เป็นอุทาหรณ์สำหรับหลายๆคนที่กำลังเลือกหาบริษัทย้ายบ้านนะคะ
จขกท ต้องการขนย้ายฟูกที่นอน 5ฟุต และกล่องไปรษณีย์ ประมาณ12กล่อง จากคอนโดนึง ไปอีกคอนโดนึง และต้องการแรพห่อที่นอนป้องกันเปื้อนด้วย ติดต่อสอบถามราคาไปสองสามร้าน เลือกร้านนี้ราคาถูกสุด ร้านนี้เรทราคาแรพจะแพงกว่าไม่แรพ 500 เราก็โอเค จ่ายมัดจำเรียบร้อย (เป็นบทเรียนเลย ไม่ควรเลือกร้านราคาถูกสุดเสมอไป)
วันขนย้าย จขกทก็วุ่นวายจัดการข้าวของหลายอย่าง ได้แค่คอยสอดส่องเป็นระยะ เห็นพนักงานเริ่มยกทีนอนขึ้นมาและหยิบแรพมาพันแล้ว ก็คิดว่าน่าจะโอเค จากนั้นพนักงานก็ยกที่นอนออกไปจากห้อง แฟนจขกท รอรับที่นอนอยู่ด้านล่างโทรมาถามว่า ทำไมพนักงานไม่ขนที่นอนลงลิฟต์มาซักที จขกทก็แปลกใจเพราะออกห้องไปซักพักแล้ว เดินไปดูหน้าลิฟต์ สภาพคิอ พันแรพที่นอนแค่ครึ่งเดียว แล้วเอาด้านที่ไม่ได้แรพลงพื้น พอถามพนักงานว่าทำไมแรพแค่ครึ่งเดียว ก็บอกว่าแรพหมด แรพได้แค่นี้ แล้วหัวหน้าก็ไม่ได้แจ้งด้วย (OMG T_T ) และภาพคือพนักงานกำลังพยายามเอาด้านยาวเข้าลิฟต์ จขกทเลยบอกให้ตั้งเป็นแนวตั้งถึงจะเข้าลิฟต์ได้ พอมองลงไปที่ที่นอนบริเวณที่ไม่ได้โดนแรพเห็นพนักงานเหยียบโดนมุมที่นอน(ใส่รองเท้าอยู่ด้วย) ที่นอนเป็นรอยดำ ตอนนั้น ชาไปหมด ตรงนี้ยอมรับเป็นบทเรียนของจขกทเองสุดๆเลย ไว้ใจเกินไปและไม่ได้เฝ้าพนักงานทำงานด้วยตัวเอง ทุกคนต้องเฝ้านะคะ และห้ามทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เรามีหน้าที่เดียวเลยคือติดตามและถ่ายวีดีโอทุกขั้นตอนซะ!!
ระหว่างที่พนักงานขนของขึ้นรถ จขกท ติดต่อร้านกลับไปทางไลน์บอกว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ร้านบอกว่า "ลูกค้าไม่ได้แจ้งรถหรอครับ" โอ้โห!! อะไรกันเนี่ย ทางร้านต้องบอกรายละเอียดงานให้พนักงานตัวเองมาก่อนไม่ใช่หรอ?? ซักแปปนึงก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาถามเหตุการณ์ว่าอะไรยังไง ต้องการให้ชดใช้ยังไงบ้าง ตอนนั้นใจมันปิ้วไปแล้วอ่ะ คิดเร็วๆ ว่าที่นอนมันสกปรกขนาดนี้ไปแล้ว เราจะให้ร้านรับผิดชอบโดยเอาที่นอนนี้ไป แล้วจ่ายราคาที่นอนตามจริงเรามา ยังมีใบเสร็จอยู่แสดงราคาจริงให้ได้ แต่คนในสายนั้นบอกว่าไม่ได้ ..อ่ะก็โอเค ตรงนี้เราก็เข้าใจได้ว่ามันมากเกินไป แต่ที่พีคคือประโยคที่คนในสายพูดว่า "จริงๆที่นอนมันอาจจะเปื้อนมาก่อนแล้วรึป่าวก็ไม่รู้" โอ้โหครั้งที่2 รู้สึกเหมือนโดนเขกหัวอย่างแรง ผิดเองอีกดอกที่ไม่ได้ถ่ายรูปก่อนขนย้ายไว้เอง **ทุกคนต้องถ่ายรูป Before ไว้ด้วยนะคะ** (คือที่นอนนี้ตอนซื้อมาก็มาส่งถึงห้องและunwrap ที่เตียงเลย ไม่เคยขนย้าย ปูผ้าปูที่นอนตลอดเวลา มันไม่เคยมีรอบดำปื้ดนี้มาก่อน!!!!) และร้านแจ้งว่าชดใช้ให้ได้ 500บาทเท่านั้น แต่จขกทไม่ต้องการ 500 เราอยากจ้างบริษัททำความสะอาดที่นอนมาทำความสะอาด แล้วจะเอาบิลไปเบิกตามจริง แต่ในสายโทรศัพท์นั้นบอกกลับมาว่า "ชดใช้ได้แค่500 ปกติน้ำยาถูกๆก็มี ราคาประมาณ500นี่แหละ หรือจะให้ทำความสะอาดให้เลยก็ได้" จขกทไม่ต้องการให้ร้านนี้ทำอะไรให้แล้ว กลัวว่าจะยิ่งแย่กว่าเดิม จขกท เลยขอวางสายก่อน ขอคิดก่อนว่าให้รับผิดชอบยังไงดี
ระหว่างทางที่พนักงานขนย้ายกำลังขับรถขนย้ายของไปที่ปลายทาง จขกทโทรบอกพนักงานให้ไปซื้อแรพมาพันแรพให้เสร็จก่อนจะเอาเข้าห้องคอนโดที่ปลายทาง เพราะลิฟต์ขนของที่คอนโดปลายทางมันเป็นลิฟต์ขนขยะด้วย เลอะกว่าตอนต้นทางแน่ๆ จขกท มาถึงปลายทางก่อน ก็นั่งเสิชดูหาราคาบริษัททำความสะอาดที่นอน ราคาเริ่มต้นแต่ละร้านประมาณ 1,000-2,000บาท เลยแคปหน้าจอ ส่งไปในไลน์ร้าน ว่าขอ1,000บาทที่ราคาทำความสะอาดเริ่มต้นตามท้องตลาด จขกทจะหาบริษัททำความสะอาดเอง ไลน์ร้านตอบกลับมาว่าให้คุยกับคนรถ (โยนอีกละ)
พอพนักงานขนของมาถึงคอนโดปลายทาง ที่นอนถูกแรพทั้งที่นอนเรียบร้อยแล้ว (ไม่รุแวะพันแรพที่ไหน แล้วก็แรพมาชั้นเดียวนะ ไม่ได้พันหลายรอบ) จขกท มองหาส่วนที่เปื้อน พนักงานบอกว่าซื้อน้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้แล้ว ห๊ะ!!?? เช็ดน้ำยาอะไรไปคะ!!??? มองหารอยดำที่มุมหนึ่งจางไปเยอะ และจากที่คุยไลน์กับร้านเอาไว้ว่าให้คุยกับคนรถ จขกทเลยบอกพนักงานขนของไปว่าต้องการ 1,000บาท พนักงานก็งงว่าให้มาคุยกับเค้าหรอ เค้าเลยโทรศัพท์ไปหาใครซักคนบอกว่าลูกค้าต้องการให้ชดใช้ 1,000 บาท ซักพักสายเข้าจขกท เป็นเสียงคนเดิมที่โทรมาก่อนหน้านี้ โมโหมาเลย บอกว่า พนักงานโทรมาบอกว่าลูกค้าจะเอาอะไรตั้งพันนึง จขกทก็งงว่าโมโหทำไม ก็เราบอกในไลน์ไปแล้วหนิเหตุผลของ 1,000 บาทนั้น คุณบอกว่าให้ไปคุยกับคนรถเองนี่ เสียงในสายก็บอกว่าผมนี่แหละ คนรถ เจ้าของรถ!! คนในไลน์อ่ะน้องผม (งงไปอีกดอก หลายทอดเกิน) แล้วคนในสายก็บอกพันนึงมันเกินไป พนักงานก็เช็ดออกให้แล้ว ซึ่งเองก็จขกทเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากต่อกรอะไรอีก ก็เลยยอมที่ 500
พอขนของมาที่ห้องปลายทางเสร็จ กังวลว่าเค้าเอาอะไรมาเช็ดนะ แล้วจะแห้งรึยัง พันแรพแล้วไม่มีอากาศระบาย ราจะขึ้นรึป่าว (เพราะที่นอนนี้ ต้องรอเข้าบ้านใหม่เดือนหน้าถึงจะย้ายเข้าได้ ซึ่งตอนนี้ต้องออกจากคอนโดเดิมแล้ว เลยเอามาฝากคอนโดแฟนไว้ก่อน) พอแกะแรพออก จับดู ชื้นจริงด้วย ชื้นแบบชื้นมาก ตะแคงอีกด้านนึงดู โอ้โห!!! ความจริงถูกซ่อนอยู่ตรงนี้ ดำเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อเปรียบเทียบรูปที่ถ่ายตอนเกิดเหตุการณ์ที่ต้นทาง
สรุป
ร้านนี้ไปจ้างบริษัทของพนักงานขนย้ายมาอีกทอด โดยผ่าน "คนรถ(เจ้าของรถ) เป็นคนกลาง" งงไปเลยย ซับซ้อนเกิ๊น น้องพนักงานขนย้ายบอกผมไม่ได้อะไรเลย ค่าน้ำมันก็ออกเอง แรพก็ออกเอง เราก็งง อ้าว ร้านมาเก็บเงินลูกค้าเพิ่ม แต่เงินที่เพิ่มไปไม่ถึงคนที่ซื้อแรพ!! พีคทุกสเตปจริงๆ
ข้อควรระวัง!!!
- อย่าเลือกร้านที่ราคาถูกสุด
- ถามหาประกันก่อนเลยตอนถามราคา
- ดูแลกำกับพนักงานด้วยตัวเองตลอดเวลา หากเป็นไปได้ให้ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย
- ที่สำคัญมากๆคือ ถ่ายรูป Before ให้ละเอียดค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะได้สู้ได้
สภาพวันนี้หลังแกะแรพดู
ส่วนรูปนี้ถ่ายไว้นานแล้ว การวางที่นอนไว้ในห้องของจขกทปกติ คือเอาแค่พื้นห้องยังไม่ดำเท่าที่นอนโดนวันนี้เลย จะเป็นรอยมาก่อนแล้วยังไงก่อนคะ?? T_T
เตือนภัย บริษัทขนย้าย ย้ายบ้านย้ายคอนโด
จขกท ต้องการขนย้ายฟูกที่นอน 5ฟุต และกล่องไปรษณีย์ ประมาณ12กล่อง จากคอนโดนึง ไปอีกคอนโดนึง และต้องการแรพห่อที่นอนป้องกันเปื้อนด้วย ติดต่อสอบถามราคาไปสองสามร้าน เลือกร้านนี้ราคาถูกสุด ร้านนี้เรทราคาแรพจะแพงกว่าไม่แรพ 500 เราก็โอเค จ่ายมัดจำเรียบร้อย (เป็นบทเรียนเลย ไม่ควรเลือกร้านราคาถูกสุดเสมอไป)
วันขนย้าย จขกทก็วุ่นวายจัดการข้าวของหลายอย่าง ได้แค่คอยสอดส่องเป็นระยะ เห็นพนักงานเริ่มยกทีนอนขึ้นมาและหยิบแรพมาพันแล้ว ก็คิดว่าน่าจะโอเค จากนั้นพนักงานก็ยกที่นอนออกไปจากห้อง แฟนจขกท รอรับที่นอนอยู่ด้านล่างโทรมาถามว่า ทำไมพนักงานไม่ขนที่นอนลงลิฟต์มาซักที จขกทก็แปลกใจเพราะออกห้องไปซักพักแล้ว เดินไปดูหน้าลิฟต์ สภาพคิอ พันแรพที่นอนแค่ครึ่งเดียว แล้วเอาด้านที่ไม่ได้แรพลงพื้น พอถามพนักงานว่าทำไมแรพแค่ครึ่งเดียว ก็บอกว่าแรพหมด แรพได้แค่นี้ แล้วหัวหน้าก็ไม่ได้แจ้งด้วย (OMG T_T ) และภาพคือพนักงานกำลังพยายามเอาด้านยาวเข้าลิฟต์ จขกทเลยบอกให้ตั้งเป็นแนวตั้งถึงจะเข้าลิฟต์ได้ พอมองลงไปที่ที่นอนบริเวณที่ไม่ได้โดนแรพเห็นพนักงานเหยียบโดนมุมที่นอน(ใส่รองเท้าอยู่ด้วย) ที่นอนเป็นรอยดำ ตอนนั้น ชาไปหมด ตรงนี้ยอมรับเป็นบทเรียนของจขกทเองสุดๆเลย ไว้ใจเกินไปและไม่ได้เฝ้าพนักงานทำงานด้วยตัวเอง ทุกคนต้องเฝ้านะคะ และห้ามทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เรามีหน้าที่เดียวเลยคือติดตามและถ่ายวีดีโอทุกขั้นตอนซะ!!
ระหว่างที่พนักงานขนของขึ้นรถ จขกท ติดต่อร้านกลับไปทางไลน์บอกว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ร้านบอกว่า "ลูกค้าไม่ได้แจ้งรถหรอครับ" โอ้โห!! อะไรกันเนี่ย ทางร้านต้องบอกรายละเอียดงานให้พนักงานตัวเองมาก่อนไม่ใช่หรอ?? ซักแปปนึงก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาถามเหตุการณ์ว่าอะไรยังไง ต้องการให้ชดใช้ยังไงบ้าง ตอนนั้นใจมันปิ้วไปแล้วอ่ะ คิดเร็วๆ ว่าที่นอนมันสกปรกขนาดนี้ไปแล้ว เราจะให้ร้านรับผิดชอบโดยเอาที่นอนนี้ไป แล้วจ่ายราคาที่นอนตามจริงเรามา ยังมีใบเสร็จอยู่แสดงราคาจริงให้ได้ แต่คนในสายนั้นบอกว่าไม่ได้ ..อ่ะก็โอเค ตรงนี้เราก็เข้าใจได้ว่ามันมากเกินไป แต่ที่พีคคือประโยคที่คนในสายพูดว่า "จริงๆที่นอนมันอาจจะเปื้อนมาก่อนแล้วรึป่าวก็ไม่รู้" โอ้โหครั้งที่2 รู้สึกเหมือนโดนเขกหัวอย่างแรง ผิดเองอีกดอกที่ไม่ได้ถ่ายรูปก่อนขนย้ายไว้เอง **ทุกคนต้องถ่ายรูป Before ไว้ด้วยนะคะ** (คือที่นอนนี้ตอนซื้อมาก็มาส่งถึงห้องและunwrap ที่เตียงเลย ไม่เคยขนย้าย ปูผ้าปูที่นอนตลอดเวลา มันไม่เคยมีรอบดำปื้ดนี้มาก่อน!!!!) และร้านแจ้งว่าชดใช้ให้ได้ 500บาทเท่านั้น แต่จขกทไม่ต้องการ 500 เราอยากจ้างบริษัททำความสะอาดที่นอนมาทำความสะอาด แล้วจะเอาบิลไปเบิกตามจริง แต่ในสายโทรศัพท์นั้นบอกกลับมาว่า "ชดใช้ได้แค่500 ปกติน้ำยาถูกๆก็มี ราคาประมาณ500นี่แหละ หรือจะให้ทำความสะอาดให้เลยก็ได้" จขกทไม่ต้องการให้ร้านนี้ทำอะไรให้แล้ว กลัวว่าจะยิ่งแย่กว่าเดิม จขกท เลยขอวางสายก่อน ขอคิดก่อนว่าให้รับผิดชอบยังไงดี
ระหว่างทางที่พนักงานขนย้ายกำลังขับรถขนย้ายของไปที่ปลายทาง จขกทโทรบอกพนักงานให้ไปซื้อแรพมาพันแรพให้เสร็จก่อนจะเอาเข้าห้องคอนโดที่ปลายทาง เพราะลิฟต์ขนของที่คอนโดปลายทางมันเป็นลิฟต์ขนขยะด้วย เลอะกว่าตอนต้นทางแน่ๆ จขกท มาถึงปลายทางก่อน ก็นั่งเสิชดูหาราคาบริษัททำความสะอาดที่นอน ราคาเริ่มต้นแต่ละร้านประมาณ 1,000-2,000บาท เลยแคปหน้าจอ ส่งไปในไลน์ร้าน ว่าขอ1,000บาทที่ราคาทำความสะอาดเริ่มต้นตามท้องตลาด จขกทจะหาบริษัททำความสะอาดเอง ไลน์ร้านตอบกลับมาว่าให้คุยกับคนรถ (โยนอีกละ)
พอพนักงานขนของมาถึงคอนโดปลายทาง ที่นอนถูกแรพทั้งที่นอนเรียบร้อยแล้ว (ไม่รุแวะพันแรพที่ไหน แล้วก็แรพมาชั้นเดียวนะ ไม่ได้พันหลายรอบ) จขกท มองหาส่วนที่เปื้อน พนักงานบอกว่าซื้อน้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้แล้ว ห๊ะ!!?? เช็ดน้ำยาอะไรไปคะ!!??? มองหารอยดำที่มุมหนึ่งจางไปเยอะ และจากที่คุยไลน์กับร้านเอาไว้ว่าให้คุยกับคนรถ จขกทเลยบอกพนักงานขนของไปว่าต้องการ 1,000บาท พนักงานก็งงว่าให้มาคุยกับเค้าหรอ เค้าเลยโทรศัพท์ไปหาใครซักคนบอกว่าลูกค้าต้องการให้ชดใช้ 1,000 บาท ซักพักสายเข้าจขกท เป็นเสียงคนเดิมที่โทรมาก่อนหน้านี้ โมโหมาเลย บอกว่า พนักงานโทรมาบอกว่าลูกค้าจะเอาอะไรตั้งพันนึง จขกทก็งงว่าโมโหทำไม ก็เราบอกในไลน์ไปแล้วหนิเหตุผลของ 1,000 บาทนั้น คุณบอกว่าให้ไปคุยกับคนรถเองนี่ เสียงในสายก็บอกว่าผมนี่แหละ คนรถ เจ้าของรถ!! คนในไลน์อ่ะน้องผม (งงไปอีกดอก หลายทอดเกิน) แล้วคนในสายก็บอกพันนึงมันเกินไป พนักงานก็เช็ดออกให้แล้ว ซึ่งเองก็จขกทเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากต่อกรอะไรอีก ก็เลยยอมที่ 500
พอขนของมาที่ห้องปลายทางเสร็จ กังวลว่าเค้าเอาอะไรมาเช็ดนะ แล้วจะแห้งรึยัง พันแรพแล้วไม่มีอากาศระบาย ราจะขึ้นรึป่าว (เพราะที่นอนนี้ ต้องรอเข้าบ้านใหม่เดือนหน้าถึงจะย้ายเข้าได้ ซึ่งตอนนี้ต้องออกจากคอนโดเดิมแล้ว เลยเอามาฝากคอนโดแฟนไว้ก่อน) พอแกะแรพออก จับดู ชื้นจริงด้วย ชื้นแบบชื้นมาก ตะแคงอีกด้านนึงดู โอ้โห!!! ความจริงถูกซ่อนอยู่ตรงนี้ ดำเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อเปรียบเทียบรูปที่ถ่ายตอนเกิดเหตุการณ์ที่ต้นทาง
สรุป
ร้านนี้ไปจ้างบริษัทของพนักงานขนย้ายมาอีกทอด โดยผ่าน "คนรถ(เจ้าของรถ) เป็นคนกลาง" งงไปเลยย ซับซ้อนเกิ๊น น้องพนักงานขนย้ายบอกผมไม่ได้อะไรเลย ค่าน้ำมันก็ออกเอง แรพก็ออกเอง เราก็งง อ้าว ร้านมาเก็บเงินลูกค้าเพิ่ม แต่เงินที่เพิ่มไปไม่ถึงคนที่ซื้อแรพ!! พีคทุกสเตปจริงๆ
ข้อควรระวัง!!!
- อย่าเลือกร้านที่ราคาถูกสุด
- ถามหาประกันก่อนเลยตอนถามราคา
- ดูแลกำกับพนักงานด้วยตัวเองตลอดเวลา หากเป็นไปได้ให้ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย
- ที่สำคัญมากๆคือ ถ่ายรูป Before ให้ละเอียดค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะได้สู้ได้
สภาพวันนี้หลังแกะแรพดู
ส่วนรูปนี้ถ่ายไว้นานแล้ว การวางที่นอนไว้ในห้องของจขกทปกติ คือเอาแค่พื้นห้องยังไม่ดำเท่าที่นอนโดนวันนี้เลย จะเป็นรอยมาก่อนแล้วยังไงก่อนคะ?? T_T