภาพของการศึกษาลดน้อยลง ทั้งที่การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับปัญหาที่ดินระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอุเทนถวาย มีมาอย่างยาวนาน สืบเนื่องจากแผนแม่บทจัดการที่ดิน 1,153 ไร่ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ดำเนินการขอคืนพื้นที่อุเทนถวาย จำนวน 20 ไร่ 3 งาน 29 ตารางวา ที่อุเทนถวายทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 68 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2478-2546 เพื่อขยายเขตพื้นที่การศึกษาตามโครงการพัฒนา
ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้เจรจาขอคืนที่ดินมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 แต่ไม่เป็นผล
โดยจุฬาฯ ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ กรมธนารักษ์ ขอความอนุเคราะห์จัดหาพื้นที่ให้อุเทนถวาย ในปี พ.ศ. 2545 กรมธนารักษ์จัดหาพื้นที่ให้จำนวน 36 ไร่ ที่ ต.บางปิ้ง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ครม.จัดสรรงบฯให้เพื่อการก่อสร้างและขนย้ายประมาณ 200 ล้านบาท
อุเทนถวายได้ทำบันทึกข้อตกลงกับจุฬาฯ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2547 จะขนย้าย และส่งมอบพื้นที่คืนให้จุฬาฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 หากจำเป็นก็จะผ่อนผันให้ไม่เกิน 1 ปี
ต่อมาในปี 2548 ได้ทำบันทึกข้อตกลง ว่า อุเทนถวายจะย้ายไปก่อสร้างสถาบันใหม่ที่ ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมย้ายบุคลากร และนักศึกษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 แต่การย้ายยังติดขัดปัญหาและเป็นไปอย่างล่าช้า ต่อมาปี 2550 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาชี้ขาดยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติ ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี (กยพ.) สโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ได้ทูลเกล้าฯถวายฎีกา 2 ครั้ง ในปี 2552 กยพ.มีมติชี้ขาดให้อุเทนถวายขนย้ายทรัพย์สิน และคืนพื้นที่ให้จุฬาฯ และชำระค่าเสียหายปีล้านบาทเศษ จนกว่าจะส่งมอบพื้นที่สำเร็จ ทางด้านผลการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือยืนยันผลชี้ขาดตามมติของ กยพ. และทางจุฬาฯ ไม่ได้ทวงเงินค่าเสียหายจากอุเทนถวายแต่อย่างใด
ต่อมาในเดือนธันวาคม 2565 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้อุเทนถวายย้ายออกจากพื้นที่ โดยจะต้องดำเนินการภายใน 60 วันหลังจากมีคำสั่ง
ศุภมาส รมว.อว. หาทางออก
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางออกร่วมกันภายหลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ คือ มีตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) และคำสั่งศาล
รวมถึงจัดทำแผนในการขยับขยายและจัดหาพื้นที่ใหม่ โดยจะเชิญศิษย์เก่าอุเทนถวายเข้าร่วมเป็นคณะทำงานชุดนี้ด้วย ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีการจัดประชุมในสัปดาห์หน้าด้วย
ทั้งนี้ การย้ายวิทยาเขตอุเทนถวาย รัฐมนตรีว่าการ อว.ยืนยันว่า จะดูแลให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงจะดูแลในมิติทางสังคม โดยเฉพาะอัตลักษณ์ของอุเทนถวายที่มีมายาวนานกว่า 93 ปี
ทั้งนี้ ศิษย์เก่าของอุเทนถวายจะมีการร่วมประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยมีศิษย์เก่าทั่วประเทศ และศิษย์ปัจจุบัน จะรวมตัวกันหารือเรื่องดังกล่าว เพื่อเรียกร้องคืนความยุติธรรมให้ศิษย์อุเทนถวาย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.prachachat.net/general/news-1426277
ย้อนปมปัญหา ย้ายอุเทนถวาย ส่งพื้นที่ให้จุฬาฯ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
เปิดมหากาพย์ ย้อนปมปัญหา ส่งพื้นที่ให้จุฬาฯ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด หลังกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากที่นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงการย้ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ออกจากพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยล่าสุดเช้านี้ ที่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กลุ่มนักศึกษาศิษย์ปัจจุบันตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก กว่า 100 คนนัดรวมตัวกัน คัดค้านการย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมอ่านแถลงการณ์ขอความเห็นใจไปยัง นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) พร้อมนำป้ายไวนิลแสดงออกถึงการคัดค้าน ด้านบนฟุตปาทหน้าสถาบันดังกล่าว
ปมความขัดแย้ง
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้เจรจาตกลงเรื่องการขอคืนพื้นที่อุเทนถวาย ที่ตั้งอยู่ย่านพญาไท เพราะว่าจุฬาฯ ต้องการนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้เป็นพื้นที่การศึกษา
ทางด้านนักศึกษาอุเทนถวาย รวมถึงศิษย์เก่า ออกมาเรียกร้องขอใช้พื้นที่นี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถาบันผลิตบุคคลที่มีคุณภาพสายช่างมาอย่างยาวนานเกือบ 80 ปี ที่ตรงนี้เปรียบเสมือนบ้าน ไม่อยากย้ายไปไหน มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน อีกทั้งการที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาข้อพิพาทนี้ ก็ยังส่งผลให้ถูกตัดงบประมาณการพัฒนาการศึกษา
ซึ่งมองว่าการที่อุเทนถวายมีข่าวไม่ดีออกไปหลาย ๆ ครั้ง ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาการศึกษา ทำให้คุณภาพของการศึกษาลดน้อยลง ทั้งที่การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับปัญหาที่ดินระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอุเทนถวาย มีมาอย่างยาวนาน สืบเนื่องจากแผนแม่บทจัดการที่ดิน 1,153 ไร่ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ดำเนินการขอคืนพื้นที่อุเทนถวาย จำนวน 20 ไร่ 3 งาน 29 ตารางวา ที่อุเทนถวายทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 68 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2478-2546 เพื่อขยายเขตพื้นที่การศึกษาตามโครงการพัฒนา
ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้เจรจาขอคืนที่ดินมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 แต่ไม่เป็นผล
โดยจุฬาฯ ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ กรมธนารักษ์ ขอความอนุเคราะห์จัดหาพื้นที่ให้อุเทนถวาย ในปี พ.ศ. 2545 กรมธนารักษ์จัดหาพื้นที่ให้จำนวน 36 ไร่ ที่ ต.บางปิ้ง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ครม.จัดสรรงบฯให้เพื่อการก่อสร้างและขนย้ายประมาณ 200 ล้านบาท
อุเทนถวายได้ทำบันทึกข้อตกลงกับจุฬาฯ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2547 จะขนย้าย และส่งมอบพื้นที่คืนให้จุฬาฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 หากจำเป็นก็จะผ่อนผันให้ไม่เกิน 1 ปี
ต่อมาในปี 2548 ได้ทำบันทึกข้อตกลง ว่า อุเทนถวายจะย้ายไปก่อสร้างสถาบันใหม่ที่ ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมย้ายบุคลากร และนักศึกษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 แต่การย้ายยังติดขัดปัญหาและเป็นไปอย่างล่าช้า ต่อมาปี 2550 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาชี้ขาดยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติ ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี (กยพ.) สโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ได้ทูลเกล้าฯถวายฎีกา 2 ครั้ง ในปี 2552 กยพ.มีมติชี้ขาดให้อุเทนถวายขนย้ายทรัพย์สิน และคืนพื้นที่ให้จุฬาฯ และชำระค่าเสียหายปีล้านบาทเศษ จนกว่าจะส่งมอบพื้นที่สำเร็จ ทางด้านผลการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือยืนยันผลชี้ขาดตามมติของ กยพ. และทางจุฬาฯ ไม่ได้ทวงเงินค่าเสียหายจากอุเทนถวายแต่อย่างใด
ต่อมาในเดือนธันวาคม 2565 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้อุเทนถวายย้ายออกจากพื้นที่ โดยจะต้องดำเนินการภายใน 60 วันหลังจากมีคำสั่ง
ศุภมาส รมว.อว. หาทางออก
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางออกร่วมกันภายหลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ คือ มีตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) และคำสั่งศาล
รวมถึงจัดทำแผนในการขยับขยายและจัดหาพื้นที่ใหม่ โดยจะเชิญศิษย์เก่าอุเทนถวายเข้าร่วมเป็นคณะทำงานชุดนี้ด้วย ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีการจัดประชุมในสัปดาห์หน้าด้วย
ทั้งนี้ การย้ายวิทยาเขตอุเทนถวาย รัฐมนตรีว่าการ อว.ยืนยันว่า จะดูแลให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่อบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงจะดูแลในมิติทางสังคม โดยเฉพาะอัตลักษณ์ของอุเทนถวายที่มีมายาวนานกว่า 93 ปี
ทั้งนี้ ศิษย์เก่าของอุเทนถวายจะมีการร่วมประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยมีศิษย์เก่าทั่วประเทศ และศิษย์ปัจจุบัน จะรวมตัวกันหารือเรื่องดังกล่าว เพื่อเรียกร้องคืนความยุติธรรมให้ศิษย์อุเทนถวาย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.prachachat.net/general/news-1426277