คือต้องเล่าก่อนว่าที่บ้านเคยมีฐานะระดับกลางคือไม่เดือดร้อนแต่พอแม่เสียทุกอย่างพลิกหมดเพราะแม่สร้างหนี้ไว้เยอะมากแต่ด้วยครอบครัวเราไม่พูดไม่คุย ก็เลยทำให้รู้ทีหลังพ่อก็จะเป็นคนที่รับภาระนี้ไป เพราะนี่ยังเรียนใกล้จะจบแล้วฝึกงานอยู่ แล้วมีน้องอีกคน คือช่วงนี้พ่อไม่มีงานทำงานที่พ่อทำมันไม่ใช่งานประจำรายได้ก็เลยไม่คงที่ รายจ่ายจะเยอะกว่าเพราะพ่อไปเช่าบ้าน ผ่อนรถให้น้องพ่อ ส่วนทางนี้ก็ทั้งค่ารถพ่อ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเรียนของน้อง อยากบอกพ่อมากว่าน้องเขาโตแล้วทำไมถึงครอบครัวเราต้องรับผิดชอบเขา อยากมีแต่ไม่ยอมเสียอะไรเลยเห็นแก่ตัวเกินไปไหม แล้วประเด็นคือพ่อชอบพูดกรอกหู เช้า-เย็นๆๆ ทุกครั้งว่าไม่มีงานเลย ไม่มีเงินเลย คือนี่รู้นะแต่ช่วยไม่ได้เพราะฝึกงานจะเรียนจบแล้วไหนจะวิจัยอีกงานบ้านก้ทำคนเดียวทุกอย่างเขาพูดกรอกหูจนบางครั้งไม่อยากพูดกับเขาแล้ว หรือจริงๆพ่อควรตัดอะไรที่ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบออก เรารับรู้แต่ทำไรไม่ได้ก็รอให้เรียนจบรีบทำงานนี่ไงจะเห็นแก่ตัวเกินไปมั้ยหรือเราต้องไปหาไรทำด้วยแบ่งเบาเขา
ปล.คือเราเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ไม่เที่ยว ไม่ซื้อของเลย เรื่องทุกอย่างทั้งที่บ้าน เรื่องน้อง เป็นคนจัดการหมดเพราะไม่อยากให้พ่อมาคิดเรื่องอื่นแค่คิดเรื่องงานอย่างเดียว
ใครมีวิธีช่วยแชร์ๆมากันหน่อยนะ 🥹
ลูกควรรับรู้สถานะครอบครัวใช่มั้ย
ปล.คือเราเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ไม่เที่ยว ไม่ซื้อของเลย เรื่องทุกอย่างทั้งที่บ้าน เรื่องน้อง เป็นคนจัดการหมดเพราะไม่อยากให้พ่อมาคิดเรื่องอื่นแค่คิดเรื่องงานอย่างเดียว
ใครมีวิธีช่วยแชร์ๆมากันหน่อยนะ 🥹