อิสราเอลเตรียมโจมตีกาซาจากรอบทิศ ส่งทหารจับตายหัวโจกฮามาส
https://www.dailynews.co.th/news/2808900/
กองทัพอิสราเอลเตรียมใช้ยุทธิวิธี โจมตีฉนวนกาซาจากทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล พร้อมส่งทหาร 10,000 นาย บุกเข้าพื้นที่ เพื่อสังหารหัวหน้าฮามาสในฉนวนกาซา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนทหารบางส่วน ซึ่งประจำการในเขตทางใต้ของประเทศ ใกล้กับฉนวนกาซา โดยเนทันยาฮูกล่าวให้ทหาร “เตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการขั้นต่อไป” แต่ยังไม่มีการขยายความ
ขณะที่กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเตรียมพร้อม “ปฏิบัติการจู่โจมฉนวนกาซา ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ” แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด หลัง “เส้นตาย 24 ชั่วโมง” ในการให้ประชาชนมากกว่า 1.1 ล้านคน ในภาคเหนือของฉนวนกาซา ต้องอพยพจากเหนือลงใต้ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางออกจากพื้นที่ และบางส่วนสมัครใจอยู่ต่อ
ประชาชนในฉนวนกาซาช่วยกันดับไฟที่อาคารหลังหนึ่ง ซึ่งพังถล่มหลังปฏิบัติการโจมตีของกองทัพอิสราเอล
ด้านเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอล ว่ากองทัพเตรียมส่งทหาร 10,000 นาย ยึดเมืองกาซาซิตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางเหนือของฉนวนกาซา เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส และเหนือสิ่งอื่นใด คือการสังหารนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่อิสราเอลเชื่อว่า ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่
https://twitter.com/TOIAlerts/status/1713355146590388705
น้องก็อปเล่าแกล้งตาย 17 ชม. ถูกกลุ่มฮามาสยิงกราด-ปาระเบิด ก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ
https://www.matichon.co.th/region/news_4232514
น้องก็อป เล่านาทีกลุ่มฮามาสุดเหี้ยมกราดยิง-ปาระเบิดเข้าที่พัก ก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ หวังเอาให้ตายยกแคมป์ ตัดสินใจวิ่งหนีเข้าป่าหลังแคมป์ ก่อนทำแกล้งตาย 17 ชม. ถึงรอด เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัวกับมือถือ ที่เหลือถูกเผาเกลี้ยง
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
วันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นาย
สมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม นางสาว
อาภา รัตนพิทักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด นาย
สมหวาน ลาวงษ์ นายกอบต.ดงขวาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ร่วมให้กำลังใจกับครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ที่เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิด จ.นครพนม เป็นชุดแรก คือ นาย
วีรพล หลับจันทร์ หรือน้องก็อปอายุ 34 ปี ชาวบ้านดงต้อง ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว คือ นาย
กล้าหาญ หลับจันทร์ อายุ 60 ปี พ่อน้องก็อป และญาติพี่น้อง ส่วนแม่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน พร้อมจัดพิธีผูกแขนตามประเพณีความเชื่อ เป็นการรับขวัญ ถือเป็น 1 ใน 2 แรงงานไทย ชาว จ.นครพนม ที่ได้กลับมาบ้านเกิดนครพนม อย่างปลอดภัยในชุดแรก
ทั้งนี้ นาย
วีรพล หลับจันทร์ หรือ น้องก็อป อายุ 34 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่ารอดมาอย่างปาฏิหาริย์ โดยช่วงเกิดเหตุวันแรก ถูกทหารฮามาสเข้าโจมตีแคมป์คนงานในฟาร์มเกษตรแห่งหนึ่งติดชายแดนฉนวนกาซา ยอมรับว่าทหารฮามาสมีพฤติมกรรมโหดมาก มั่นใจว่าหวังเอาชีวิตแรงงานไทยทั้งหมดในแคมป์คนงาน รวมกว่า 10 ชีวิต รวมถึงจู่โจมเข้าทำร้ายแรงงานไทยอีกหลายจุด
ในส่วนของแคมป์ตนโดนทั้งกราดยิง ปาระเบิดเข้าที่พัก รวมถึงราดน้ำมันเผาซ้ำ มีบาดเจ็บ เสียชีวิตหลายคน ส่วนตนกับเพื่อน 4 – 5 คน ตัดสินใจวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ฝ่ากระสุนลูกปืนรอดราวปาฏิหาริย์ หลบหนีเข้าป่าด้านหลังแคมป์ และยังพบทหารฮามาสลาดตระเวนเคลียร์พื้นที่หวังทำร้ายแรงงานไทยที่รอดชีวิต จนกระทั่งต้องนอนหลบในป่าแกล้งตาย นอนนิ่ง ตั้งแต่ 18.00 น.วันเกิดเหตุ (7 ตุลาคม) จนถึง 11.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม จนมีทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิต ไม่สามารถนำทรัพย์สินมีค่า ออกมาได้ เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว กับโทรศัพท์มือถือ
โชคดีโทรศัพท์มือถือบันทึกเอกสารสำคัญไว้ ไม่กังวลเรื่องภาระหนี้สิน หลังไปทำงานแค่ 4 -5 เดือน เหลือหนี้อีกกว่าครึ่งแสน ขอแค่เอาชีวิตกลับมาหาครอบครัวถือว่าดีใจมากแล้ว หากถามว่าจะกลับไปทำงานอีกหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ไป ขอทำงานใช้หนี้ที่ประเทศไทย ขอบคุณทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ
จีนส่งผู้แทนพิเศษเยือนตะวันออกกลาง ผลักดันสันติภาพ
https://www.dailynews.co.th/news/2809031/
กระทรวงการต่างประเทศจีนส่งผู้แทนการทูตเยือนตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันกระบวนการสันติภาพ ขณะที่ "หวัง อี้" เรียกร้องโลกตะวันตก "เป็นกลาง"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศจีนเตรียมส่งนาย
จ๋าย จวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลาง เดินทางเยือนหลายประเทศในตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และสร้างสันติภาพโดยรวมในตะวันออกกลาง
ขณะที่นาย
จ๋ายให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ( ซีซีทีวี ) ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ณ เวลานี้ น่าวิตกกังวลอย่างมาก ว่าอาจลุกลามบานปลาย
ด้านนาย
หวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนาย
แอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ว่า “
มีความเสี่ยง” ที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส “
จะขยายวงกว้างจนยากเกินควบคุม” ทั้งนี้ ในมุมมองของจีนถือว่า “
เป็นสิทธิอันชอบธรรม” ของทุกประเทศ ที่จะปกป้องอธิปไตยของตัวเอง แต่การใช้มาตรการใดก็ตาม ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้
หวังเน้นย้ำจุดยืนของจีน สนับสนุนหลักการสองรัฐ ที่เป็นดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติของอิสราเอลและปาเลสไตน์ และเรียกร้องกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ตลอดจนกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ “
มีความเป็นธรรม การรักษาสันติสุขและความอดกลั้น” ตลอดจนการเป็นผู้นำ ในการผดุงไว้ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศ
การแสดงทรรศนะดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนเกิดขึ้น เวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดี
โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี
เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล และประธานาธิบดี
มาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ โดยในส่วนของอิสราเอล
ไบเดนยืนยันการเดินหน้ามอบความสนับสนุนของสหรัฐให้ทุกด้าน ส่วนกับ
อับบาส ไบเดนประณามกลุ่มฮามาสว่า “
ไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์”.
JJNY : อิสราเอลเตรียมโจมตีกาซา│น้องก็อปเล่า ฮามาสยิงกราด-ปาระเบิดก่อนเผาซ้ำ│จีนส่งผู้แทนเยือนตอ.กลาง│"สมชัย" เรียกขวัญ
https://www.dailynews.co.th/news/2808900/
กองทัพอิสราเอลเตรียมใช้ยุทธิวิธี โจมตีฉนวนกาซาจากทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล พร้อมส่งทหาร 10,000 นาย บุกเข้าพื้นที่ เพื่อสังหารหัวหน้าฮามาสในฉนวนกาซา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนทหารบางส่วน ซึ่งประจำการในเขตทางใต้ของประเทศ ใกล้กับฉนวนกาซา โดยเนทันยาฮูกล่าวให้ทหาร “เตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการขั้นต่อไป” แต่ยังไม่มีการขยายความ
ขณะที่กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเตรียมพร้อม “ปฏิบัติการจู่โจมฉนวนกาซา ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ” แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด หลัง “เส้นตาย 24 ชั่วโมง” ในการให้ประชาชนมากกว่า 1.1 ล้านคน ในภาคเหนือของฉนวนกาซา ต้องอพยพจากเหนือลงใต้ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางออกจากพื้นที่ และบางส่วนสมัครใจอยู่ต่อ
ประชาชนในฉนวนกาซาช่วยกันดับไฟที่อาคารหลังหนึ่ง ซึ่งพังถล่มหลังปฏิบัติการโจมตีของกองทัพอิสราเอล
ด้านเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอล ว่ากองทัพเตรียมส่งทหาร 10,000 นาย ยึดเมืองกาซาซิตี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางเหนือของฉนวนกาซา เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส และเหนือสิ่งอื่นใด คือการสังหารนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่อิสราเอลเชื่อว่า ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่
https://twitter.com/TOIAlerts/status/1713355146590388705
น้องก็อปเล่าแกล้งตาย 17 ชม. ถูกกลุ่มฮามาสยิงกราด-ปาระเบิด ก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ
https://www.matichon.co.th/region/news_4232514
น้องก็อป เล่านาทีกลุ่มฮามาสุดเหี้ยมกราดยิง-ปาระเบิดเข้าที่พัก ก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ หวังเอาให้ตายยกแคมป์ ตัดสินใจวิ่งหนีเข้าป่าหลังแคมป์ ก่อนทำแกล้งตาย 17 ชม. ถึงรอด เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัวกับมือถือ ที่เหลือถูกเผาเกลี้ยง
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม นางสาวอาภา รัตนพิทักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด นายสมหวาน ลาวงษ์ นายกอบต.ดงขวาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ร่วมให้กำลังใจกับครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ที่เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิด จ.นครพนม เป็นชุดแรก คือ นายวีรพล หลับจันทร์ หรือน้องก็อปอายุ 34 ปี ชาวบ้านดงต้อง ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว คือ นายกล้าหาญ หลับจันทร์ อายุ 60 ปี พ่อน้องก็อป และญาติพี่น้อง ส่วนแม่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน พร้อมจัดพิธีผูกแขนตามประเพณีความเชื่อ เป็นการรับขวัญ ถือเป็น 1 ใน 2 แรงงานไทย ชาว จ.นครพนม ที่ได้กลับมาบ้านเกิดนครพนม อย่างปลอดภัยในชุดแรก
ทั้งนี้ นายวีรพล หลับจันทร์ หรือ น้องก็อป อายุ 34 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่ารอดมาอย่างปาฏิหาริย์ โดยช่วงเกิดเหตุวันแรก ถูกทหารฮามาสเข้าโจมตีแคมป์คนงานในฟาร์มเกษตรแห่งหนึ่งติดชายแดนฉนวนกาซา ยอมรับว่าทหารฮามาสมีพฤติมกรรมโหดมาก มั่นใจว่าหวังเอาชีวิตแรงงานไทยทั้งหมดในแคมป์คนงาน รวมกว่า 10 ชีวิต รวมถึงจู่โจมเข้าทำร้ายแรงงานไทยอีกหลายจุด
ในส่วนของแคมป์ตนโดนทั้งกราดยิง ปาระเบิดเข้าที่พัก รวมถึงราดน้ำมันเผาซ้ำ มีบาดเจ็บ เสียชีวิตหลายคน ส่วนตนกับเพื่อน 4 – 5 คน ตัดสินใจวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ฝ่ากระสุนลูกปืนรอดราวปาฏิหาริย์ หลบหนีเข้าป่าด้านหลังแคมป์ และยังพบทหารฮามาสลาดตระเวนเคลียร์พื้นที่หวังทำร้ายแรงงานไทยที่รอดชีวิต จนกระทั่งต้องนอนหลบในป่าแกล้งตาย นอนนิ่ง ตั้งแต่ 18.00 น.วันเกิดเหตุ (7 ตุลาคม) จนถึง 11.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม จนมีทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือจนรอดชีวิต ไม่สามารถนำทรัพย์สินมีค่า ออกมาได้ เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว กับโทรศัพท์มือถือ
โชคดีโทรศัพท์มือถือบันทึกเอกสารสำคัญไว้ ไม่กังวลเรื่องภาระหนี้สิน หลังไปทำงานแค่ 4 -5 เดือน เหลือหนี้อีกกว่าครึ่งแสน ขอแค่เอาชีวิตกลับมาหาครอบครัวถือว่าดีใจมากแล้ว หากถามว่าจะกลับไปทำงานอีกหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ไป ขอทำงานใช้หนี้ที่ประเทศไทย ขอบคุณทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ
จีนส่งผู้แทนพิเศษเยือนตะวันออกกลาง ผลักดันสันติภาพ
https://www.dailynews.co.th/news/2809031/
กระทรวงการต่างประเทศจีนส่งผู้แทนการทูตเยือนตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันกระบวนการสันติภาพ ขณะที่ "หวัง อี้" เรียกร้องโลกตะวันตก "เป็นกลาง"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศจีนเตรียมส่งนายจ๋าย จวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลาง เดินทางเยือนหลายประเทศในตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และสร้างสันติภาพโดยรวมในตะวันออกกลาง
ขณะที่นายจ๋ายให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ( ซีซีทีวี ) ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ณ เวลานี้ น่าวิตกกังวลอย่างมาก ว่าอาจลุกลามบานปลาย
ด้านนายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ว่า “มีความเสี่ยง” ที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส “จะขยายวงกว้างจนยากเกินควบคุม” ทั้งนี้ ในมุมมองของจีนถือว่า “เป็นสิทธิอันชอบธรรม” ของทุกประเทศ ที่จะปกป้องอธิปไตยของตัวเอง แต่การใช้มาตรการใดก็ตาม ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ หวังเน้นย้ำจุดยืนของจีน สนับสนุนหลักการสองรัฐ ที่เป็นดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติของอิสราเอลและปาเลสไตน์ และเรียกร้องกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ตลอดจนกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ “มีความเป็นธรรม การรักษาสันติสุขและความอดกลั้น” ตลอดจนการเป็นผู้นำ ในการผดุงไว้ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศ
การแสดงทรรศนะดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนเกิดขึ้น เวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล และประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ โดยในส่วนของอิสราเอล ไบเดนยืนยันการเดินหน้ามอบความสนับสนุนของสหรัฐให้ทุกด้าน ส่วนกับอับบาส ไบเดนประณามกลุ่มฮามาสว่า “ไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์”.