สวัสดีครับไม่ได้ตั้งกระทู้นานเลย
พอดีว่าช่วงนี้ผมรู้สึกว่าผมทำงานแล้วเงินเดือนก็ไม่ค่อยจะพอใช้เท่าไหร่ เพราะว่ามีทั้งค่าบ้าน ค่านู้นนี่ที่ ผมต้องรับผิดชอบมัน
ผมก็เริ่มคิดที่อยากจะขายของครับ เพราะส่วนตัวแล้วผมก็ชอบเข้าฟิตเนสประจำอยู่ ผมคิดจะขายพวก เวย์
อุปกรณ์ออกกำลังกายอะไรแบบนี้ครับ
จริงๆผมก็จะลุยคนเดียวตั้งแต่แรกครับ แต่มันมีรุ่นน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จัก แต่ก็ชอบมาเล่นกล้ามและเจอผม
แต่แกมีนิสัยที่ค่อนข้างยังไม่ค่อยเชื่อถือได้ครับ
ผมก็เลยเลือกที่จะ ทดลองใจก่อนโดยการที่คุยๆ
ตอนแรกแกดูไม่มีพิษภัยอะไรเลยแกดูเต็มใจอยากจะช่วยเรามาก ๆ
เพราะแกก็บอกเราว่าแกก็ไม่มีเงินพอใช้
ผมเลยคิดว่าเดี๋ยวจะขายของแล้วให้น้องเขาช่วย
แต่ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตรงที่คุยกันไปมา
น้องเค้าเริ่มพูดว่าเรื่องอาหารผมทุนมีไม่พอถ้าผมอยู่กับพี่ พี่หารค่าอาหารกับผมได้ไหม
ผมก็คิดนะมันคงไม่ได้หรอกที่จะมาหารค่าอาหารกันแบบนี้
เข้าใจนักกล้ามเค้าต้องกินเยอะ
แต่ผมคิดว่ามันไม่คุ้มครับที่จะมาหารกันผมก็ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นอย่างไร
ถ้าในสายตาน้องเค้ามองผมก็เป็นผู้ใหญ่คนนึงที่มีเงิน
จุดนี้แหล่ะที่ผมเริ่มลองใจน้องเค้าก็คือผมบอกว่าผมเป็นหนี้ ผมเงินเดือนได้พอๆกับน้องเขาเอง ไม่มีเยอะหรอก
น้องเค้าเริ่มไม่เคารพผมครับตั้งแต่ผมพูดประโยคนี้ไป
เริ่มหลุดคำหยาบใส่ผมเยอะขึ้นและไม่ขอโทษแล้วก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เริ่มไม่มีมารยาทใส่ผมอย่างชัดเจน
ต่างจากตอนแรกที่เมื่อก่อนเค้าทำอะไรให้ผมไม่พอใจผมจะพูดแล้วแกจะไม่ทำทันที
ตอนนี้แกดูไม่มีท่าทีกลัวผม แถมตอนที่หลุดคำหยาบใส่ผมผมเคยพูดไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่ก็ยังทำหน้าเยาะเย้ยใส่ผม
ไม่ขอโทษแล้วก็ยิ้มแบบสะใจ
ต่างจากตอนแรกมาก เริ่มวางอีโก้ใส่ผมเยอะมาก
เริ่มเถียงกลับ เริ่มไม่เคารพ
ผมก็เลยรู้แล้วไม่อยากเสียเวลา
ก็บล็อกไปทุกทาง แล้วจะไม่ติดต่ออีก
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าเราไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ
แม้ว่าตอนแรกเค้าจะมาในรูปแบบทำตัวน่าสงสาร
ทำตัวให้เราน่าเห็นอกเห็นใจ ทำตัวเคารพเรามากดีกับเรามากๆ
ให้ลองใจก่อนแล้วจะรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง
มีใครเคยลองใจคนเรื่องเงินๆกับรายได้กับคนที่ไม่ไว้ใจบ้างครับ
พอดีว่าช่วงนี้ผมรู้สึกว่าผมทำงานแล้วเงินเดือนก็ไม่ค่อยจะพอใช้เท่าไหร่ เพราะว่ามีทั้งค่าบ้าน ค่านู้นนี่ที่ ผมต้องรับผิดชอบมัน
ผมก็เริ่มคิดที่อยากจะขายของครับ เพราะส่วนตัวแล้วผมก็ชอบเข้าฟิตเนสประจำอยู่ ผมคิดจะขายพวก เวย์
อุปกรณ์ออกกำลังกายอะไรแบบนี้ครับ
จริงๆผมก็จะลุยคนเดียวตั้งแต่แรกครับ แต่มันมีรุ่นน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จัก แต่ก็ชอบมาเล่นกล้ามและเจอผม
แต่แกมีนิสัยที่ค่อนข้างยังไม่ค่อยเชื่อถือได้ครับ
ผมก็เลยเลือกที่จะ ทดลองใจก่อนโดยการที่คุยๆ
ตอนแรกแกดูไม่มีพิษภัยอะไรเลยแกดูเต็มใจอยากจะช่วยเรามาก ๆ
เพราะแกก็บอกเราว่าแกก็ไม่มีเงินพอใช้
ผมเลยคิดว่าเดี๋ยวจะขายของแล้วให้น้องเขาช่วย
แต่ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตรงที่คุยกันไปมา
น้องเค้าเริ่มพูดว่าเรื่องอาหารผมทุนมีไม่พอถ้าผมอยู่กับพี่ พี่หารค่าอาหารกับผมได้ไหม
ผมก็คิดนะมันคงไม่ได้หรอกที่จะมาหารค่าอาหารกันแบบนี้
เข้าใจนักกล้ามเค้าต้องกินเยอะ
แต่ผมคิดว่ามันไม่คุ้มครับที่จะมาหารกันผมก็ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นอย่างไร
ถ้าในสายตาน้องเค้ามองผมก็เป็นผู้ใหญ่คนนึงที่มีเงิน
จุดนี้แหล่ะที่ผมเริ่มลองใจน้องเค้าก็คือผมบอกว่าผมเป็นหนี้ ผมเงินเดือนได้พอๆกับน้องเขาเอง ไม่มีเยอะหรอก
น้องเค้าเริ่มไม่เคารพผมครับตั้งแต่ผมพูดประโยคนี้ไป
เริ่มหลุดคำหยาบใส่ผมเยอะขึ้นและไม่ขอโทษแล้วก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เริ่มไม่มีมารยาทใส่ผมอย่างชัดเจน
ต่างจากตอนแรกที่เมื่อก่อนเค้าทำอะไรให้ผมไม่พอใจผมจะพูดแล้วแกจะไม่ทำทันที
ตอนนี้แกดูไม่มีท่าทีกลัวผม แถมตอนที่หลุดคำหยาบใส่ผมผมเคยพูดไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่ก็ยังทำหน้าเยาะเย้ยใส่ผม
ไม่ขอโทษแล้วก็ยิ้มแบบสะใจ
ต่างจากตอนแรกมาก เริ่มวางอีโก้ใส่ผมเยอะมาก
เริ่มเถียงกลับ เริ่มไม่เคารพ
ผมก็เลยรู้แล้วไม่อยากเสียเวลา
ก็บล็อกไปทุกทาง แล้วจะไม่ติดต่ออีก
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าเราไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ
แม้ว่าตอนแรกเค้าจะมาในรูปแบบทำตัวน่าสงสาร
ทำตัวให้เราน่าเห็นอกเห็นใจ ทำตัวเคารพเรามากดีกับเรามากๆ
ให้ลองใจก่อนแล้วจะรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง