พุทธ,คริสต์,อิสลาม เริ้มด้วยพุทธศาสนาครับ
จุดจบยุคมนุษย์และโลกองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสต่อไป บอกว่า อายุมนุษย์จะลดลงๆ จนถึงจุดหนึ่ง อายุมนุษย์จะเหลือเฉลี่ยเพียงแค่ 10 ปี แล้วตอนนั้นแหละ จะมีอาการที่เขาเรียกว่า มิคสัญญี
มิค แปลว่า เนื้อ, กวาง
มิคสัญญี ก็คือ ยุคที่คนเห็นคนด้วยกันนี้เหมือนอย่างเห็นเนื้อ เห็นกวาง จะตามล่าตามล้างกัน เข่นฆ่ากันเป็นว่าเล่น หรือที่พูดกันว่า เห็นชีวิตเป็นผักเป็นปลา แม้แต่พ่อกับลูกก็ฆ่ากัน แม่กับลูกก็ฆ่ากัน ผัวกับเมียก็ฆ่ากัน พี่น้องก็ฆ่ากัน ที่ไหนมีคนอยู่ด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ที่นั้นจะต้องฆ่ากัน อยู่ไม่ได้ พอเป็นอย่างนั้นเข้า คนที่รู้ตัวเริ่มคิดได้แล้วว่า เอ๊ะ!...ไม่ถูกนะ คนเราลงมาระแวงกันขนาดนี้ก็อยู่กันไม่ได้แล้ว เลยเข้าป่าไปเลย พวกนื้ก็เลยไม่มีโอกาสได้ฆ่าใคร
หลังจากมนุษย์เข่นฆ่ากันมากเข้า ๆ ฆ่ากันตายไปตั้งครึ่งค่อนโลก บางคนก็เลยได้คิดว่า การฆ่ากันนี่ไม่ดีเลย การดูถูกกันนี่ไม่ดีเลย การเหยียดหยามกันนี่ไม่ดีเลย แล้วพวกนี้ก็เริ่มรักษาศีลกันใหม่
มนุษย์เริ่มรักษาศีลอีกครั้ง
เมื่อมนุษย์เห็นคุณค่าของศีลห้า พากันรักษาศีลห้าขึ้นเรื่อย ๆ รักษาไปจนตลอดชีวิต จิตใจของมนุษย์ก็ดีขึ้น มลภาวะมีอยู่ในโลกก็ลดน้อยลง
เมื่อเป็นอย่างนี้ อายุมนุษย์ในยุคนั้นตั้งแต่แค่สิบปีในรุ่นนั้น ก็เพิ่มขึ้นในรุ่นต่อๆ มา คนยังรักษาศีลกันอีกเรื่อยๆ อายุของมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นลำ ดับๆ ไป เป็นอย่างนี้จนกระทงเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านๆ ปีขึ้นไป
นี่คือการเกิดขึ้น ทรงอยู่ เสื่อม ดับไป แล้วก็เจริญ เจริญแล้วก็เสื่อม มีอยู่ในโลกนี้ตลอดมา
มหากัป คือ ระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป โดยในไตรภูมิกถามีระบุว่ามีการล้างบางโลก สวรรค์ และชั้นพรหมบางส่วน ด้วยไฟปะลัยกันน้ำปะลัยกันและลมปะลัยกันจาก อันเกิดจาก ราคะ โทสะ โมหะ


ต่อไปของคริสต์ศาสนา
“วันสิ้นโลก” หมายถึงยุคสุดท้ายที่ #พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกครั้งที่2
สาวกของพระเยซูถามพระเยซูว่า อะไรจะเป็นหมายสำคัญ หรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าวันสิ้นสุดของโลกจะมาถึง
…“ขอโปรดให้พวกข้าพระองค์ทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
และอะไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง?”
มัทธิว 24:3
#ข้อสรุปสัญญาณเตือน ที่บอกว่าวันสิ้นสุดของโลกที่จะมาถึงตามนี้…
(ระหว่างที่อ่านทุกสัญญาณที่พระเยซูบอกไว้ ตอนที่พระองค์ยังอยู่บนโลกนี้ นั่นหมายถึงเมื่อ 2 พันกว่าปีก่อน)
1. ชนชาติยิวหรือ #อิสราเอลจะกลับมารวมกันเป็นประเทศอีกครั้ง (มัทธิว24:32-35)
เมื่อ 586 ปีก่อนพระเยซูจะเสด็จลงมาเกิดนั้น ชนชาติยิวหลงลืมพระเจ้าและพระองค์ได้อนุญาตให้อาณาจักรบาบิโลนซึ่งรุ่งเรืองมากในสมัยนั้นยกทัพมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็มและจับพวกเขาไปเป็นเชลย ในยุคต่อๆมาชาวยิวจึงแตกกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วโลก และเมื่อ 2000 ปีก่อน พระเยซูได้ตรัสไว้ว่า…เมื่อไรก็ตามที่อิสราเอลกลับมาตั้งประเทศได้อีกครั้ง จะไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้อีก และเมื่อท่านเห็นเช่นนั้นเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าใกล้วันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1948 #อิสราเอลได้กลับมาเป็นประเทศอีกครั้ง โดยมีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคน ในเดือนมิถุนายน 1967 อาหรับ 5 ประเทศซึ่งมีประชากรกว่า 200,000,000 คนได้รวมตัวกันทำสงครามกับอิสราเอลซึ่งมีประชากรไม่ถึงหนึ่งล้านคนเป็นเวลา 7 วัน ผลปรากฎว่าอิสราเอลขยี้อาหรับจนสิ้นฤทธิ์
2. #มีคนอ้างตัวว่า”…#ฉันคือพระเยซู” (มัทธิว 24:5)
เช่น จิม โจนส์ ,เดวิท โคเรซ และอีกหลายคน
3. #เกิดสงคราม และข่าวลือเรื่องสงคราม (มัทธิว 24:6)
ก่อนวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ประเทศต่างๆในโลกจะมีการแย่งชิงอำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยการทำสงครามกัน จะมีการเกลียดชัง และเอาเปรียบกันซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่รุนแรง นับแต่วันที่พระเจ้าสร้างโลกใบนี้มา ไม่มีสงครามใดจะใหญ่โตเลย จนกระทั่ง
– ศตวรรษที่ 20 ก็ได้อุบัติสงครามโลกครั้งที่ 1 (ปี 1914 – 1917 ) และสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939 – 1945) ปะทุขึ้น มีคนเสียชีวิตมากว่า 29,000,000 คน
– สงครามเกาหลี (1950 – 1953 ) และสงครามเวียตนาม (1968 – 1972) ได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 10,000,000 คน
ปัจจุบันมีการสู้รบกันประปรายในประเทศต่างๆทั่วโลกไม่น้อยกว่า 20 สงครามในทุกๆวัน
4. #เกิดแผ่นไหวในที่ต่างๆทั่วโลก (มัทธิว 24:7)
พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆเลยทีเดียว
– ปี ค.ศ. 1000 – 1008 มีแผ่นดินไหว 21 ครั้ง (ในช่วงระยะเวลา 800 ปี)
– ปี 1800 – 1900 มีแผ่นดินไหว 18 ครั้ง (เป็นเวลา 100 ปี)
– ปี 1900 – 1950 มีแผ่นดินไหว 33 ครั้ง (50 ปี)
– ปี 1950 – 1990 มีแผ่นดินไหว 93 ครั้ง (40 ปี)
– ปี 1990 – 1999 มีแผ่นดินไหว 103 ครั้ง (9 ปี)
5. #เกิดการกันดารอาหาร (มัทธิว 24:7)
ในปี 1999 ประชากรโลกมี 6 พันล้านคนนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าอีก 50 ปีข้างหน้าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไปจากโลกนี้ และทุกวันนี้ประเทศเอธิโอเปียมีคนตายเพราะขาดอาหารวันละ 3,000 คน
6. #เกิดการสอนเรื่องพระเจ้าแบบผิดเพี้ยนไป (มัทธิว 24:23-24)
พวกเขาจะล่อลวงให้ผู้เชื่อและติดตามคำสอนที่เขาคิดขึ้นมาเอง
7. #เกิดโรคระบาด และโรคร้ายที่รุนแรงขึ้น (ลูกา 21:11)
ปัจจุบันโรคเอดส์ โรคอีโบล่า โรคฝีดาษลิง ล้วนแต่เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาให้หายได้ และโรคใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้คือ covid-19
8. #ความรู้ของมนุษย์จะทวีมากขึ้น (ดาเนียล 12:4)
มนุษย์ในปัจจุบันไม่เพียงรู้วิธีที่จะเดินทางข้ามทวีปได้ แต่เรารู้แล้วว่า เราสามารถออกไปนอกโลกได้อย่างไร
9. #ความบาปจะทวีความรุนแรงมากขึ้น (มัทธิว 24:12)
การล่วงประเวณี การกระทำผิดเรื่องเพศ การฆ่ากัน การทะเลาะวิวาท กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม ตามข่าวเราจะเห็นการเข่นฆ่าที่โหดร้ายและรุนแรงมากมายเรื่อยๆ จนเราต้องสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันจริงๆหรือ
10. #เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูจะถูกประกาศออกไปทั่วโลก (มัทธิว 24:14)
หลังจากคำทำนายทั้ง 10 ประการ ได้สำเร็จแล้ว วันนั้นโลกของเราใบนี้จะต้อง …ถูกเผาผลาญด้วยไฟบรรลัยกัลป์ และหลังจากนั้นดวงตาทุกคู่ของมนุษย์ จะได้เห็นการพิพากษาอันเที่ยงธรรมของพระเยซูคริสต์ (2เปโตร 3:10)

ต่อมาของศาสนาอิสลามครับ
วันสิ้นโลกขของศาสนาอิสลามเรียกว่า วันกิยามะฮฺ ไม่มีมนุษย์คนไหนทราบแน่นอน ผู้ทรงทราบมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นคือ องค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่มีสัญญานบ่งบอกมีสัญญานเล็กและสัญญานใหญ่
ท่านเชค อาลี อาลี มุฮำหมัด ได้กล่าวถึง สัญญาณวันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก)ไว้ในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า " อัชร็อต อัซซาอะห์ " ดังต่อไปนี้
สัญญาณเล็กของวันกิยามะฮฺ ได้แก่:
1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
2. ลมพายุจะรุนแรง
3. ความตายจะดาษดื่น(จากโรคร้าย) และความตายโดยฉับพลัน
4. มนุษย์จะแข่งกันประดับประดา มัสยิด
5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจกลับถูกบิดพลิ้ว
7. การผิดประเวณี(ซีนา)จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย
8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
9. ในมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก
10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
11. ความวุ่นวายจะเกิดทุกหัวระแหง
12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
13. อุตริกรรม(บิดอะห์)จะปรากฏชัด
14. ความอายจะน้อยลง
15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือสตรี
16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
17. ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
18. ผู้คนจะอ่านอัลกรุอานอย่างไพเราะ (ขาดการปฏิบัติตาม)
19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺจะมีมาก
21. การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
22. ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด
23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์ กิเลสและตัณหา
24. บุรุษจะถูกทำลายเพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
25. มนุษย์จะตัดญาติขาดมิตร
26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
27. ประชาชาติจะแตกแยกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งปีหนึ่งเหมือนหนึ่งเดือน และเดือนหนึ่ง เหมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน
29. การแต่งงานมีขึ้นเพราะสมบัติเป็นเหตุ
30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
31. การตลาดจะฝืดเคือง
32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
33. ความรับผิดชอบจะหายไป
34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก(ดุนยา)
35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
36. ทานบังคับ(ซะกาต)ถูกนำมาจ่ายเป็นค่าแรง
37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม(บนมิมบัร)
39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
43. ความบริสุทธิ์ใจจะหายไปจากการงาน
44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
45. การพนันจะมีมาก
46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น(ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรกและหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮฺ
สัญญาณใหญ่ของวันกิยามะฮฺ ได้แก่
1. อิหม่ามมะห์ดีจะปรากฏตัว
2. ดัจญาลเผยโฉม
3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย
เมื่อถึงวันกิยามะฮฺ จะมีลำดับเหตุการณ์ตามรูป

เมือถึงวันกิยามะฮฺมลาอิกะห์(ทูตรสวรรค์) อิสรอฟีลจะเป่าสังข์และทุกสิ่งบนแผ่นดินจะพังทลายคล้ายๆไฟปะลัยกันทำลายล้างนั้นแหละ
จากนั้นอัลลอฮฺได้ทำให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพจากกุโบร (หลุมศพ) ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์หลังจากนั้นมนุษย์จะชุมนุมกันและไปขอความช่วยเหลือจากท่านนบีต่างๆ

จากนั้นชั้นฟ้าและท้องฟ้าถูกแยกออกจากนั้นมลาอิกะห์จำนวนมหาศาลก็ลงมาที๋โลกพร้อมกับบังลังก์ของอัลลอฮฺ สิ่งทรงทร้างของพระองค์จะถูกรวบรวมอยู่ตรงกลางโลกและหนีไปไหนไม่ได้จากนั้นอัลลอฮฺได้ยกนรกญะฮันนัมขึ้นมาบนโลก ของนรกญะฮันนัมนั้นไม่ใช้แค่ขุมไฟที่ลังเผาไหม้แต่เป็นดังสัตว์ประหลาดที่คำรามซึ่งความน่าสะพรึงกลัวของนรกญะฮันนัมนั้นแม้ว่าท่านจะมีความดีเท่ากับท่านนบี 70 ท่านก็ไม่อาจต้านทานความกลัวนรกญะฮันนัมนี้ได้
ทั้งผู้ศรัทธาและไม่ศรัทธาจะได้เห็นนรกและจะหมอบลงและกล่าวประโยคพร้อมกันว่า "โอ้อัลลอฮฺช่วยพวกเราด้วย"
จะมีมนุษย์ทีได้เข้าสวรรค์ก่อนโดยที่ไม่ต้องรอตัดสินจากอัลลอฮฺ และตกนรกโดยไม่ต้องรอตัดสินเช่นกันโดยที่สัตว์ประหลากจากนรกหันหน้าไปที่ใครคนนั้นจะตกนรกทันที

ผู้ที่ได้รับเลือกให้ผ่านการพิพากษาจากอัลลอฮฺ จะมีลำดับเหตุการณ์ที่แสดงในภาพด้านบน
และจะต้องผ่านการทดสอบศรัทธาและข้ามสะพานสู่สวรรค์
ลำดับเหตุการณ์จุดจบของโลก ของศาสนาต่างๆ
จุดจบยุคมนุษย์และโลกองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสต่อไป บอกว่า อายุมนุษย์จะลดลงๆ จนถึงจุดหนึ่ง อายุมนุษย์จะเหลือเฉลี่ยเพียงแค่ 10 ปี แล้วตอนนั้นแหละ จะมีอาการที่เขาเรียกว่า มิคสัญญี
มิค แปลว่า เนื้อ, กวาง
มิคสัญญี ก็คือ ยุคที่คนเห็นคนด้วยกันนี้เหมือนอย่างเห็นเนื้อ เห็นกวาง จะตามล่าตามล้างกัน เข่นฆ่ากันเป็นว่าเล่น หรือที่พูดกันว่า เห็นชีวิตเป็นผักเป็นปลา แม้แต่พ่อกับลูกก็ฆ่ากัน แม่กับลูกก็ฆ่ากัน ผัวกับเมียก็ฆ่ากัน พี่น้องก็ฆ่ากัน ที่ไหนมีคนอยู่ด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ที่นั้นจะต้องฆ่ากัน อยู่ไม่ได้ พอเป็นอย่างนั้นเข้า คนที่รู้ตัวเริ่มคิดได้แล้วว่า เอ๊ะ!...ไม่ถูกนะ คนเราลงมาระแวงกันขนาดนี้ก็อยู่กันไม่ได้แล้ว เลยเข้าป่าไปเลย พวกนื้ก็เลยไม่มีโอกาสได้ฆ่าใคร
หลังจากมนุษย์เข่นฆ่ากันมากเข้า ๆ ฆ่ากันตายไปตั้งครึ่งค่อนโลก บางคนก็เลยได้คิดว่า การฆ่ากันนี่ไม่ดีเลย การดูถูกกันนี่ไม่ดีเลย การเหยียดหยามกันนี่ไม่ดีเลย แล้วพวกนี้ก็เริ่มรักษาศีลกันใหม่
มนุษย์เริ่มรักษาศีลอีกครั้ง
เมื่อมนุษย์เห็นคุณค่าของศีลห้า พากันรักษาศีลห้าขึ้นเรื่อย ๆ รักษาไปจนตลอดชีวิต จิตใจของมนุษย์ก็ดีขึ้น มลภาวะมีอยู่ในโลกก็ลดน้อยลง
เมื่อเป็นอย่างนี้ อายุมนุษย์ในยุคนั้นตั้งแต่แค่สิบปีในรุ่นนั้น ก็เพิ่มขึ้นในรุ่นต่อๆ มา คนยังรักษาศีลกันอีกเรื่อยๆ อายุของมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นลำ ดับๆ ไป เป็นอย่างนี้จนกระทงเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้านๆ ปีขึ้นไป
นี่คือการเกิดขึ้น ทรงอยู่ เสื่อม ดับไป แล้วก็เจริญ เจริญแล้วก็เสื่อม มีอยู่ในโลกนี้ตลอดมา
มหากัป คือ ระยะเวลาที่โลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป โดยในไตรภูมิกถามีระบุว่ามีการล้างบางโลก สวรรค์ และชั้นพรหมบางส่วน ด้วยไฟปะลัยกันน้ำปะลัยกันและลมปะลัยกันจาก อันเกิดจาก ราคะ โทสะ โมหะ
ต่อไปของคริสต์ศาสนา
“วันสิ้นโลก” หมายถึงยุคสุดท้ายที่ #พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกครั้งที่2
สาวกของพระเยซูถามพระเยซูว่า อะไรจะเป็นหมายสำคัญ หรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าวันสิ้นสุดของโลกจะมาถึง
…“ขอโปรดให้พวกข้าพระองค์ทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
และอะไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง?”
มัทธิว 24:3
#ข้อสรุปสัญญาณเตือน ที่บอกว่าวันสิ้นสุดของโลกที่จะมาถึงตามนี้…
(ระหว่างที่อ่านทุกสัญญาณที่พระเยซูบอกไว้ ตอนที่พระองค์ยังอยู่บนโลกนี้ นั่นหมายถึงเมื่อ 2 พันกว่าปีก่อน)
1. ชนชาติยิวหรือ #อิสราเอลจะกลับมารวมกันเป็นประเทศอีกครั้ง (มัทธิว24:32-35)
เมื่อ 586 ปีก่อนพระเยซูจะเสด็จลงมาเกิดนั้น ชนชาติยิวหลงลืมพระเจ้าและพระองค์ได้อนุญาตให้อาณาจักรบาบิโลนซึ่งรุ่งเรืองมากในสมัยนั้นยกทัพมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็มและจับพวกเขาไปเป็นเชลย ในยุคต่อๆมาชาวยิวจึงแตกกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วโลก และเมื่อ 2000 ปีก่อน พระเยซูได้ตรัสไว้ว่า…เมื่อไรก็ตามที่อิสราเอลกลับมาตั้งประเทศได้อีกครั้ง จะไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้อีก และเมื่อท่านเห็นเช่นนั้นเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าใกล้วันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1948 #อิสราเอลได้กลับมาเป็นประเทศอีกครั้ง โดยมีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคน ในเดือนมิถุนายน 1967 อาหรับ 5 ประเทศซึ่งมีประชากรกว่า 200,000,000 คนได้รวมตัวกันทำสงครามกับอิสราเอลซึ่งมีประชากรไม่ถึงหนึ่งล้านคนเป็นเวลา 7 วัน ผลปรากฎว่าอิสราเอลขยี้อาหรับจนสิ้นฤทธิ์
2. #มีคนอ้างตัวว่า”…#ฉันคือพระเยซู” (มัทธิว 24:5)
เช่น จิม โจนส์ ,เดวิท โคเรซ และอีกหลายคน
3. #เกิดสงคราม และข่าวลือเรื่องสงคราม (มัทธิว 24:6)
ก่อนวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ประเทศต่างๆในโลกจะมีการแย่งชิงอำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยการทำสงครามกัน จะมีการเกลียดชัง และเอาเปรียบกันซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่รุนแรง นับแต่วันที่พระเจ้าสร้างโลกใบนี้มา ไม่มีสงครามใดจะใหญ่โตเลย จนกระทั่ง
– ศตวรรษที่ 20 ก็ได้อุบัติสงครามโลกครั้งที่ 1 (ปี 1914 – 1917 ) และสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939 – 1945) ปะทุขึ้น มีคนเสียชีวิตมากว่า 29,000,000 คน
– สงครามเกาหลี (1950 – 1953 ) และสงครามเวียตนาม (1968 – 1972) ได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 10,000,000 คน
ปัจจุบันมีการสู้รบกันประปรายในประเทศต่างๆทั่วโลกไม่น้อยกว่า 20 สงครามในทุกๆวัน
4. #เกิดแผ่นไหวในที่ต่างๆทั่วโลก (มัทธิว 24:7)
พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆเลยทีเดียว
– ปี ค.ศ. 1000 – 1008 มีแผ่นดินไหว 21 ครั้ง (ในช่วงระยะเวลา 800 ปี)
– ปี 1800 – 1900 มีแผ่นดินไหว 18 ครั้ง (เป็นเวลา 100 ปี)
– ปี 1900 – 1950 มีแผ่นดินไหว 33 ครั้ง (50 ปี)
– ปี 1950 – 1990 มีแผ่นดินไหว 93 ครั้ง (40 ปี)
– ปี 1990 – 1999 มีแผ่นดินไหว 103 ครั้ง (9 ปี)
5. #เกิดการกันดารอาหาร (มัทธิว 24:7)
ในปี 1999 ประชากรโลกมี 6 พันล้านคนนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าอีก 50 ปีข้างหน้าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไปจากโลกนี้ และทุกวันนี้ประเทศเอธิโอเปียมีคนตายเพราะขาดอาหารวันละ 3,000 คน
6. #เกิดการสอนเรื่องพระเจ้าแบบผิดเพี้ยนไป (มัทธิว 24:23-24)
พวกเขาจะล่อลวงให้ผู้เชื่อและติดตามคำสอนที่เขาคิดขึ้นมาเอง
7. #เกิดโรคระบาด และโรคร้ายที่รุนแรงขึ้น (ลูกา 21:11)
ปัจจุบันโรคเอดส์ โรคอีโบล่า โรคฝีดาษลิง ล้วนแต่เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาให้หายได้ และโรคใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้คือ covid-19
8. #ความรู้ของมนุษย์จะทวีมากขึ้น (ดาเนียล 12:4)
มนุษย์ในปัจจุบันไม่เพียงรู้วิธีที่จะเดินทางข้ามทวีปได้ แต่เรารู้แล้วว่า เราสามารถออกไปนอกโลกได้อย่างไร
9. #ความบาปจะทวีความรุนแรงมากขึ้น (มัทธิว 24:12)
การล่วงประเวณี การกระทำผิดเรื่องเพศ การฆ่ากัน การทะเลาะวิวาท กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม ตามข่าวเราจะเห็นการเข่นฆ่าที่โหดร้ายและรุนแรงมากมายเรื่อยๆ จนเราต้องสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันจริงๆหรือ
10. #เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูจะถูกประกาศออกไปทั่วโลก (มัทธิว 24:14)
หลังจากคำทำนายทั้ง 10 ประการ ได้สำเร็จแล้ว วันนั้นโลกของเราใบนี้จะต้อง …ถูกเผาผลาญด้วยไฟบรรลัยกัลป์ และหลังจากนั้นดวงตาทุกคู่ของมนุษย์ จะได้เห็นการพิพากษาอันเที่ยงธรรมของพระเยซูคริสต์ (2เปโตร 3:10)
ต่อมาของศาสนาอิสลามครับ
วันสิ้นโลกขของศาสนาอิสลามเรียกว่า วันกิยามะฮฺ ไม่มีมนุษย์คนไหนทราบแน่นอน ผู้ทรงทราบมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นคือ องค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่มีสัญญานบ่งบอกมีสัญญานเล็กและสัญญานใหญ่
ท่านเชค อาลี อาลี มุฮำหมัด ได้กล่าวถึง สัญญาณวันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก)ไว้ในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า " อัชร็อต อัซซาอะห์ " ดังต่อไปนี้
สัญญาณเล็กของวันกิยามะฮฺ ได้แก่:
1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
2. ลมพายุจะรุนแรง
3. ความตายจะดาษดื่น(จากโรคร้าย) และความตายโดยฉับพลัน
4. มนุษย์จะแข่งกันประดับประดา มัสยิด
5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจกลับถูกบิดพลิ้ว
7. การผิดประเวณี(ซีนา)จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย
8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
9. ในมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก
10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
11. ความวุ่นวายจะเกิดทุกหัวระแหง
12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
13. อุตริกรรม(บิดอะห์)จะปรากฏชัด
14. ความอายจะน้อยลง
15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือสตรี
16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
17. ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
18. ผู้คนจะอ่านอัลกรุอานอย่างไพเราะ (ขาดการปฏิบัติตาม)
19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺจะมีมาก
21. การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
22. ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด
23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์ กิเลสและตัณหา
24. บุรุษจะถูกทำลายเพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
25. มนุษย์จะตัดญาติขาดมิตร
26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
27. ประชาชาติจะแตกแยกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งปีหนึ่งเหมือนหนึ่งเดือน และเดือนหนึ่ง เหมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน
29. การแต่งงานมีขึ้นเพราะสมบัติเป็นเหตุ
30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
31. การตลาดจะฝืดเคือง
32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
33. ความรับผิดชอบจะหายไป
34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก(ดุนยา)
35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
36. ทานบังคับ(ซะกาต)ถูกนำมาจ่ายเป็นค่าแรง
37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม(บนมิมบัร)
39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
43. ความบริสุทธิ์ใจจะหายไปจากการงาน
44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
45. การพนันจะมีมาก
46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น(ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรกและหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮฺ
สัญญาณใหญ่ของวันกิยามะฮฺ ได้แก่
1. อิหม่ามมะห์ดีจะปรากฏตัว
2. ดัจญาลเผยโฉม
3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย
เมื่อถึงวันกิยามะฮฺ จะมีลำดับเหตุการณ์ตามรูป
เมือถึงวันกิยามะฮฺมลาอิกะห์(ทูตรสวรรค์) อิสรอฟีลจะเป่าสังข์และทุกสิ่งบนแผ่นดินจะพังทลายคล้ายๆไฟปะลัยกันทำลายล้างนั้นแหละ
จากนั้นอัลลอฮฺได้ทำให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพจากกุโบร (หลุมศพ) ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์หลังจากนั้นมนุษย์จะชุมนุมกันและไปขอความช่วยเหลือจากท่านนบีต่างๆ
จากนั้นชั้นฟ้าและท้องฟ้าถูกแยกออกจากนั้นมลาอิกะห์จำนวนมหาศาลก็ลงมาที๋โลกพร้อมกับบังลังก์ของอัลลอฮฺ สิ่งทรงทร้างของพระองค์จะถูกรวบรวมอยู่ตรงกลางโลกและหนีไปไหนไม่ได้จากนั้นอัลลอฮฺได้ยกนรกญะฮันนัมขึ้นมาบนโลก ของนรกญะฮันนัมนั้นไม่ใช้แค่ขุมไฟที่ลังเผาไหม้แต่เป็นดังสัตว์ประหลาดที่คำรามซึ่งความน่าสะพรึงกลัวของนรกญะฮันนัมนั้นแม้ว่าท่านจะมีความดีเท่ากับท่านนบี 70 ท่านก็ไม่อาจต้านทานความกลัวนรกญะฮันนัมนี้ได้
ทั้งผู้ศรัทธาและไม่ศรัทธาจะได้เห็นนรกและจะหมอบลงและกล่าวประโยคพร้อมกันว่า "โอ้อัลลอฮฺช่วยพวกเราด้วย"
จะมีมนุษย์ทีได้เข้าสวรรค์ก่อนโดยที่ไม่ต้องรอตัดสินจากอัลลอฮฺ และตกนรกโดยไม่ต้องรอตัดสินเช่นกันโดยที่สัตว์ประหลากจากนรกหันหน้าไปที่ใครคนนั้นจะตกนรกทันที
ผู้ที่ได้รับเลือกให้ผ่านการพิพากษาจากอัลลอฮฺ จะมีลำดับเหตุการณ์ที่แสดงในภาพด้านบน
และจะต้องผ่านการทดสอบศรัทธาและข้ามสะพานสู่สวรรค์