ภาษีอากรเป็น “เงิน” ที่รัฐบังคับจัดเก็บจากบุคคล ซึ่งในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่า รัฐเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียภาษีอากรเป็น “เงิน” เท่านั้น ไม่มีการเรียกเก็บภาษีอากรในรูปแบบอื่นใด ในกรณีที่ผู้ต้องเสียภาษีอากรไม่สามารถชำระภาษีอากรเป็น “เงิน” ได้ รัฐก็ทำการเร่งรัดด้วยการนำทรัพย์สินของผู้ต้องเสียภาษีอากรมาทอดตลาดเพื่อให้ได้เงินมาชำระค่าภาษีอากร
2. ภาษีอากรเป็น “เงิน” ที่รัฐ “บังคับจัดเก็บ” ด้วยการตราเป็นกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของบุคคลผู้มีหน้าที่ต้องเสียหรือนำส่งภาษีอากรให้ต้องถือปฏิบัติ ภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญ อาทิ ประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
3. เงินภาษีอากรที่รัฐจัดเก็บได้ นั้น รัฐจะไม่ผูกพันที่จะจ่ายผลตอบแทนโดยตรงให้แก่ผู้เสียภาษีอากรเป็นรายบุคคล อย่างเฉพาะเจาะจง ในลักษณะที่เป็นการต่างตอบแทนแก่ผู้เสียภาษีอากร
4. อย่างไรก็ตามแม้รัฐจะไม่มีการจ่ายผลตอบแทนโดยตรงให้แก่ผู้เสียภาษีเป็นรายบุคคล แต่รัฐก็ได้นำเงินภาษีอากรที่รัฐจัดเก็บมานั้น ไปใช้ในการบริหารการจัดการ และสร้างสรรค์บริการในอันที่จะอำนวยความสะดวกและความผาสุก แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา สุขพลานามัย โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสมบัติ เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่และสวัสดิการ การพัฒนาประเทศ ความมั่นคงภายใน (ตำรวจ) ความมั่นคงภายนอก (กลาโหม-ทหาร)
ภาษีอากร
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ2. ภาษีอากรเป็น “เงิน” ที่รัฐ “บังคับจัดเก็บ” ด้วยการตราเป็นกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของบุคคลผู้มีหน้าที่ต้องเสียหรือนำส่งภาษีอากรให้ต้องถือปฏิบัติ ภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญ อาทิ ประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
3. เงินภาษีอากรที่รัฐจัดเก็บได้ นั้น รัฐจะไม่ผูกพันที่จะจ่ายผลตอบแทนโดยตรงให้แก่ผู้เสียภาษีอากรเป็นรายบุคคล อย่างเฉพาะเจาะจง ในลักษณะที่เป็นการต่างตอบแทนแก่ผู้เสียภาษีอากร
4. อย่างไรก็ตามแม้รัฐจะไม่มีการจ่ายผลตอบแทนโดยตรงให้แก่ผู้เสียภาษีเป็นรายบุคคล แต่รัฐก็ได้นำเงินภาษีอากรที่รัฐจัดเก็บมานั้น ไปใช้ในการบริหารการจัดการ และสร้างสรรค์บริการในอันที่จะอำนวยความสะดวกและความผาสุก แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา สุขพลานามัย โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสมบัติ เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่และสวัสดิการ การพัฒนาประเทศ ความมั่นคงภายใน (ตำรวจ) ความมั่นคงภายนอก (กลาโหม-ทหาร)