สมมุติฐาน เรากำลังอยู่ในเอกภพจำลอง - เป็นสุมมติฐานที่จะเชื่อมโยง ความผันผวน และขัดต่อสามัญสำนึกของควอนตัม และเวลา
เอกภพนี้คือระบบจำลอง ที่ทำงานในรูปแบบเมทริก มีการประมวลผลเชิงพื้นที่ ที่สร้างขึ้นและถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด
ควอนตั้ม ฟิสิกส์
เมื่อสิ่งใดไม่สามารถถูกสังเกตได้ สิ่งนั่นจะทำงานแบบในรูปแบบหนึ่ง เพื่อลดพลังงานที่ใช้ในการประมวลผลของระบบ แต่เมื่อสิ่งนั่นสามารถถูกสังเกตได้ หรือกำลังถูกสังเกต สิ่งนั่นจะทำงานอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความเที่ยงตรงมากกว่า เช่น
- แสงที่ทำงานเป็นทั้งคลื่น และอนุภาค
- หมอกความน่าจะเป็นของอิเล็กตรอนรอบโปรตอน
แสงไม่มีทางรู้ได้ว่ามันถูกตรวจสอบอยู่หรือไม่ ตามวิธีทดลองที่แยบยล ของไอน์สไตล์ แต่แสงกลับรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังถูกตรวจสอบอยู่ จากอุปกรณ์ที่ติดที่ฉากกั้น นั่นเพราะแสงไม่ได้รู้ แต่ "ระบบของเอกภพรู้"
ในเอกภพ สิ่งที่ไม่ถูกสังเกตได้ ก็เหมือนระบบในเกมส์ เมื่อคุณไม่เปิดเข้าไปดู สิ่งของในนั่นจะประมวลผลในรูปแบบความน่าจะเป็น เช่นกล่องสุ่มไอเทมในแผนที่ มันจะยังไม่ระบุว่าของในกล่องคืออะไร จนกว่าคุณบังคับตัวละครให้เดินไปเปิดมัน และเมื่อคุณเดินไปเปิดมัน ความน่าจะเป็นของกล่องสุ่มนี้จะหายไปทันที เกิดเป็นสิ่งของที่คงที่แน่นอน (ตรงตามทฤษฎีควอนตัม)
สัมพันธภาพ และสัมพันธภาพพิเศษ
แสง คือเครื่องมือในการ ประมวลผลระบบ ความเร็วแสงเปรียบเหมือนความเร็วในการประมวลผลของเอกภพนี้ เมื่อจุดใดมีมวลอยู่มาก ความสามารถในการประมวลผลวัตถุ หรือสิ่งต่างๆ ในพื้นที่นั่นจะลดลง ผลคือ เวลาที่จุดนั่นจะช้าลง (สอดคล้องกับทฤษฎีสัมพันธภาพ)
เมื่อวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง การประมวลผลของระบบทำได้ช้าลง จากระยะทางที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทำให้เวลาของสิ่งนั่นช้าลง
ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงสมมุติฐาน แต่มันอาจจะเป็นคำตอบของหลายสิ่งหลายอย่างที่เรากำลังงุนงง และหาคำตอบไม่ได้ ทั้ง คำถามของเอกภพ และภายในจิตใจเรา
เรากำลังอยู่ในโลกจำลอง!
เอกภพนี้คือระบบจำลอง ที่ทำงานในรูปแบบเมทริก มีการประมวลผลเชิงพื้นที่ ที่สร้างขึ้นและถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด
ควอนตั้ม ฟิสิกส์
เมื่อสิ่งใดไม่สามารถถูกสังเกตได้ สิ่งนั่นจะทำงานแบบในรูปแบบหนึ่ง เพื่อลดพลังงานที่ใช้ในการประมวลผลของระบบ แต่เมื่อสิ่งนั่นสามารถถูกสังเกตได้ หรือกำลังถูกสังเกต สิ่งนั่นจะทำงานอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความเที่ยงตรงมากกว่า เช่น
- แสงที่ทำงานเป็นทั้งคลื่น และอนุภาค
- หมอกความน่าจะเป็นของอิเล็กตรอนรอบโปรตอน
แสงไม่มีทางรู้ได้ว่ามันถูกตรวจสอบอยู่หรือไม่ ตามวิธีทดลองที่แยบยล ของไอน์สไตล์ แต่แสงกลับรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังถูกตรวจสอบอยู่ จากอุปกรณ์ที่ติดที่ฉากกั้น นั่นเพราะแสงไม่ได้รู้ แต่ "ระบบของเอกภพรู้"
ในเอกภพ สิ่งที่ไม่ถูกสังเกตได้ ก็เหมือนระบบในเกมส์ เมื่อคุณไม่เปิดเข้าไปดู สิ่งของในนั่นจะประมวลผลในรูปแบบความน่าจะเป็น เช่นกล่องสุ่มไอเทมในแผนที่ มันจะยังไม่ระบุว่าของในกล่องคืออะไร จนกว่าคุณบังคับตัวละครให้เดินไปเปิดมัน และเมื่อคุณเดินไปเปิดมัน ความน่าจะเป็นของกล่องสุ่มนี้จะหายไปทันที เกิดเป็นสิ่งของที่คงที่แน่นอน (ตรงตามทฤษฎีควอนตัม)
สัมพันธภาพ และสัมพันธภาพพิเศษ
แสง คือเครื่องมือในการ ประมวลผลระบบ ความเร็วแสงเปรียบเหมือนความเร็วในการประมวลผลของเอกภพนี้ เมื่อจุดใดมีมวลอยู่มาก ความสามารถในการประมวลผลวัตถุ หรือสิ่งต่างๆ ในพื้นที่นั่นจะลดลง ผลคือ เวลาที่จุดนั่นจะช้าลง (สอดคล้องกับทฤษฎีสัมพันธภาพ)
เมื่อวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง การประมวลผลของระบบทำได้ช้าลง จากระยะทางที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทำให้เวลาของสิ่งนั่นช้าลง
ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงสมมุติฐาน แต่มันอาจจะเป็นคำตอบของหลายสิ่งหลายอย่างที่เรากำลังงุนงง และหาคำตอบไม่ได้ ทั้ง คำถามของเอกภพ และภายในจิตใจเรา