JJNY : อิสราเอลถล่มเพิ่ม 600 จุด│ยันสหรัฐฯ ไม่มีแผนส่งทหาร│‘กลาโหม’น้อมรับข้อเสนอ กมธ.มั่นคง│จับตาสินค้าขึ้นตามน้ำตาล

สงครามเดือด! อิสราเอลถล่มเพิ่ม 600 จุดในกาซา สั่งอนามัยโลกอพยพผู้ป่วย 10 โรงพยาบาล.
https://www.dailynews.co.th/news/2852585/

กองทัพอิสราเอลโจมตีเป้าหมายมากกว่า 600 แห่ง ในฉนวนกาซา และสั่งให้องค์การอนามัยโลกอพยพผู้ป่วย พร้อมทั้งผู้ลี้ภัย ออกจากโรงพยาบาล 10 แห่ง
 
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ ทำลายเป้าหมายมากกว่า 600 แห่งในฉนวนกาซา ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคลังแสงอาวุธ อุโมงค์ใต้ดิน และฐานซ่องสุม

ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลยืนยัน การโจมตีทางอากาศ สามารถสังหารสมาชิกกลุ่มฮามาสมากกว่า 20 ราย และย้ำเตือนว่า ประชาชนในภาคเหนือของฉนวนกาซาที่ยังคงไม่อพยพ ขอให้เคลื่อนย้ายลงสู่ภาคใต้ “อย่างเร่งด่วนที่สุด” โดยยืนยันว่า มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแล้ว รวมถึงการกลับมาส่งน้ำผ่านท่อ 2 จาก 3 แห่ง เข้าสู่ภาคใต้ของฉนวนกาซา

ประชาชนยังคงหลบภัย อยู่ภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ในเมืองกาซาซิตี ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา

ด้านกลุ่มฮามาสรายงานว่า สถานการณ์สู้รบยังคงรุนแรงที่สุด ในเขตทางเหนือและบางส่วนทางตอนกลางของฉนวนกาซา เนื่องจากกองทัพอิสราเอลเสริมกำลังทหารอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า ไม่ได้ใช้โรงพยาบาลแห่งใดในฉนวนกาซา “เป็นฐานบัญชาการ” พร้อมทั้งประณามอิสราเอล ใช้เรื่องนี้ “เป็นข้ออ้าง” เพื่อทำลายระบบสาธารณสุขของฉนวนกาซา

ทั้งนี้ สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แสดงความวิตกกังวลอย่างมาก ต่อการที่อิสราเอลสั่งให้มีการอพยพผู้ป่วย และผู้ลี้ภัย ออกจากโรงพยาบาลอย่างน้อย 10 แห่ง ในภาคเหนือของฉนวนกาซา และโรงพยาบาลอัล-คุดส์ ที่อยู่ทางตอนกลาง ซึ่งเท่ากับเป็นการต้องอพยพมากกว่า 117,000 คน โดยกองทัพอิสราเอลระดมทิ้งระเบิดโจมตีรอบโรงพยาบาลอย่างหนัก และมีการโจมตีพื้นที่ทางใต้เป็นระยะด้วย

อนึ่ง กองทัพอิสราเอลเชื่อมั่นว่า ภาคเหนือของฉนวนกาซาคือ “กองบัญชาการหลัก” ของกลุ่มฮามาส ซึ่งมีเครือข่ายอุโมงค์อยู่ใต้โรงพยาบาลอัล-ชีฟา โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของฉนวนกาซา ที่อยู่ในเมืองกาซาซิตีด้วย ซึ่งกลุ่มฮามาสยังคงปฏิเสธ
 
https://twitter.com/IDFSpokesperson/status/1718865719142555792
 


“แฮร์ริส” ยืนยัน สหรัฐฯ ไม่มีแผนส่งกำลังทหารไปอิสราเอล-ฉนวนกาซา
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209163

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารหรือกองกำลังรบอเมริกันไปยังอิสราเอลหรือฉนวนกาซา
 
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะส่งกองทหารอเมริกันไปยังอิสราเอลหรือฉนวนกาซา  ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าความขัดแย้งในภูมิภาคจะขยายวงกว้างขึ้น

เราไม่มีความตั้งใจนั้นอย่างแน่นอน และไม่มีแผนที่จะส่งกองกำลังรบไปยังอิสราเอลหรือฉนวนกาซา” แฮร์ริสกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ “60 Minutes” ของ CBS

เธอเสริมว่า ท่าทีของสหรัฐฯ ต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาสนั้นจะยังคงยึดแนวทางของฝ่ายบริหารเป็นหลัก นั่นคือ สนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตัวเอง และเรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเรือน

จากการประมาณการส่วนใหญ่ มีชาวอิสราเอลอย่างน้อย 1,400 คนเสียชีวิต อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองโดยไม่มีคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น” เธอกล่าว
แฮร์ริสเสริมว่า “ถึงอย่างนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องไม่มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสกับชาวปาเลสไตน์ ชาวปาเลสไตน์สมควรได้รับมาตรการที่เท่าเทียมกันในเรื่องความปลอดภัย ความมั่นคง การตัดสินใจในตนเอง และศักดิ์ศรี และเราชัดเจนมากว่า ต้องปฏิบัติตามกฎสงคราม และเปิดโอกาสให้มีความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่คล่องตัว
 
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องให้เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้สนทนากับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี เกี่ยวกับความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในฉนวนกาซา และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องชีวิตพลเรือน
 
ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาสจะขยายวงกว้างออกไป แฮร์ริสจึงได้ย้ำคำเตือนของไบเดนที่มีต่ออิหร่านว่า อย่าเข้าไปเกี่ยวข้อง
 
’อย่า’ แค่คำเดียว ค่อนข้างตรงไปตรงมาแล้ว” เธอบอก
 
เรียบเรียงจาก CNN


 
‘กลาโหม’ น้อมรับข้อเสนอ กมธ.มั่นคง ‘โรม’ หยอด เชื่อมือพี่สุทิน เคลียร์เรือดำน้ำ-IO-เกณฑ์ทหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4258263

ชื่นมื่น! บรรยากาศหารือกลาโหม-กมธ.ความมั่นคง ‘รมว.กลาโหม’ น้อมรับข้อเสนอไปปฏิบัติ ย้ำกวดขันเรื่องไอโอ ด้าน ‘โรม’ หยอดคำหวาน เชื่อมือ ‘พี่สุทิน’ จัดการ IO-เลิกเกณฑ์ทหาร-ยกเลิกกฎหมายพิเศษ 3 จชต.ปี’70
 
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 30 ตุลาคม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง แห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวร่วมกันภายหลังหารืองานด้านความมั่นคง

นายสุทินกล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ กมธ.ความมั่นคง สภาผู้แทนราษฎร ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล วันนี้มีผู้แทนของเหล่าทัพมาด้วย โดยการพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ซึ่งทาง กมธ.ได้มาสอบถามภารกิจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่มีผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปหลายประเด็น รวมถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดย กมธ.ความมั่นคงให้ข้อเสนอแนะว่ากระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพควรจะปรับอะไร ซึ่งเราก็รับได้และถือว่าเป็นประโยชน์ และจะหาแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
 
ด้านนายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องขอบคุณ รมว.กลาโหม ซึ่งเราได้ประโยชน์และมีหลายคำถาม ทั้งเรื่องที่ดินของกองทัพและได้รับคำอธิบายที่ดี รมว.กลาโหมก็ให้ทิศทางที่ชัดเจน สุดท้ายก็ต้องไปใช้วันแมพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่มาก่อนจะได้เอกสารสิทธิ์ที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่มาก่อนก็ได้สิทธิการเช่าที่เป็นช่องทางในการทำมาหากิน ก็เห็นทิศทางที่ดี
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ส่วน ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีความคิดเห็นในเรื่องของการใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งเราก็เข้าใจมากขึ้น กองทัพอาจมีความรู้สึกว่ายังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษอยู่ แต่อย่างน้อยคำสัญญาในปี 2570 ในทุกๆ อำเภอต้องยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษถือเป็นเรื่องที่เรารอคอย
ส่วน ปฏิบัติการไอโอ นั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า กองทัพก็ให้คำสัญญา โดยนายสุทินได้พูดเองว่าจะกวดขัน จะไม่ให้มีปฏิบัติการไอโอ ตนคิดว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก
 
ผมได้ฝากเรื่องไอโอไว้เป็นพิเศษ ที่ไม่อยากให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่ง กมธ.ของเราหลายคนที่มีประสบการณ์ของไอโอ เราก็พยายามจะอธิบายว่ามีผลกระทบอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายการแก้ปัญหาจริงๆ แล้วจะได้ประมาณไหน ทางคณะกรรมาธิการเราก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่ก็ให้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นว่าจะต้องใช้ระยะเวลาโดยทันทีหรือไม่ ด้วยบรรยากาศคงไม่ขนาดนั้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง เราก็คงไปติดตามในการทำงาน” นายรังสิมันต์กล่าว
 
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ไม่อยากจะพูดว่าการทำไอโอหนักขึ้นหรือเบาลง เพียงแต่ว่าเราเห็นการหยิบยกการพรีเซนต์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงมาว่าไม่ได้ด้อยค่าใคร ซึ่งเราก็คาดหวังว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจะเป็นในลักษณะการประชาสัมพันธ์เราเข้าใจ แต่ถ้าเป็นในลักษณะที่เป็นไอโอดำหรือไอโอเทา คือเป็นการด้อยค่าสร้างมลทินให้กับศัตรูทางการเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้ เราก็เลยฝากกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยท่านสุทินก็รับปากกับเราว่าจะคุยกันในเรื่องนี้
 
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ส่วน ปัญหาเรือดำน้ำ ยังอยู่ในกระบวนการและมีข้อแลกเปลี่ยน และตนเข้าใจว่าทางกองทัพเข้าใจความกังวลใจของสังคมต่อเรื่องนี้ และวันนี้เราเห็นทิศทางที่ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา ซึ่งตนในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงได้เสนอว่าภาคส่วนสังคมเข้าใจสุดท้ายในเรื่องของเรือดำน้ำ หากไม่ได้เครื่องยนต์ของเยอรมันเราก็อาจใช้รูปแบบหาอาวุธประเภทอื่นที่ไม่เกินกรอบวงเงินทดแทน
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมยังยืนยันถึงความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความจำเป็นที่จะต้องมีในอนาคต ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้เพื่อให้ กมธ.ความมั่นคงได้เข้าใจมากขึ้น
 
ผมยอมรับอีกว่าเรื่องเรือดำน้ำที่ได้มาพูดคุยดังกล่าวนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เราก็ได้เสนอแนะไปแล้ว โดยทางนายสุทินกล่าวว่าจะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นยังอยู่ในกระบวนการเจรจา” นาย รังสิมันต์กล่าว
 
นายรังสิมันต์ระบุว่า สำหรับ การเกณฑ์ทหาร ได้เห็นทิศทางเชิงบวกว่ากองทัพต้องการที่จะลดจำนวนทหารเกณฑ์ ซึ่งในอนาคตเราคาดหวังว่าจะไม่มีการเกณฑ์ทหารอีกต่อไป แต่ความท้าทายสำคัญคือเรื่องความยั่งยืน ซึ่งต้องฝาก รมว.กลาโหม
 
ผมเชื่อว่าพี่สุทินทำได้แน่นอน ซึ่งเราน่าจะมีความใกล้ชิดกันในเรื่องของทิศทางความมั่นคง ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น ป่า ปัญหาเสียงดังของการซ้อมยิงของทหารเรือก็ฝากไว้กับพี่สุทินและกองทัพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป โดยภาพรวมทั้งหมดเราได้รับเกียรติจากกระทรวงกลาโหม โดยพี่สุทินเชิญผู้บริหารของเหล่าทัพต่างๆ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราได้มีการพูดคุยกันต่อไปและในอนาคตข้างหน้าปัญหาชายแดนการค้ามนุษย์ต่างๆ ต้องหวังว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นจะนำไปสู่การสร้างช่องทางการสื่อสารรวดเร็วเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ประชาชน
 
“ผมต้องขออนุญาตใช้บริการกองทัพโทรหารวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไปแน่นอน เพราะผมมีเบอร์โทรส่วนตัวของพี่สุทินอยู่แล้ว” นายรังสิมันต์กล่าว
 
ขณะที่นายสุทินย้ำว่า ได้สั่งให้รวบรวมเบอร์ของผู้แทนเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่างๆ ให้กับ กมธ.ความมั่นคง เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการประสานงาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่