คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 61
ขอบคุณทุกๆคนมากๆเลยนะคะ กำลังใจเพียบเลย และก็ขอบคุณพี่ๆที่ทั้งสละเวลามาแนะนำและมาให้แนวทางต่างๆมากมาย
มีทั้งนำไปปรับใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ทุกคำตอบเป็นพลังบวกให้เราได้พอสมควรเลยค่ะ
เราขอตอบเพิ่มเติมในส่วนที่ยังอธิบายไม่หมดนะคะ คำถามที่ว่าอะไรที่ทำให้เรายึดติดกับคำว่าครอบครัวและแม่ได้มากขนาดนี้
อาจจะเป็นด้วยวัยเด็กที่เราเห็นแม่เราเป็นฮีโร่มาแต่ไหนแต่ไรค่ะ เราไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้เอามาเป็นปัญหาหรือรู้สึกว่าขาดอะไรเลย
เพราะในสายตาเรา แม่เราเป็นคนเก่งที่พาครอบครัวให้รอดมาได้จนเราโต ถึงทางจะไม่ได้เรียบเท่าไหร่ ตั้งแต่เด็กจนโตเรามีพ่อเลี้ยงมาตลอด
จนมีช่วงนึงที่เป็นเหมือนบทเรียนในชีวิตคือพ่อเลี้ยงทิ้งครอบครัวไปมีคนอื่น ล่มหมดเลยค่ะเสียทั้งบ้าน ทั้งการเรียน คือมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ตอนนั้นแหละที่เราคิดว่าไม่มีใครดูแลเราและครอบครัวเราได้นอกจากตัวเราเอง จากนั้นเราก็ถีบตัวเองมาตลอด ทำงาน ส่งตัวเองเรียน วางแผนอนาคตต่างๆนาๆ ส่งเงินให้แม่ตามกำลังเจอกันปีนึง2-3 ครั้งเหมือนคนทั่วๆไปเลยค่ะ เขาไม่ได้มาขออะไรจากเรามาก ยังไม่ได้มาแบกหรืออะไรเลย จนกระทั่งมีลูกนี่แหละค่ะ เลยได้เข้ามาดูแลแบบครบวงจร จนได้รู้ว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้มันหนักมากขนาดนี้ และนั้นก็เหมือนเป็นข้อเสียของเราติดตัวมาด้วยค่ะ คือไม่เคยหวังพึ่งหรือขอความช่วยเหลือจากใครเลย แม้กระทั่งเอาชีวิตไปผูกไว้กับใครก็ไม่เคย เพราะเข็ดกับที่ผ่านมา
ตอนนี้ลูกเราเกือบ 5 ขวบแล้วค่ะ ดูแลตัวเองได้ระดับนึง แบบไม่ต้องเลี้ยงตลอดเวลาขนาดนั้น เช้าไปเรียน เย็นเรียนพิเศษต่ออีก 1.30 ชม.
วันเสาร์ครึ่งเช้า เรียนพิเศษ เราทำงานถึงวันเสาร์ค่ะ ทำ 2 งาน จะกลับบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไปเลี้ยงเขาและพาเขาไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่บ้านจะเลี้ยงเต็มที่ก็ตอนเช้าไปเรียน หลังเลิกเรียนจนเข้านอนค่ะ
เราเข้าใจนะคะ สำหรับพี่ๆที่เข้ามาแนะนำ แต่เราก็มาถามตัวเองบ่อยๆว่าเราใจแข็งมากพอจะทิ้งทุกอย่างแล้วมาอยู่กับลูก 2 คนได้ไหม
อีกใจก็อยากให้เขาได้อยู่กับยายเพราะเขาอยู่ด้วยกันมาตลอด จับแยกก็กลัวลูกจะเสียใจค่ะ เขาสนิทกับยายเขามาก สรุปตอนนี้เราใจแข็งไม่ได้มากขนาดนั้น แต่อาจจะเอาคำแนะนำมาปรับใช้ในเรื่องอื่นๆแทนค่ะ เหมือนหลายท่านแนะนำมาถ้าไม่ใจแข็งก็มีทางเดียวคือหาเงินเก่งๆแทน
เพิ่มเติมในส่วนของคำถามที่ว่าทำไมไม่เอาลูกมาเลี้ยงเอง เราทำงาน 2 ที่และ 3 งานค่ะ เช้า-เย็น ทำงานหลัก เย็น-ดึก ทำงานที่ 2
งานที่ 3 จะเป็นจ๊อปๆเข้ามาไม่แน่นอน ทำทุก จ-ส ค่ะ
ถ้าเอาลูกมาอยู่ด้วย จ้างเลี้ยงช่วงเลิกเรียน ค่ำๆเรากลับมาเลี้ยงเองแต่ก็ต้องทำงานที่ 2 ไปด้วย
เหมือนเอาเขามานั่งดูเราทำแต่งานกับงาน ซึ่งอาจจะต้องตัดงานที่ 2-3 ทิ้งไป ซึ่งไม่พอที่จะดูแลลูกแน่ๆค่ะ เลยคิดว่าถ้าอยู่ตรงนั้น ยังมีเพื่อนๆรุ่นเดียวกันข้างบ้าน มีครอบครัวใหญ่ ที่คอยอยู่กับเขาเล่นกับเขา และทางเราได้มีเวลาในการทำงานแบบเต็มที่
ในส่วนลูกนั้น เราอยากให้มันจบที่รุ่นเรานี่แหละค่ะ คนสมัยก่อนเขาหวังพึ่งลูกหลานเหมือนเขาถูกสอนมาแบบนั้นว่ามีลูกมีหลานก็ต้องดูแลพ่อแม่สิอะไรแบบนั้น เราก็หนึ่งในเจนที่ถูกปลูกฝั่งมาแบบนั้นเหมือนกันค่ะ แต่กับลูกเรา โนเวย์เลยค่ะ 555555 ไม่มีทางที่เขาจะมารับไม้ต่อเราอย่างแน่นอน เรามีแผนสำหรับตัวเองและลูกไว้บ้างแล้ว เราเก็บเงินของทั้ง 2 คนไว้ค่ะ ของเราตอนเราเกษียณ และของลูกจะมีเงินหลังจากเขาเรียนจบแล้วให้เขาไปสร้างเนื้อสร้างตัวตามทางของเขา
เราตั้งเป้าไว้ว่าแบบนั้น เรารู้ว่ามันทั้งเหนื่อยทั้งท้อขนาดไหนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่ เราจะไม่ให้เขามาเจออะไรแบบนี้อีกค่ะ เขาไม่ได้ขอเราเกิดมา เพราะฉะนั้นเขาไม่ควรมีหน้าที่หรือความรับผิดชอบอะไรในส่วนนี้ติดมาด้วย มันไม่แฟร์ค่ะ
เข้าใจบางคนนะคะที่ว่าทำให้ได้ก่อนเถอะค่อยพูด แต่ที่อยากบอกคือมายเซ็ตเราเป็นแบบนี้ และตั้งใจไว้แบบนี้ค่ะ นอกนั้นระหว่างทางเรามีหน้าที่ทำให้มันเป็นไปได้มากที่สุด
ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะคะ ครั้งแรกที่มาตั้งกระทู้ ยังไงถ้ามีอะไรผิดพลาดไปตรงไหนขออภัยมาณที่นี่ด้วยนะคะ

มีทั้งนำไปปรับใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ทุกคำตอบเป็นพลังบวกให้เราได้พอสมควรเลยค่ะ
เราขอตอบเพิ่มเติมในส่วนที่ยังอธิบายไม่หมดนะคะ คำถามที่ว่าอะไรที่ทำให้เรายึดติดกับคำว่าครอบครัวและแม่ได้มากขนาดนี้
อาจจะเป็นด้วยวัยเด็กที่เราเห็นแม่เราเป็นฮีโร่มาแต่ไหนแต่ไรค่ะ เราไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้เอามาเป็นปัญหาหรือรู้สึกว่าขาดอะไรเลย
เพราะในสายตาเรา แม่เราเป็นคนเก่งที่พาครอบครัวให้รอดมาได้จนเราโต ถึงทางจะไม่ได้เรียบเท่าไหร่ ตั้งแต่เด็กจนโตเรามีพ่อเลี้ยงมาตลอด
จนมีช่วงนึงที่เป็นเหมือนบทเรียนในชีวิตคือพ่อเลี้ยงทิ้งครอบครัวไปมีคนอื่น ล่มหมดเลยค่ะเสียทั้งบ้าน ทั้งการเรียน คือมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ตอนนั้นแหละที่เราคิดว่าไม่มีใครดูแลเราและครอบครัวเราได้นอกจากตัวเราเอง จากนั้นเราก็ถีบตัวเองมาตลอด ทำงาน ส่งตัวเองเรียน วางแผนอนาคตต่างๆนาๆ ส่งเงินให้แม่ตามกำลังเจอกันปีนึง2-3 ครั้งเหมือนคนทั่วๆไปเลยค่ะ เขาไม่ได้มาขออะไรจากเรามาก ยังไม่ได้มาแบกหรืออะไรเลย จนกระทั่งมีลูกนี่แหละค่ะ เลยได้เข้ามาดูแลแบบครบวงจร จนได้รู้ว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้มันหนักมากขนาดนี้ และนั้นก็เหมือนเป็นข้อเสียของเราติดตัวมาด้วยค่ะ คือไม่เคยหวังพึ่งหรือขอความช่วยเหลือจากใครเลย แม้กระทั่งเอาชีวิตไปผูกไว้กับใครก็ไม่เคย เพราะเข็ดกับที่ผ่านมา
ตอนนี้ลูกเราเกือบ 5 ขวบแล้วค่ะ ดูแลตัวเองได้ระดับนึง แบบไม่ต้องเลี้ยงตลอดเวลาขนาดนั้น เช้าไปเรียน เย็นเรียนพิเศษต่ออีก 1.30 ชม.
วันเสาร์ครึ่งเช้า เรียนพิเศษ เราทำงานถึงวันเสาร์ค่ะ ทำ 2 งาน จะกลับบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไปเลี้ยงเขาและพาเขาไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่บ้านจะเลี้ยงเต็มที่ก็ตอนเช้าไปเรียน หลังเลิกเรียนจนเข้านอนค่ะ
เราเข้าใจนะคะ สำหรับพี่ๆที่เข้ามาแนะนำ แต่เราก็มาถามตัวเองบ่อยๆว่าเราใจแข็งมากพอจะทิ้งทุกอย่างแล้วมาอยู่กับลูก 2 คนได้ไหม
อีกใจก็อยากให้เขาได้อยู่กับยายเพราะเขาอยู่ด้วยกันมาตลอด จับแยกก็กลัวลูกจะเสียใจค่ะ เขาสนิทกับยายเขามาก สรุปตอนนี้เราใจแข็งไม่ได้มากขนาดนั้น แต่อาจจะเอาคำแนะนำมาปรับใช้ในเรื่องอื่นๆแทนค่ะ เหมือนหลายท่านแนะนำมาถ้าไม่ใจแข็งก็มีทางเดียวคือหาเงินเก่งๆแทน

เพิ่มเติมในส่วนของคำถามที่ว่าทำไมไม่เอาลูกมาเลี้ยงเอง เราทำงาน 2 ที่และ 3 งานค่ะ เช้า-เย็น ทำงานหลัก เย็น-ดึก ทำงานที่ 2
งานที่ 3 จะเป็นจ๊อปๆเข้ามาไม่แน่นอน ทำทุก จ-ส ค่ะ
ถ้าเอาลูกมาอยู่ด้วย จ้างเลี้ยงช่วงเลิกเรียน ค่ำๆเรากลับมาเลี้ยงเองแต่ก็ต้องทำงานที่ 2 ไปด้วย
เหมือนเอาเขามานั่งดูเราทำแต่งานกับงาน ซึ่งอาจจะต้องตัดงานที่ 2-3 ทิ้งไป ซึ่งไม่พอที่จะดูแลลูกแน่ๆค่ะ เลยคิดว่าถ้าอยู่ตรงนั้น ยังมีเพื่อนๆรุ่นเดียวกันข้างบ้าน มีครอบครัวใหญ่ ที่คอยอยู่กับเขาเล่นกับเขา และทางเราได้มีเวลาในการทำงานแบบเต็มที่
ในส่วนลูกนั้น เราอยากให้มันจบที่รุ่นเรานี่แหละค่ะ คนสมัยก่อนเขาหวังพึ่งลูกหลานเหมือนเขาถูกสอนมาแบบนั้นว่ามีลูกมีหลานก็ต้องดูแลพ่อแม่สิอะไรแบบนั้น เราก็หนึ่งในเจนที่ถูกปลูกฝั่งมาแบบนั้นเหมือนกันค่ะ แต่กับลูกเรา โนเวย์เลยค่ะ 555555 ไม่มีทางที่เขาจะมารับไม้ต่อเราอย่างแน่นอน เรามีแผนสำหรับตัวเองและลูกไว้บ้างแล้ว เราเก็บเงินของทั้ง 2 คนไว้ค่ะ ของเราตอนเราเกษียณ และของลูกจะมีเงินหลังจากเขาเรียนจบแล้วให้เขาไปสร้างเนื้อสร้างตัวตามทางของเขา
เราตั้งเป้าไว้ว่าแบบนั้น เรารู้ว่ามันทั้งเหนื่อยทั้งท้อขนาดไหนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่ เราจะไม่ให้เขามาเจออะไรแบบนี้อีกค่ะ เขาไม่ได้ขอเราเกิดมา เพราะฉะนั้นเขาไม่ควรมีหน้าที่หรือความรับผิดชอบอะไรในส่วนนี้ติดมาด้วย มันไม่แฟร์ค่ะ
เข้าใจบางคนนะคะที่ว่าทำให้ได้ก่อนเถอะค่อยพูด แต่ที่อยากบอกคือมายเซ็ตเราเป็นแบบนี้ และตั้งใจไว้แบบนี้ค่ะ นอกนั้นระหว่างทางเรามีหน้าที่ทำให้มันเป็นไปได้มากที่สุด
ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะคะ ครั้งแรกที่มาตั้งกระทู้ ยังไงถ้ามีอะไรผิดพลาดไปตรงไหนขออภัยมาณที่นี่ด้วยนะคะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
“จ้างเขาเลี้ยงแล้วไปทำงาน คือมันทำแบบนั้นไม่ได้ เหตุผลหลักคือแม่เรารักลูกเราที่สุดแล้วและเลี้ยงดีกว่าคนอื่นๆ“
คุณรู้ไหม แม่คุณกำลังเอาลูกคุณเป็นตัวประกันในการขอเงิน เพื่อใช้จ่ายของตัวเองและใครไม่รู้อีก 2 คน
อยากหลุดแค่ใจแข็งเอาลูกมาส่งเนิส ส่งเงินให้แม่น้อยลง เขาจะไถคุณไม่ได้อีกต่อไป จะทำอะไรมองหน้าลูกไว้ เงินทองเก็บให้ลูกบ้าง ไม่ใช่เอาไปให้คนอื่นไถหมด
ถ้าคุณไม่ใจแข็ง ก็ปิดโทรศัพท์ ไปนอน หาเงินต่อไป
จบ
คุณรู้ไหม แม่คุณกำลังเอาลูกคุณเป็นตัวประกันในการขอเงิน เพื่อใช้จ่ายของตัวเองและใครไม่รู้อีก 2 คน
อยากหลุดแค่ใจแข็งเอาลูกมาส่งเนิส ส่งเงินให้แม่น้อยลง เขาจะไถคุณไม่ได้อีกต่อไป จะทำอะไรมองหน้าลูกไว้ เงินทองเก็บให้ลูกบ้าง ไม่ใช่เอาไปให้คนอื่นไถหมด
ถ้าคุณไม่ใจแข็ง ก็ปิดโทรศัพท์ ไปนอน หาเงินต่อไป
จบ
ความคิดเห็นที่ 22
คุณดูแลครอบครัวผิดวิธี คุณว่าคุณเหนื่อยแล้วใช่ไหม
แต่มันยังไม่ถึงที่สุดหรอก รอแม่คุณแก่กว่านี้
รายจ่ายลูกคุณเยอะกว่านี้ รอให้ที่บ้านมีเรื่องฉุกเฉิน คุณจะล้มทั้งยืน
พอคุณอายุเยอะ คุณไม่มีเงินเก็บ แต่รายจ่ายประจำมาจ่อรอ
ถึงตอนนั้นให้นึกย้อนกลับมานะคะ วันที่ยังพอจะจัดการอะไรได้ คุณเลือกจะแบกแบบนี้เอง
เรื่องลูกคุณคิดว่าแม่เลี้ยงได้ดีแล้วให้แม่เลี้ยง อันนั้นแล้วแต่คุณตัดสินใจ
บ้านเรามีคนพร้อมเลี้ยง ยังส่งหลานไปเรียนแต่เนิ่นๆ หลานปรับตัวได้ ท่องจำพื้นฐานได้ กิจกรรมประจำวันเป็นเวลาร่ำเวลา ได้ปฏฺิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งถ้ามาเทียบกันแล้ว คุณคิดว่าแม่ดีกว่าก็ตามสบายค่ะ
แต่มันยังไม่ถึงที่สุดหรอก รอแม่คุณแก่กว่านี้
รายจ่ายลูกคุณเยอะกว่านี้ รอให้ที่บ้านมีเรื่องฉุกเฉิน คุณจะล้มทั้งยืน
พอคุณอายุเยอะ คุณไม่มีเงินเก็บ แต่รายจ่ายประจำมาจ่อรอ
ถึงตอนนั้นให้นึกย้อนกลับมานะคะ วันที่ยังพอจะจัดการอะไรได้ คุณเลือกจะแบกแบบนี้เอง
เรื่องลูกคุณคิดว่าแม่เลี้ยงได้ดีแล้วให้แม่เลี้ยง อันนั้นแล้วแต่คุณตัดสินใจ
บ้านเรามีคนพร้อมเลี้ยง ยังส่งหลานไปเรียนแต่เนิ่นๆ หลานปรับตัวได้ ท่องจำพื้นฐานได้ กิจกรรมประจำวันเป็นเวลาร่ำเวลา ได้ปฏฺิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งถ้ามาเทียบกันแล้ว คุณคิดว่าแม่ดีกว่าก็ตามสบายค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ทำงานหนักเพื่อเอามาแบกคนทั้งบ้าน