
ผมได้ยินรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง หน้ามึน บอก “ ทำไมต้องเป็นขี้ขา บริษัทน้ำมันไทย ผู้ประกอบการในไทย “ สร้างกระแส โฆษณาชวนเชื่องมงามหรือป่าว
ขี้ขาไคร อาจเป็นขี้ขาท่านมั่ง “ เพราะราชการศักดินาสูงๆ เงินเดือนแพงๆ ก็ส่วนหนึ่งมาจากภาษีกิจการน้ำมันนี่แหละ ปีหนึ่งๆ หลายแสนล้าน
รวมทั้ง เงินปันผล ที่รัฐก็คือเจ้าของผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มปตท PTT และ กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งนอกจากเงินเงินภาษีจากยอดขาย(รายได้)ทุกบิล รัฐก็ยังได้เงินปันผลจำนวนมากกว่าไคร ไปให้พวกท่าน “ข้าราชการ ปรับเงินเดือนขึ้น บ่อยๆไงท่าน
“ดังนั้น ถ้าจะพูดว่า ขี้ข้าไคร ก็พวกท่านไง คงจะไม่ผิดหนัก”
อันดับกิจการท๊อป 5 รัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งเงินปันผลกำไรเข้ารัฐ
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ธนาคารออมสิน
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

และท่านรัฐมนตรีไม่รู้จริงๆ เหรอ ผู้ประกอบการในไทย มีกำไรต่ำเตี้ย ที่สุดเกือบจะในโลกแล้ว
อัตราำไร ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพียงราว 2% (ในขณะที่บริษัทสหรัฐ-ยุโรป-ซาอุ-โอเปคอัตรากำไร 20-40% บางบริษัท ยอดขาย20-30ล้าน กำไร ปีละ 4-5ล้านล้านบาท )
แต่ปตท PTT บริษัทอันดับ1ของไทย ทำยอดขาย(รายได้)3.3ล้านล้าน แต่เหลือกำไรบางเฉียบ เพียง 0.09ล้านล้าน
หรือ ปั้มน้ำมัน ปตท OR ขายน้ำมันเกือบ8แสนล้าน แต่กำไร แค่ราว7พันล้าน
อัตรากำไรขายน้ำมันแค่ราว1% ( เกือบต่ำที่สุดในโลก)
และ ผู้ประกอบการน้ำมันทุกราย รู้ดี ว่า ทำธุรกิจลำบากขนาดไหน ลงทุนสูง ความเสี่ยงสูง ต้นทุนน้ำมันโลกผันผวน ค้าจ้างแรงงาน ค่าใช้จ่ายต่างๆปรับขึ้น เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขึ้น แล้วรัฐบังคับตรึงราคาถูกๆ บิดเบือนกลไกลตลาด นอกทำลายผู้ประกอบการ ยังผาญเงินภาษีคนไทย ยังทำลายเศรษฐกิจGDP ชาติ
ในแย่ลงๆ เหมือนดัชนีหุ้นไทยตอนนี้ ทรุดตัวตั้งแต่ ต้มยำกุ้งปี40 ประเทศอื่นเข้า ปรับขึ้น 100-200%กันเกือบหมด แต่ที่ไทยแลนด์ ยังไม่เปิดกะลาไปไหน มีแต่ทรงๆกับทรุดๆ พลอยทำให้ประชาชน รากหญ้าเดือนร้อนกันถ้วนหน้าเป็นโดมิโน
ถ้าตาไม่มืดบอด คงจะรู้ความจริง ว่า ส่วนใหญ่ รัฐได้ภาษีทั้ง Vat และ สรรพสามิตจำนวนมาก มีคนกล่าวว่าสูงถึง40-45%ของราคาที่ประชาชนจ่ายซื้อบริโภคน้ำมัน(จริงหรือไม่ ลองไปศึกษาค้นคว้าดู หรือไปแกะงบ ผู้ประกอบการ ในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะรู้ความจริงได้ไม่ยาก )
ที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมันในไทยถูกโยนบาป สร้างกระแสบิดเบือน เหมือนเนื้อไม่ได้กิน แต่เอากระดูก มาแขวนคอ
เชลล์อังกฤษขายโรงกลั่นในไทย ปิโตรนาสมาเลเซียขายปั้มน้ำมันในไทย เอสโซ่ESSOสหรัฐที่ทำธุรกิจมากว่า 120ปี ตอนนี้ขายกิจการทั้งโรงกลั่นและปั้มน้ำมัน เพราะมันทำแล้วไม่คุ้ม…. ต่อไปคงเหลือ แต่ ปตท กับ บางจาก เพราะ สัญชาติไทยและรัฐเป็นผู้หุ้นใหญ่ และ กองทุนประกันสังคม กองทุนวายุภักษ์ของรัฐ
ที่ท่านบอก”ทำไมต้องเป็นข้าผู้ประกอบการน้ำมันในไทย”แท้จริงอาจเป็นขี้ข้าพวกท่านเองหรือไม่ เงินราชการสูงๆปรับขึ้นบ่อยๆ
ผมได้ยินรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง หน้ามึน บอก “ ทำไมต้องเป็นขี้ขา บริษัทน้ำมันไทย ผู้ประกอบการในไทย “ สร้างกระแส โฆษณาชวนเชื่องมงามหรือป่าว
ขี้ขาไคร อาจเป็นขี้ขาท่านมั่ง “ เพราะราชการศักดินาสูงๆ เงินเดือนแพงๆ ก็ส่วนหนึ่งมาจากภาษีกิจการน้ำมันนี่แหละ ปีหนึ่งๆ หลายแสนล้าน
รวมทั้ง เงินปันผล ที่รัฐก็คือเจ้าของผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มปตท PTT และ กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งนอกจากเงินเงินภาษีจากยอดขาย(รายได้)ทุกบิล รัฐก็ยังได้เงินปันผลจำนวนมากกว่าไคร ไปให้พวกท่าน “ข้าราชการ ปรับเงินเดือนขึ้น บ่อยๆไงท่าน
“ดังนั้น ถ้าจะพูดว่า ขี้ข้าไคร ก็พวกท่านไง คงจะไม่ผิดหนัก”
อันดับกิจการท๊อป 5 รัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งเงินปันผลกำไรเข้ารัฐ
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ธนาคารออมสิน
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
และท่านรัฐมนตรีไม่รู้จริงๆ เหรอ ผู้ประกอบการในไทย มีกำไรต่ำเตี้ย ที่สุดเกือบจะในโลกแล้ว
อัตราำไร ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพียงราว 2% (ในขณะที่บริษัทสหรัฐ-ยุโรป-ซาอุ-โอเปคอัตรากำไร 20-40% บางบริษัท ยอดขาย20-30ล้าน กำไร ปีละ 4-5ล้านล้านบาท )
แต่ปตท PTT บริษัทอันดับ1ของไทย ทำยอดขาย(รายได้)3.3ล้านล้าน แต่เหลือกำไรบางเฉียบ เพียง 0.09ล้านล้าน
หรือ ปั้มน้ำมัน ปตท OR ขายน้ำมันเกือบ8แสนล้าน แต่กำไร แค่ราว7พันล้าน
อัตรากำไรขายน้ำมันแค่ราว1% ( เกือบต่ำที่สุดในโลก)
และ ผู้ประกอบการน้ำมันทุกราย รู้ดี ว่า ทำธุรกิจลำบากขนาดไหน ลงทุนสูง ความเสี่ยงสูง ต้นทุนน้ำมันโลกผันผวน ค้าจ้างแรงงาน ค่าใช้จ่ายต่างๆปรับขึ้น เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขึ้น แล้วรัฐบังคับตรึงราคาถูกๆ บิดเบือนกลไกลตลาด นอกทำลายผู้ประกอบการ ยังผาญเงินภาษีคนไทย ยังทำลายเศรษฐกิจGDP ชาติ
ในแย่ลงๆ เหมือนดัชนีหุ้นไทยตอนนี้ ทรุดตัวตั้งแต่ ต้มยำกุ้งปี40 ประเทศอื่นเข้า ปรับขึ้น 100-200%กันเกือบหมด แต่ที่ไทยแลนด์ ยังไม่เปิดกะลาไปไหน มีแต่ทรงๆกับทรุดๆ พลอยทำให้ประชาชน รากหญ้าเดือนร้อนกันถ้วนหน้าเป็นโดมิโน
ถ้าตาไม่มืดบอด คงจะรู้ความจริง ว่า ส่วนใหญ่ รัฐได้ภาษีทั้ง Vat และ สรรพสามิตจำนวนมาก มีคนกล่าวว่าสูงถึง40-45%ของราคาที่ประชาชนจ่ายซื้อบริโภคน้ำมัน(จริงหรือไม่ ลองไปศึกษาค้นคว้าดู หรือไปแกะงบ ผู้ประกอบการ ในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะรู้ความจริงได้ไม่ยาก )
ที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมันในไทยถูกโยนบาป สร้างกระแสบิดเบือน เหมือนเนื้อไม่ได้กิน แต่เอากระดูก มาแขวนคอ
เชลล์อังกฤษขายโรงกลั่นในไทย ปิโตรนาสมาเลเซียขายปั้มน้ำมันในไทย เอสโซ่ESSOสหรัฐที่ทำธุรกิจมากว่า 120ปี ตอนนี้ขายกิจการทั้งโรงกลั่นและปั้มน้ำมัน เพราะมันทำแล้วไม่คุ้ม…. ต่อไปคงเหลือ แต่ ปตท กับ บางจาก เพราะ สัญชาติไทยและรัฐเป็นผู้หุ้นใหญ่ และ กองทุนประกันสังคม กองทุนวายุภักษ์ของรัฐ