คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ โตกระฉูด 4,000% ภาพสะท้อน คนไทยเลี้ยงหมา-แมว เหมือนลูก มูลค่าพุ่ง6.6 หมื่นล้าน
“Summary“
LWS เผย คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ ในไทย โตแรง 4,000% ในรอบ 5 ปี รวม 5,663 ยูนิต ภาพสะท้อน จุดเปลี่ยนสังคม คนไทย เลี้ยงสัตว์เลี้ยง หมา-แมว เหมือนลูก ขณะมูลค่าตลาดสินค้าและบริการเกี่ยวข้อง มีทิศทางเติบโตมากกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท ในไม่กี่ปีข้างหน้า
คอนโดเลี้ยงสัตว์ ยูนิตโตกระฉูด 4,000%
โดยความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ (Pet Friendly Condominium) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลการสำรวจของ “LWS” พบว่าในปี 2565 มีโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งสิ้น 5,663 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4,394% จากจำนวน 157 ยูนิต ในปี 2561
ซึ่งนับเป็นภาพสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในแบบ “pet humanization” หรือที่เรียกว่า พฤติกรรมที่เจ้าของเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเสมือนลูก หรือเป็นสมาชิกของครอบครัว จากการคาดการณ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569
จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้การพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังให้ความสำคัญใน 6 ประเด็น ดังนี้
• โครงการมีพื้นที่เดินเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง และต้องมีความปลอดภัย เช่น รั้วกั้นสัตว์
ภายนอกเข้ามาทำร้ายสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ
• ระบบระบายอากาศ เพราะ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอาจส่งผลให้มีกลิ่นได้ ตัวอาคารเอง
ควรมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาภาพอากาศในห้องชุดพักอาศัย และห้องส่วนกลาง
• การจัดการของเสียที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง เพราะการเลี้ยงสัตว์อาจส่งผลให้มีขยะเพิ่มขึ้น
• การใช้สารพิษในการกำจัดปลวก/แมลง เพื่อไม่ให้สร้างความเสี่ยงต่อสัตว์เลี้ยง
• การควบคุมเสียง: การควบคุมเสียงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงทำเสียงรบกวนผู้อยู่อาศัยอื่นๆ เช่น การติดตั้งแผ่นซับเสียงในห้องชุด/พื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น
• การศึกษาผู้อยู่อาศัย: ควรมีการสร้างความเข้าใจและการศึกษาผู้อยู่อาศัยเกี่ยวกับความสำคัญของการเลี้ยงสัตว์และกฎระเบียบเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในอาคารชุด เพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมมือกันในการรักษาความสงบสุขและการอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้
6 งานบริการ โอกาสธุรกิจ รับเทรนด์ Pet Friendly Condo
ผลการสำรวจ ยังพบว่ามี 6 งานบริการที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อคอนโดฯ สัตว์เลี้ยง ดังนี้
1. บริการฝากดูแล/พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น
2. บริการทำความสะอาดห้องชุดที่มีสัตว์เลี้ยง
3. บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในห้องชุด
4. ร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง
5. บริการสปา/อาบน้ำ/แต่งขนสัตว์เลี้ยง
6. บริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet Friendly จากผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายในตลาด ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์คอนโดฯ จากเมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์, คอนโดออริจิ้น และ คอนโดโนเบิล เป็นต้น
ที่มา : LPN
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2733785
คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ โตกระฉูด 4,000% ภาพสะท้อน คนไทยเลี้ยงหมา-แมว เหมือนลูก มูลค่าพุ่ง6.6 หมื่นล้าน
“Summary“
LWS เผย คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ ในไทย โตแรง 4,000% ในรอบ 5 ปี รวม 5,663 ยูนิต ภาพสะท้อน จุดเปลี่ยนสังคม คนไทย เลี้ยงสัตว์เลี้ยง หมา-แมว เหมือนลูก ขณะมูลค่าตลาดสินค้าและบริการเกี่ยวข้อง มีทิศทางเติบโตมากกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท ในไม่กี่ปีข้างหน้า
คอนโดเลี้ยงสัตว์ ยูนิตโตกระฉูด 4,000%
โดยความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ (Pet Friendly Condominium) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลการสำรวจของ “LWS” พบว่าในปี 2565 มีโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งสิ้น 5,663 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4,394% จากจำนวน 157 ยูนิต ในปี 2561
ซึ่งนับเป็นภาพสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในแบบ “pet humanization” หรือที่เรียกว่า พฤติกรรมที่เจ้าของเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเสมือนลูก หรือเป็นสมาชิกของครอบครัว จากการคาดการณ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569
จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้การพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังให้ความสำคัญใน 6 ประเด็น ดังนี้
• โครงการมีพื้นที่เดินเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง และต้องมีความปลอดภัย เช่น รั้วกั้นสัตว์
ภายนอกเข้ามาทำร้ายสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ
• ระบบระบายอากาศ เพราะ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอาจส่งผลให้มีกลิ่นได้ ตัวอาคารเอง
ควรมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาภาพอากาศในห้องชุดพักอาศัย และห้องส่วนกลาง
• การจัดการของเสียที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง เพราะการเลี้ยงสัตว์อาจส่งผลให้มีขยะเพิ่มขึ้น
• การใช้สารพิษในการกำจัดปลวก/แมลง เพื่อไม่ให้สร้างความเสี่ยงต่อสัตว์เลี้ยง
• การควบคุมเสียง: การควบคุมเสียงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงทำเสียงรบกวนผู้อยู่อาศัยอื่นๆ เช่น การติดตั้งแผ่นซับเสียงในห้องชุด/พื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น
• การศึกษาผู้อยู่อาศัย: ควรมีการสร้างความเข้าใจและการศึกษาผู้อยู่อาศัยเกี่ยวกับความสำคัญของการเลี้ยงสัตว์และกฎระเบียบเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในอาคารชุด เพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมมือกันในการรักษาความสงบสุขและการอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้
6 งานบริการ โอกาสธุรกิจ รับเทรนด์ Pet Friendly Condo
ผลการสำรวจ ยังพบว่ามี 6 งานบริการที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อคอนโดฯ สัตว์เลี้ยง ดังนี้
1. บริการฝากดูแล/พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น
2. บริการทำความสะอาดห้องชุดที่มีสัตว์เลี้ยง
3. บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในห้องชุด
4. ร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง
5. บริการสปา/อาบน้ำ/แต่งขนสัตว์เลี้ยง
6. บริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ หรือ Pet Friendly จากผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายในตลาด ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์คอนโดฯ จากเมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์, คอนโดออริจิ้น และ คอนโดโนเบิล เป็นต้น
ที่มา : LPN
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2733785