JJNY : บุกหนัก! สื่อสารถูกตัด│ยูเครนชี้รัสเซียสูญทหาร หลังบุกอัฟดีฟกา│สมัชชาคนจน ยันเดือดร้อนจริง│รพ.เอกชนหวั่นพิษสงคราม

บุกหนัก! อิสราเอลขยายปฏิบัติการโจมตีกาซา ระบบสื่อสารถูกตัดขาด ปาเลสไตน์ไม่รู้ชะตากรรม
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4255438
 
บุกหนัก! อิสราเอลขยายปฏิบัติการโจมตีกาซา ระบบสื่อสารถูกตัดขาด ปาเลสไตน์ไม่รู้ชะตากรรม
 
การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือดในฉนวนกาซาต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม ถึงเช้าวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม หลังจากกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ประกาศขยายปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาทั้งภาคพื้นดินและอากาศตั้งแต่คืนก่อน ขณะที่ระบบการติดต่อสื่อสารทั้งอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ถูกตัดขาดเนื่องจากการโจมตี ท่ามกลางการผลักดันของสหประชาชาติให้มีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมในทันที 
 
พันตรีนีร์ ดินาร์ โฆษกกองทัพอิสราเอล เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กองกำลังทหารของเรากำลังปฏิบัติการอยู่ในกาซาดั่งที่ปฏิบัติการเมื่อวาน
ก่อนหน้านั้นในคืนวันศุกร์ พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลอีกนาย แถลงว่า “หลังจากการโจมตีต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กองกำลังภาคพื้นดินกำลังขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในคืนนี้
 
ขณะที่กองพลอิซเซดีน อัล-กัสซัม ปีกติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ออกถ้อยแถลงว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับการบุกรุกรานภาคพื้นดินของอิสราเอลในเมืองเบท ฮานูน (ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา) และเมืองบูเรจ (ตอนกลาง) และการสู้รบรุนแรงกำลังเกิดขึ้นภาคพื้นดิน
 
ทั้งนี้ อิสราเอลได้สะสมกำลังทหารหลายหมื่นนายตามแนวชายแดนติดกับฉนวนกาซาภายใต้การคาดหมายว่าจะเกิดปฏิบัติการบุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ กองกำลังทหารอิสราเอลยังได้บุกโจมตีภาคพื้นดินในวงจำกัดในฉนวนกาซาช่วงคืนวันพุธและวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังระบุว่า ได้เพิ่มการโจมตีอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ในขณะที่กองพลอิซเซดีน อัล-กัสซัม โพสต์ทางเทเลแกรมว่า ได้ตอบโต้อิสราเอลด้วยการระดมยิงจรวด
 
เอเอฟพียังเผยแพร่คลิปเหตุการณ์โจมตีเมื่อคืนวันศุกร์ ที่แสดงให้เห็นแสงเพลิงสีส้มลุกวาบสว่างทั่วท้องฟ้ายามราตรีทางตอนเหนือของกาซาตามมาด้วยกลุ่มควันดำ หลังจากอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ฉนวนกาซา
 
กลุ่มฮามาสระบุว่า การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและระบบการติดต่อสื่อสารทั้งหมดทั่วฉนวนกาซาได้ถูกตัดขาด พร้อมกล่าวหาอิสราเอลว่าใช้มาตรการ “ก่อเหตุสังหารหมู่ด้วยการโจมตีตอบโต้นองเลือดจากทางอากาศ ทางบก และทางทะเล
 
ด้านสภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ โพสต์บน X ว่า เราขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิงกับทางห้องปฏิบัติการของเราในฉนวนกาซาและทีมงานของเราทั้งหมดที่ปฏิบัติงานอยู่ที่นั่น และการบริการรถพยาบาลของเราก็หยุดชะงัก
 
นางลินน์ แฮสติงส์ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติในดินแดนปาเลสไตน์ โพสต์ทาง X ด้วยว่า ฉนวนกาซาได้สูญเสียการติดต่อจากโลกภายนอก พร้อมเตือนว่าโรงพยาบาลและการปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้โดยปราศจากการติดต่อสื่อสาร
 
สัญญาณอินเตอร์เน็ตและระบบการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ที่ถูกตัดขาดดังกล่าว ทำให้ไม่รู้ชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาว่าเป็นอย่างไร
ด้านสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ได้เรียกร้องในวันเดียวกัน ให้มีการหยุดยิงชั่วคราวทางมนุษยธรรมในทันที เพื่อที่ความช่วยเหลือต่างๆ จะถูกลำเลียงเข้าไปในฉนวนกาซาได้
 
กระทรวงสาธารณสุขในกาซาแถลงในวันศุกร์เช่นกันว่า การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วกว่า 7,326 ราย ในจำนวนนี้มากกว่า 3,000 ราย เป็นเด็ก
 
ส่วนอิสราเอลรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลหลังจากถูกกองกำลังฮามาสบุกเข้ามาโจมตีอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม อยู่ที่กว่า 1,400 ราย และมีผู้ถูกจับไปเป็นตัวประกันมากกว่า 220 คน



ยูเครนชี้รัสเซียสูญทหารอย่างน้อยหนึ่งกองพล หลังบุกอัฟดีฟกา
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/209055

สงครามรัสเซีย-ยูเครน สมรภูมิรบล่าสุดถูกจับตามองไปที่เมืองอัฟดีฟกา ทางตะวันออกยูเครน โดยยูเครนชี้รัสเซียสูญทหารอย่างน้อยหนึ่งกองพล หลังบุกอัฟดีฟกา
 
สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครนดำเนินเข้าสู่วันที่ 611 แล้ว ขณะที่สมรภูมิรบล่าสุดถูกจับตามองไปที่เมืองอัฟดีฟกา ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกยูเครน ล่าสุดพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีการสู้รบอย่างดุเดือด 
 
โดยสำนักข่าว The Kyiv Independent  รายงานเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่า ผลพวงจากความพยายามของรัสเซียในการเข้ายึดครองเมืองอัฟดีฟกา (Avdiivka) ระหว่างเปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว พบรัสเซียได้สูญเสียทหารกองพลน้อยไปอย่างน้อยหนึ่งกองพล

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตามข้อมูลของแหล่งข่าวเปิดระบุว่า กองพลน้อยในกองทัพรัสเซียประกอบด้วยพลทหารระหว่าง 2,000 ถึง 8,000 นาย ซึ่งหมายความว่า จากการบุกโจมตีของรัสเซียในเมืองดังกล่าว อาจทำให้รัสเซียสูญเสียกำลังพลไปแล้วหลายพันคน สอดคล้องกับการแถลงการณ์โอเลกซานเดอร์ ชตูปุน โฆษกประจำกองบัญชาการกองทัพยูเครนภาคใต้ ที่ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองกำลังรัสเซียมีทหารบาดเจ็บล้อมตายมากกว่า 400 นายต่อวัน นับตั้งแต่เปิดฉากโจมตีในเมืองดังกล่าว
 
ทั้งนี้ประธานาธิบดีเซนเลนสกีเปิดเผยกับนายกรัฐมนตี ริชี ซูนัค ของอังกฤษด้วยว่า เวลานี้รัสเซียกำลังจะพยายามยึดครองภูมิภาคดอนบาสทั้งหมดต่อไป และหลายครั้งก็พยายามปิดล้อมเมืองอัฟดีฟกา แต่ว่าทหารยูเครนได้สกัด และผลักดันทหารรัสเซียออกไปได้
 
รัสเซียระดมโจมตีเมืองอัฟดีฟกาอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และมีรายงานว่านับวันรัสเซียได้ระดมกำลังพลจำนวนมากเพื่อปิดล้อมเมืองดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
 
นักวิเคราะห์มองว่า การปิดล้อม และเปิดแนวรบในเมืองอัฟดีฟกาของรัสเซียมีขึ้น เพราะรัสเซียต้องการยึดบริเวณที่สูงเพื่อใช้ในการโจมตีปั่นป่วนเส้นทางลำเลียงอาวุธของยูเครน
 
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการนี้ของรัสเซีย ทำให้ฝ่ายรัสเซียสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก และเกิดกระแสข่าวความออกมากว่า ทหารรัสเซียจำนวนหนึ่งเริ่มปฏิเสธที่จะโจมตีฐานที่มั่นของยูเครนบริเวณใกล้เมืองดังกล่าว
 
ขณะที่ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงสหรัฐฯได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า รัสเซียได้สังหารทหารของตนเองที่ปฏิเสธปฏิบัติตามคำสั่งของกองทัพรัสเซีย นอกจากนี้ยังแถลงด้วยว่า รัสเซียได้สูญเสียอย่างหนักจากปฏิบัติการโจมตีในเมืองอัฟดีฟกา
 
ส่วนเมื่อวานนี้การประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ในประเทศเบลเยียม ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเน้นย้ำถึงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครนได้สิ้นสุดลงแล้ว
 
โดยเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป  แถลงว่า ได้มีการเสนอให้ชาติสมาชิก 27 ประเทศ จัดสรรเงินทุนให้กับยูเครนเพิ่มเติมจนถึงปีงบประมาณ 2027  รวมถึงการขยายวงเงินความช่วยเหลือครั้งใหม่ให้กับยูเครนอีก 50,000 ล้านยูโร
 
นอกจากนี้กำลังดำเนินการตามข้อเสนอที่ว่ารวบรวมกำไรบางส่วนจากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกแช่แข็งไปช่วยเหลือยูเครน และบูรณะยูเครน หลังสงคราม 
 
อย่างไรก็ตามในนอกรอบการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป วิกตอร์ ออร์บาน (Viktor Orbán) นายกรัฐมนตรีของฮังการี ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2010 และมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับรัสเซีย ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน เนื่องจากตัวเขาเองไม่เห็นด้วยที่ฮังการีจะต้องส่งเงินของผู้เสียภาษีเพื่อไปสนับสนุนยูเครนในสงคราม
 
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีออร์บาน ระบุว่า กลยุทธ์ของสหภาพยุโรปในยูเครนนั้นล้มเหลว และอยากให้เตรียมแผนสองเอาไว้ เพราะยูเครนจะไม่มีวันชนะในสงครามครั้งนี้
 
วันนี้ใครๆก็ทราบ แต่ไม่กล้าออกมาพูดดังๆว่า กลยุทธ์นี้ล้มเหลว เห็นได้ชัดว่า วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ยูเครนจะไม่ได้รับชัยชนะในการรบแนวหน้า ผู้เชี่ยวชาญทางทหารทุกคนก็พูดแบบนี้ แต่มีแค่นักการเมืองที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน” นายกรัฐมนตรีออร์บานระบุ
 
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อปี 2020 สหภาพยุโรปได้มอบความช่วยเหลือให้กับยูเครนโดยรวมไปแล้วเกือบ 83,000 ล้านยูโร  ซึ่งนอกเหนือจากการส่งความช่วยเหลือด้านการเงิน และอาวุธยุโธปรณ์ให้กับยูเครนแล้ว สหภาพยุโรปยังบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอีกหลายรอบ
 


สมัชชาคนจน ประชิดทำเนียบ โวยคำสั่งห้ามชุมนุม ยันเดือดร้อนจริง ไม่ใช่ม็อบการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4255417

สมัชชาคนจน เคลื่อนประชิดทำเนียบ โวยคำสั่งห้ามชุมนุมผบช.น. ยันเดือดร้อนจริง ไม่ใช่ม็อบการเมือง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม ‘สมัชชาคนจน’ ซึ่งปักหลักบนถนนลูกหลวงเป็นวันที่ 20 เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ของผู้มีรายได้น้อย โดยที่ผ่านมาตัวแทนสมัชชาฯ ได้เข้าหารือกับตัวแทนของกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. กลุ่มสมัชชาคนจนเดินเท้าข้ามสะพานจากถนนลูกหลวงมายังถนนกรุงเกษม เพื่อรวมตัวตั้งขบวนก่อนมุ่งหน้าสู่ถนนราชดำเนินใน

นายไพฑูรย์ สร้อยสด ตัวแทนสมัชชาคนจน กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง ระบุถึงจุดประสงค์การเดินขบวนเพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สวดมนต์แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลแด่พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งลงนามในคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาล ลงวันที่ 25 ตุลาคม มีผลถึง 11 พฤศจิกายน
 
นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ในคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาทำกิจกรรมและพักค้างแรมที่บริเวณถนนลูกหลวง ฝั่งข้างกระทรวงศึกษาธิการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งยังมิได้มีการเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณดังกล่าว ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนน ซึ่งตนขอยืนยันถึงจึดประสงค์ที่มาชุมนุมว่า ไม่มีเจตนาชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด แต่มาเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาของคนยากจน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินเท้าถึงถนนราชดำเนินใน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ รุดตั้งแถวขนานกับรั้วเหล็กที่ตั้งขวางผิวจราจร เผชิญหน้ากลุ่มสมัชชาคนจน ผู้ชุมนุมตะโกนโห่ร้อง จากนั้น นายไพฑูรย์ประกาศให้นั่งลง ระหว่างนี้ มีการจุดธูป 1 กำ เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์
 
จากนั้น นายไพฑูรย์ อ่าน ‘แถลงการณ์สมัชชาคนจน ฉบับที่ 5’
 
ความตอนหนึ่ง ดังนี้ เนื่องจากประกาศ กองบัญชาตำรวจนครบาล ที่ 523/2566 เรื่อง “ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล” ฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ลงนามโดยพลตำรวจตรี ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
 
ในคำสั่งได้กล่าวหาสมัชชาคนจนว่า “เนื่องจากปัจจุบันผู้ชุมนุมที่มาทำกิจกรรมและมาพักค้างแรมที่บริเวณถนนลูกหลวงฝั่งข้างกระทรวงศึกษาธิการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งยังมิได้มีการเคลื่อนย้ายออกจกบริเวณดังกล่าว ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนน ประกอบกับวันที่ 31  ตุลาคม 2566 และวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 จะมีการกำหนดให้ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนายกเป็นประธาน ซึ่งอาจจะมีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก อันจะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่