ผิดแผนอเมริกา! แหล่งข่าวเผยสงครามยิว-ฮามาสทำซาอุฯ เบรกแผน ‘ฟื้นสัมพันธ์’ อิสราเอล-หันหน้าคุย ‘อิหร่าน

ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจชะลอแผนฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติกับอิสราเอลที่มีสหรัฐฯ เป็นตัวผลักดัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าริยาดกำลังหันมาทบทวนนโยบายต่างประเทศ หลังเกิดสงครามนองเลือดขึ้นระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล 

เหตุสู้รบซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ยังบีบให้ซาอุดีอาระเบียต้องเจรจาพูดคุยกับ “อิหร่าน” มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงต่อสายคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่านเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ เพื่อหาหนทางยับยั้งความขัดแย้งที่ส่อแววจะลุกลามไปสู่ภูมิภาค 

แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลซาอุฯ 2 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า การเจรจาฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะช่วยให้ริยาดสามารถบรรลุข้อตกลงด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ อาจจะต้อง “ชะลอ” ออกไปก่อน 

ก่อนหน้านี้ ผู้นำอิสราเอลและซาอุฯ ออกมายอมรับว่าทั้ง 2 ชาติกำลังมุ่งหน้าไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่อาจจะพลิกโฉมการเมืองตะวันออกกลางไปอย่างสิ้นเชิง 

ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นต้นกำเนิดของศาสนาอิสลาม และยังเป็นที่ตั้งศาสนสถานสำคัญที่สุด 2 แห่งของชาวมุสลิม เคยแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้อะไรมาเป็นตัวขัดขวางการทำข้อตกลงกลาโหมกับสหรัฐฯ แม้อิสราเอลจะยังไม่ส่งสัญญาณประนีประนอมใดๆ เลยเกี่ยวกับการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ก็ตาม
กระนั้นก็ดี การทอดทิ้งชาวปาเลสไตน์ไว้ข้างหลังเช่นนี้เสี่ยงที่จะกระพือความโกรธกริ้วในหมู่ชาติอาหรับอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสื่ออาหรับต่างประโคมข่าวและเผยแพร่ภาพพลเรือนปาเลสไตน์ที่บาดเจ็บล้มตายเป็นเบือจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล 

การจู่โจมภาคใต้ของอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสคร่าได้ชีวิตชาวอิสราเอลไปกว่า 1,300 คน ในขณะที่ฝั่งปาเลสไตน์ก็สูญเสียชีวิตพลเรือนไปแล้วมากกว่า 1,500 คนตามข้อมูลเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) 

แหล่งข่าวใกล้ชิดริยาดรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า การเจรจากับอิสราเอลยังไปต่อไม่ได้ในตอนนี้ และหากจะมีการพูดคุยกันในอนาคต ทางซาอุฯ คาดหวังว่าอิสราเอลจะต้องยอมประนีประนอมกับชาวปาเลสไตน์มากขึ้น --- ซึ่งก็แปลว่าริยาดยังไม่ได้ล้มเลิกแผนปรองดองรัฐยิวเสียทีเดียว
 
ล่าสุด รัฐบาลซาอุฯ ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานของรอยเตอร์
การหยุดทบทวนนโยบายของซาอุฯ ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงอุปสรรคและความท้าทายที่สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญในการสนับสนุนให้อิสราเอลได้รับการยอมรับจากบรรดาชาติอาหรับในตะวันออกกลาง ซึ่งยังถือว่าการกดขี่ชาวปาเลสไตน์เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไข 

“การฟื้นความสัมพันธ์ (กับอิสราเอล) ถูกมองว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (ในโลกอาหรับ) อยู่แล้ว และสงครามครั้งนี้ก็ทำให้แนวคิดดังกล่าวรุนแรงขึ้นไปอีก” 
 
อาซิซ อัลกอเชียน นักวิเคราะห์ชาวซาอุฯ ให้ความเห็นกับรอยเตอร์
สหรัฐฯ ต้องการเดินหน้าผลักดันข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords) หลังจากที่สามารถเกลี้ยกล่อมให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และบาห์เรนยอมสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอลไปแล้วก่อนหน้านี้ 

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในสัปดาห์นี้ว่า กระบวนการฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ-อิสราเอล “ไม่ได้หยุดชะงัก” แต่อย่างใด ทว่าจำเป็นที่จะต้องมุ่งความสนใจไปยังปัญหาเฉพาะหน้าก่อน 

แหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า สหรัฐฯ เคยพยายามกดดันให้ริยาดออกมาแถลงประณามกลุ่มฮามาส แต่เจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ปฏิเสธที่จะทำตาม ซึ่งเรื่องนี้แหล่งข่าวอีกคนในสหรัฐฯ ยืนยันว่าเป็นความจริง
ที่มา : รอยเตอร์
https://mgronline.com/around/detail/9660000092701
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่