ฝึก(แรง)งาน

สวัสดีค่ะ เราอายุ21เพิ่งเรียนจบ อยากจะมาเล่าประสบการ์ตอนฝึกงานฝึกที่โรงแรมแห่งหนึ่งให้ฟังค่ะ ตอนฝึกงานเราสมัครไปตำแหน่งพนักงานต้อนรับของแผนกหนึ่งไปแต่เราแทบจะไม่ได้ทำในส่วนนั้นเลย จะเป็นในส่วนของงานหลังบ้านซะส่วนใหญ่เราฝึกที่นั่น3 เดือนค่ะตอนนั้นที่โรงแรมบอกกับเราและเพื่อนๆที่ไปฝึกพร้อมกันว่าหลังจากฝึกจบแล้วต่อไปถ้าเราไปสมัครงานที่ไหนเขาก็จะรับเพราะโรงแรมค่อนข้างมีชื่อเสียงHRก็จะว้าวกับที่เราไปฝึกงาน เราก็สบายใจหน่อยเพราะโรงแรมเขามีชื่อเสียงจริงๆ แต่ในส่วนงานที่กำลังฝึกตอนนั้นเราแทบจะไม่ได้อะไรเลยค่ะนอกจากปวดหลัง ปวดตัว มีรอยช้ำกลับไปทุกวัน ยกของหนัก รถผ้ากองใหญ่โต สุขภาพจิตที่ย่ำแย่เพราะคำพูดของพี่เลี้ยง เราเปิดใจให้งานโรงแรมเพราะเราอยากจะรู้ว่าเบื้อหลังเขาเป็นยังไงจัดการยังไง เราหวังว่าเราจะได้พูดจากับแขก อย่างน้อยก็แค่การทักทายหรือบทสนทนาเดิมๆเวลาที่เขาเข้ามาใช้บริการ แต่กลายเป็นว่าเรากลับต้องไปทำอะไรก็ไม่รู้หลังบ้าน ทำทุกอย่างเลยค่ะ งานส่วนหน้าแทบทำไม่เป็นเลย พี่เลี้ยงก็เอาแต่พูดว่าคนก่อนๆเก่งมากไม่ช้า ไม่ทำงานซ้ำซ้อน เขาไม่ได้สอนอะไรเราเลยแต่กลับมาพูดแบบนี้ ต่อหน้าเมเนเจอร์ปากหวานประจบประแจงที่สุด เราแอคทีฟตัวเองในทุกๆเช้าเราเรียงลำดับว่าต้องทำอันไหนก่อนถึงจะมีเวลาเหลือ15-20นาทีก่อนที่เวลาแผนกนั้นจะเปิดเราก็ลองไปเรื่อยๆจนเรามีเวลาที่ได้นั่งเฉยๆรอแขกมาใช้บริการตั้ง30นาที เวลตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเราต้องจัดการและเตรียมทุกอย่างเองหมด ซึ่งมันเยอะมากแต่เราก็ทำมันได้ถึงอย่างนั้นพี่เลี้ยงเราก็ไม่ได้ชมหรอกค่ะว่าเราพัฒนาดีขึ้น เขาบอกเรายังช้า เขียนในใบประเมินเราว่าไม่ได้เรื่องทั้งๆที่เราทำเต็มที่ตลอดและเมเนเจอร์เราก็เห็นทุกการกระทำของเราเพราะเราเข้าก่อนเมเนเจอร์แค่2ชั่วโมง แต่ยังไงก็ไม่เคยดีในสายตาพี่เลี้ยงที่ไม่แม้แต่จะบอกอะไรเราเลย เราได้เรียนรู้จากพนักงานคนอื่นทั้งนั้นแม้แต่พนักงานรายวันเขายังให้อะไรเรามากกว่าพี่เลี้ยงคนนี้เลย เดือนแรกเราจิตใจย่ำแย่มากเราคุยกับจิตแพทย์ทุกวีค เพราะเรากลัวไม่ไหวไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แต่พอเข้าเดือนที่2เราเริ่มปรับตัว แต่ก็ยังโดนตำหนอะไรนิดๆหน่อยจากพี่เลี้ยงคนนี้อยู่ดีทั้งๆที่พนักงานคนอื่นก็บอกว่างานที่เราทำถูกต้องแล้ว เรากล้ามั่นใจที่จะไปถามคนอื่นนอกจากพี่เลี้ยงเพราะก่อนหน้านั้นที่เพิ่งเข้ามาฝึกเขาบอกว่าสามารถถามทุกคนได้ที่นี่ไม่มีถูกผิดเพราะแต่ละคนก็มีวิธีสอนไม่เหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงๆเราบอกว่าทำตามที่คนนั้นสอนกลายเป็นผิดไปโดยปริยายเพราะนั่นไม่ใช่วิธีที่เขาถูกใจ? เราเหนื่อยกับงานที่ไปทำมากนับวันรอวันหยุดกับวันที่จะฝึกงานเสร็จทุกวัน แต่ในเรื่องร้ายๆก็มีเรื่องดีๆปนอยู่นะคะ เมเนเจอรืเราเองค่ะเขาเป็นคนที่เข้าใจเรามากๆเขาถามว่าจริงๆเราอยากทำงานอะไร ทำไมถึงมาฝึกโรงแรมล่ะ เราก็บอกงานที่อยากทำไปจริงๆเขาก็แนะนำมาหมดเพื่อนคนนั้นคนนี้ ชวนคุยเรื่องงานในฝันเราตลอด ไม่เคยทำให้เรากดดันเลย ให้กำลังใจ จนฝึกงานเสร็จเขาก็ส่งโรงแรมที่น่าจะเหมาะกับเรามาให้บอกว่าถ้ายังสนใจก็ติดต่อไปดูนะคิดว่าเหมาะกับเรา เขาใจดีมากๆวันจบเขาซื้อกระเป๋าแบรนด์นึงให้ค่ะซึ่งก็ราคาแพงมากสำหรับเรา เรื่องดีๆทั้งหมดใน3เดือนมีแค่เรื่องเมเนเจอร์นี่แหละค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่