
21 ต.ค. 2566 - 23:32 น.
แคดดี้สาวช็อก อดีตแฟนปล่อยภาพลับว่อน ขู่ฆ่ายอมติดคุก โดดเกาะรถ ทุบกระจกทะลุ บังคับให้กลับมาคืนดี
วันที่ 21 ต.ค.66 ที่ สน.คันนายาว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาหญิงผู้เสียหาย อายุ 44 ปี แคดดี้สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ถูกอดีตแฟนหนุ่มอายุ 42 ปี ข่มขู่และทำลายทรัพย์สิน เข้าพบ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว, พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ รองผกก.(สอบสวน) เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังผู้เสียหายหวั่นเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายให้ช่วยเหลือ หลังถูกอดีตแฟนโพสต์ภาพแอบถ่ายขณะที่ฝ่ายหญิงเปลือยภายในห้องพักลงในคอมเมนต์โซเซียลมีเดีย เพื่อจะให้ฝ่ายหญิงกลับไปคืนดีหลังฝ่ายหญิงบอกเลิก แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับไปคืนดีและหนีมาหลบอยู่บ้านเพื่อน จากนั้นฝ่ายชายได้มาดักเจอที่บ้านเอื้ออาทรแห่งในพื้นที่ สน.คันนายาว
จากการบอกเล่าของผู้เสียหายระบุว่า เมื่อเห็นฝ่ายชายเดินมาที่รถจากกระจกหลัง จึงรีบล็อคประตูรถและพยายามขับหนี แต่ฝ่ายชายกลับกระโดดเกาะหน้ารถ และทุบกระจกจนแตก จากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความ แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ ฝ่ายชายโพสต์ข้อความคล้ายข่มขู่จะมาทำร้าย ตนจึงพาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าและขอความช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนคบหากับฝ่ายชายมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า แต่ระยะหลังฝ่ายชายกลับระแวงและมีพฤติกรรมหึงหวงจับผิดตน เนื่องจากด้วยอาชีพของตนที่เป็นแคดดี้ทำให้ต้องพบปะกับคนเป็นจำนวนมาก จึงคิดว่าอาจเป็นสาเหตุทำให้ฝ่ายชายเกิดอาการหึงหวง ทั้งที่ตนไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งยังมีอารมณ์รุนแรงเคยนำมีดมาจี้ที่คอตนเพื่อขู่ไม่ให้เลิกพร้อมทั้งยังขู่ว่าหากเลิกไปจะพบภาพลับเปลือยของตนในโซเชียล
แต่ตนไม่อยากทนอยู่ด้วยเนื่องจากเกิดความกลัวจึงหลบหนีมาอยู่กับเพื่อน จากนั้นฝ่ายชายก็ได้โพสต์ภาพลับของตนขณะอยู่ในห้องพัก ทำให้ตนเกิดความอับอาย จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับฝ่ายชายอีกเลย ถึงแม้ฝ่ายชายจะพยายามโทรมาหลายร้อยครั้งก็ตาม
แต่ล่าสุดก่อนเกิดเหตุในวันที่ 18 ต.ค. ฝ่ายชายได้ส่งข้อความมาบอกตนว่า ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะรู้ที่อยู่แล้ว ก่อนออกจากบ้านตนก็ระมัดระวังแต่ก็เห็นฝ่ายชายมาที่รถจึงเกิดเหตุตามคลิป จากนั้นตนก็มาได้แจ้งความไว้ที่สน. คันนายาวอีกคดี ทั้งนี้หลังจากฝ่ายชายรู้ว่าตนได้มาแจ้งความอีกครั้งก็ได้โพสต์ข่มขู่ระบุว่า ยอมติดคุกแต่ตนต้องตาย ตนจึงเกิดความหวาดกลัวและเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงติดต่อไปยัง กัน จอมพลัง ให้พามาพบตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ กล่าวว่า ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้แล้ว 2 ครั้ง คือวันที่ 13 ต.ค.66 ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และวันที่ 18 ต.ค.66 ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงวันที่กำหนดในหมายเรียก
โดยตอนแจ้งความครั้งแรกได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวแต่ก็ยังไม่พบ ทั้งนี้ หากดูจากพฤติการณ์แล้วพบว่า ผู้ต้องหามีการข่มขู่ คุกคามมากขึ้น ก็ต้องใช้มาตรการที่ชัดเจนขึ้น อาจดำเนินการขอหมายจับแทนหมายเรียกครั้งที่ 2 ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหาย หากมีการถูกคุกคาม รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ให้โทรหาตนโดยตรงได้ทันที ตนจะส่งเจ้าหน้าที่สายสืบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามเข้าไปช่วยเหลือดูแล
ส่วนกรณีภาพลับ จะตรวจสอบว่าได้นำไปโพสต์ที่ไหนบ้าง ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการระงับ รวมถึงตรวจสอบในโทรศัพท์ของฝ่ายชายให้ลบภาพ ไม่ให้นำไปโพสต์ได้อีก เมื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และจะตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดด้วย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมยังไม่พบมีประวัติแต่อย่างใด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7926870
แคดดี้สาวช็อก อดีตแฟนปล่อยภาพลับว่อน ขู่ฆ่ายอมติดคุก โดดเกาะรถ ทุบกระจกทะลุ
21 ต.ค. 2566 - 23:32 น.
แคดดี้สาวช็อก อดีตแฟนปล่อยภาพลับว่อน ขู่ฆ่ายอมติดคุก โดดเกาะรถ ทุบกระจกทะลุ บังคับให้กลับมาคืนดี
วันที่ 21 ต.ค.66 ที่ สน.คันนายาว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาหญิงผู้เสียหาย อายุ 44 ปี แคดดี้สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ถูกอดีตแฟนหนุ่มอายุ 42 ปี ข่มขู่และทำลายทรัพย์สิน เข้าพบ พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว, พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ รองผกก.(สอบสวน) เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังผู้เสียหายหวั่นเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายให้ช่วยเหลือ หลังถูกอดีตแฟนโพสต์ภาพแอบถ่ายขณะที่ฝ่ายหญิงเปลือยภายในห้องพักลงในคอมเมนต์โซเซียลมีเดีย เพื่อจะให้ฝ่ายหญิงกลับไปคืนดีหลังฝ่ายหญิงบอกเลิก แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับไปคืนดีและหนีมาหลบอยู่บ้านเพื่อน จากนั้นฝ่ายชายได้มาดักเจอที่บ้านเอื้ออาทรแห่งในพื้นที่ สน.คันนายาว
จากการบอกเล่าของผู้เสียหายระบุว่า เมื่อเห็นฝ่ายชายเดินมาที่รถจากกระจกหลัง จึงรีบล็อคประตูรถและพยายามขับหนี แต่ฝ่ายชายกลับกระโดดเกาะหน้ารถ และทุบกระจกจนแตก จากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความ แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ ฝ่ายชายโพสต์ข้อความคล้ายข่มขู่จะมาทำร้าย ตนจึงพาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าและขอความช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนคบหากับฝ่ายชายมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า แต่ระยะหลังฝ่ายชายกลับระแวงและมีพฤติกรรมหึงหวงจับผิดตน เนื่องจากด้วยอาชีพของตนที่เป็นแคดดี้ทำให้ต้องพบปะกับคนเป็นจำนวนมาก จึงคิดว่าอาจเป็นสาเหตุทำให้ฝ่ายชายเกิดอาการหึงหวง ทั้งที่ตนไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งยังมีอารมณ์รุนแรงเคยนำมีดมาจี้ที่คอตนเพื่อขู่ไม่ให้เลิกพร้อมทั้งยังขู่ว่าหากเลิกไปจะพบภาพลับเปลือยของตนในโซเชียล
แต่ตนไม่อยากทนอยู่ด้วยเนื่องจากเกิดความกลัวจึงหลบหนีมาอยู่กับเพื่อน จากนั้นฝ่ายชายก็ได้โพสต์ภาพลับของตนขณะอยู่ในห้องพัก ทำให้ตนเกิดความอับอาย จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับฝ่ายชายอีกเลย ถึงแม้ฝ่ายชายจะพยายามโทรมาหลายร้อยครั้งก็ตาม
แต่ล่าสุดก่อนเกิดเหตุในวันที่ 18 ต.ค. ฝ่ายชายได้ส่งข้อความมาบอกตนว่า ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะรู้ที่อยู่แล้ว ก่อนออกจากบ้านตนก็ระมัดระวังแต่ก็เห็นฝ่ายชายมาที่รถจึงเกิดเหตุตามคลิป จากนั้นตนก็มาได้แจ้งความไว้ที่สน. คันนายาวอีกคดี ทั้งนี้หลังจากฝ่ายชายรู้ว่าตนได้มาแจ้งความอีกครั้งก็ได้โพสต์ข่มขู่ระบุว่า ยอมติดคุกแต่ตนต้องตาย ตนจึงเกิดความหวาดกลัวและเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงติดต่อไปยัง กัน จอมพลัง ให้พามาพบตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ กล่าวว่า ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้แล้ว 2 ครั้ง คือวันที่ 13 ต.ค.66 ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และวันที่ 18 ต.ค.66 ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงวันที่กำหนดในหมายเรียก
โดยตอนแจ้งความครั้งแรกได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวแต่ก็ยังไม่พบ ทั้งนี้ หากดูจากพฤติการณ์แล้วพบว่า ผู้ต้องหามีการข่มขู่ คุกคามมากขึ้น ก็ต้องใช้มาตรการที่ชัดเจนขึ้น อาจดำเนินการขอหมายจับแทนหมายเรียกครั้งที่ 2 ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหาย หากมีการถูกคุกคาม รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ให้โทรหาตนโดยตรงได้ทันที ตนจะส่งเจ้าหน้าที่สายสืบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามเข้าไปช่วยเหลือดูแล
ส่วนกรณีภาพลับ จะตรวจสอบว่าได้นำไปโพสต์ที่ไหนบ้าง ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการระงับ รวมถึงตรวจสอบในโทรศัพท์ของฝ่ายชายให้ลบภาพ ไม่ให้นำไปโพสต์ได้อีก เมื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และจะตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดด้วย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมยังไม่พบมีประวัติแต่อย่างใด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7926870