ผมเป็นผู้ชายคนนึงครับที่ทำงานหนักเลี้ยงลูกเล็กอยู่ 1 คน คนโต 2 คน *แต่ประเด็นของกระทู้นี้คือคนเล็กครับ แล้วก็มีคนชอบมาบอกผมว่า "ทำไมไม่ให้แฟนทำงาน
" สิ่งที่ผมชอบตอบไปคือ "แค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว"
คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ชอบบอกผมว่าก็แค่เลี้ยงลูก ปฏิกิริยาของผมส่วนใหญ่จะแค่ยิ้ม รับรู้ในสิ่งที่คนเหล่านั้นพูดมาเพราะแต่ละคนก็มีความคิดต่างกัน
ส่วนตัวผมการเลี้ยงลูกคืองานที่หนักมากคือหน้าที่ที่หนักมากไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลูกนอนผิดท่าก็เสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ละแวงว่าหายใจอยู่หรือเปล่า ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ผมกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆและเห็นภรรยานอนให้นมลูก สิ่งที่ผมเห็นคือเห็นคนอดหลับอดนอนมาไม่รู้กี่วัน(โทรม) มีครั้งหนึ่งที่ผมได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ผมระแวงอยู่ตลอดเวลานอนไม่หลับ กลัวกลิ้งทับลูกกลัวทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเป็นไปได้มันนอนไม่หลับที่นอนไม่หลับจริงๆครับ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเข้าใจแฟนมากขึ้นมันเป็นการเข้าใจไม่ใช่การรับรู้เหมือนก่อนหน้านี้ ลองคิดดูสิครับ 2 วันผมยังเหนื่อยขนาดนั้น แล้วลองทวีคูณไปเป็นปี 2 ปีไม่รู้มันจะเหนื่อยขนาดไหน ในระหว่างช่วงที่เลี้ยงลูกก็ทะเลาะกันบ่อยจากความเหนื่อยล้า ถึงจะบอกว่าทะเลาะ แต่ผมก็ให้เขาว่าผมอยู่ฝ่ายเดียวนั่นแหละ ถึงผมจะเหนื่อยจากงานแต่เขาก็เหนื่อยไม่แพ้กัน
การเหนื่อยจากการทำงานแล้วนอนพักผ่อนเต็มเวลา กับการเหนื่อยที่ไม่ได้นอนมันต่างกันมากๆนะครับ ไหนจะเหนื่อยจากการที่ลูกดูดสารอาหารไปจากตัวไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ในจะภูมิแพ้ที่เป็น ปวดท้องประจำเดือนหรือผลข้างเคียงจากประจำเดือน คิดไปคิดมาเหมือนการทดสอบชีวิตคู่เลยครับและแน่นอนว่าเราผ่านมันไปได้ เข้าใจเลยครับว่าทำไมหลายๆคู่ถึงเลิกกันในช่วงนี้ จากการที่ไม่เข้าใจกัน ผู้ชายเบื่อผู้หญิงแล้วไปแอบมีใหม่ ก็คิดว่าน่าจะมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้ล่ะครับแล้วทนไม่ได้กัน
เพราะฉะนั้นผู้ชายอย่างเราๆ ต้องรับให้ได้นะครับในช่วงเวลาที่ชีวิตคู่มาถึงจุดๆนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจอีกฝ่าย ไม่อดทนแล้วจับมือไปด้วยกันคงจะลำบากมากๆ อยากทราบมุมมองของเพื่อนๆและความคิดเห็นลองโหวตกันดูนะครับอยากรู้ว่ามีคนคิดแบบผมกี่คนคิดต่างกี่คน
ปล.โชคดีที่เคสผม ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ปัญหาของเรื่องเหล่านี้เลยไม่มีมาให้เป็นประเด็น
1. คุณคิดเห็นยังไงกับคนท้องที่ไม่ทำงานและนอนเลี้ยงลูกอยู่บ้าน
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
คิดยังไงกับคนที่บอกว่าคนท้องก็แค่นอนอยู่บ้านสบายเลี้ยงลูก
" สิ่งที่ผมชอบตอบไปคือ "แค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว"
คนเหล่านั้นส่วนใหญ่ชอบบอกผมว่าก็แค่เลี้ยงลูก ปฏิกิริยาของผมส่วนใหญ่จะแค่ยิ้ม รับรู้ในสิ่งที่คนเหล่านั้นพูดมาเพราะแต่ละคนก็มีความคิดต่างกัน
ส่วนตัวผมการเลี้ยงลูกคืองานที่หนักมากคือหน้าที่ที่หนักมากไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลูกนอนผิดท่าก็เสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ละแวงว่าหายใจอยู่หรือเปล่า ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ผมกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆและเห็นภรรยานอนให้นมลูก สิ่งที่ผมเห็นคือเห็นคนอดหลับอดนอนมาไม่รู้กี่วัน(โทรม) มีครั้งหนึ่งที่ผมได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ผมระแวงอยู่ตลอดเวลานอนไม่หลับ กลัวกลิ้งทับลูกกลัวทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเป็นไปได้มันนอนไม่หลับที่นอนไม่หลับจริงๆครับ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเข้าใจแฟนมากขึ้นมันเป็นการเข้าใจไม่ใช่การรับรู้เหมือนก่อนหน้านี้ ลองคิดดูสิครับ 2 วันผมยังเหนื่อยขนาดนั้น แล้วลองทวีคูณไปเป็นปี 2 ปีไม่รู้มันจะเหนื่อยขนาดไหน ในระหว่างช่วงที่เลี้ยงลูกก็ทะเลาะกันบ่อยจากความเหนื่อยล้า ถึงจะบอกว่าทะเลาะ แต่ผมก็ให้เขาว่าผมอยู่ฝ่ายเดียวนั่นแหละ ถึงผมจะเหนื่อยจากงานแต่เขาก็เหนื่อยไม่แพ้กัน
การเหนื่อยจากการทำงานแล้วนอนพักผ่อนเต็มเวลา กับการเหนื่อยที่ไม่ได้นอนมันต่างกันมากๆนะครับ ไหนจะเหนื่อยจากการที่ลูกดูดสารอาหารไปจากตัวไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ในจะภูมิแพ้ที่เป็น ปวดท้องประจำเดือนหรือผลข้างเคียงจากประจำเดือน คิดไปคิดมาเหมือนการทดสอบชีวิตคู่เลยครับและแน่นอนว่าเราผ่านมันไปได้ เข้าใจเลยครับว่าทำไมหลายๆคู่ถึงเลิกกันในช่วงนี้ จากการที่ไม่เข้าใจกัน ผู้ชายเบื่อผู้หญิงแล้วไปแอบมีใหม่ ก็คิดว่าน่าจะมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้ล่ะครับแล้วทนไม่ได้กัน
เพราะฉะนั้นผู้ชายอย่างเราๆ ต้องรับให้ได้นะครับในช่วงเวลาที่ชีวิตคู่มาถึงจุดๆนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจอีกฝ่าย ไม่อดทนแล้วจับมือไปด้วยกันคงจะลำบากมากๆ อยากทราบมุมมองของเพื่อนๆและความคิดเห็นลองโหวตกันดูนะครับอยากรู้ว่ามีคนคิดแบบผมกี่คนคิดต่างกี่คน
ปล.โชคดีที่เคสผม ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ปัญหาของเรื่องเหล่านี้เลยไม่มีมาให้เป็นประเด็น