ปห. ที่ผมกำลังพบอยู่คือ ผมซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรร บริเวณเวสเกตไทรน้อย และด้านหลังบ้านมีเพื่อนบ้านเข้ามาอยู่ก่อนแล้ว และของเขาต่อเติมไปแล้ว โดยใช้วิธีการแบบ บางส่วนลงเสาเข็มหกเหลี่ยม และบางส่วนไม่ได้ลงเข็มเลย  ซึ่งทางผมเองจะต่อเติมโดยใช้ไมโครไพล์ โดยมีไทม์ไลน์ประมาณนี้ครับ
.
ช่วงปลายเดือน มิย.66 
1. ผมกำลังจะเริ่มการต่อเติมโดยการตอกเข็ม แต่เหมือนใน หมู่บ้านนี้เคยมี เพื่อนบ้านหลังอื่นๆ (ไม่ใช่หลังบ้านผมที่มีประเด็นกันอยู่) เคยมีประเด็นกันเรื่องต่อเติมแล้วมี ปห. กับเพื่อนบ้านมาแล้ว
2. ผมจึงใช้วิธีเข้าไปแจ้งเพื่อนบ้านรอบข้างทั้งหมด ทั้งซ้าย-ขวา-หลัง วัตถุประสงค์หลักในวันนั้นจริงๆ คือคุยเรื่องระยะห่างจากรั้วโครงการว่ารับกันได้ที่กี่ ซม. ซึ่งก็มาเจอบ้านด้านหลังที่ว่ามีประเด็น โดยมีการคุยไปถึงเรื่องของการลงเสาเข็ม และทางนั้นแจ็งตามที่ผมเกริ่นไปด้านบนคือ เขาอยู่มา 1-2 ปีแล้ว และลงเสาเข็มหกเหลี่ยม และมีบางส่วนที่ไม่ได้ลงเข็มเลย ซึ่งทางนั้นกลัวว่าการตอกเข็มไมโครไพล์ของบ้านผมจะกระเทือนต่อบ้านเขา ที่ลงเข็มและไม่ลงเข็มแบบนั้น
3. หลังจากนั้นก็มีการนัดเข้าไปคุยกันอีกครั้ง ในวันนั้นได้มีการพา ผรม. ฝั่งผมเข้าไปด้วย เพื่อที่จะหาข้อสรุปโดยการร่างเอกสารสัญญารับผิดชอย หากการตอกเข็มของบ้านผม ทำให้บ้านเขาเกิดปห.ขึ้น โดยมีระยะเวลารับผิดชอบ 1 เดือนนับจากวันที่ตอก ซึ่งเอกสารตัวนั้นผ่านการรีวิวของทุกฝ่าย และทางตัวเจ้าของบ้านที่มีประเด็นเองเป็นผู้ขอแก้ไข และใส่รายละเอียดเพิ่มเติมจนทางเขาพอใจด้วยซ้ำ (ตามภาพ)

4. ในวันนั้นเอง ทางเจ้าของบ้านด้านหลังก็ให้ทางผม กับ ผรม. เข้าไปถ่ายรูปรอบบ้านทั้งหลัง เพื่อเป็นรูป Before ก่อนการตอกเข็ม
5. หลังจากที่เอกสารเซ้นต์กันทุกฝ่ายเรียบร้อย ทางผมก็เริ่มดำเนินการตอกเสาเข็มทันที โดยใช้เวลาราวๆ 3-4 วัน
6. หลังจากตอกเสร็จผมเจอ ผรม. ของผมเองโกง จึงหยุดงานของ ผรม. คนที่เอาไว้ที่แค่งานตอกเข็ม 
7. ในฝั่งบ้านด้านหลัง บ้านเขาเองก็ไม่มี ปห. อะไรหลังการตอกเสร็จ สภาพบ้านเขาทุกอย่างปกติดี
8. จาก ปห. ในข้อที่ 5 ทำให้ ผมเสียเวลาไปกับการเคลียร์เรื่องเงินกับ ผรม. เดิม และหา ผรม. ใหม่ ไปราวๆ 2-3 เดือน และทางผมได้ ผรม. ใหม่เข้าไปทำงานต่อช่วงปลายเดือนกันยา
.
ช่วงปลายกันยา-ปัจจุบัน
1. ทีมผรม. ใหม่เข้าไปทำงานต่อ โดยขั้นตอนงานที่ทำคือ งานสกัดหัวเข็ม และงานขุดดิน ผูกเหล็กเพื่อเตรียมทำคาน ต่างๆ 
2. จู่ๆ พื้นบ้านส่วนต่อเติมของบ้านด้านหลัง ที่มีรอยร้าวเดิมอยู่ก่อนแล้ว เกิดเป็นแนวยาวมากขึ้น (ตามภาพ)
 
3. ทางนั้นเอง ก็มีการทักมาหาทางผม เพื่อทวงถาม และกึ่งๆ เหมือนถามหาความรับผิดชอบ 
.
เบื้องต้นมีการโทรคุยกับหลังบ้านแล้วได้ข้อสรุปประมาณนี้
1. ผมพยายามสอบถาม และขอข้อมูลถึงสิ่งที่เขาเข้าใจว่า ปห ที่เกิดขึ้นมาจากการต่อเติมของบ้านผม เนื่องจากช่วงที่บ้านเขาเกิด ปห บ้านผมไม่ได้มีงานต่อเติมหนักที่จะทำให้ถึงขั้นพื้นแตกร้าวได้เลย
2. สัญญาที่เซนต์รับผิดชอบไว้ 1 เดือน ตอนนี้ก็ล่วงเลยมา 3 เดือนแล้ว
3. ตอนคุยผมก็พยายามหาตรงกลางคือ เด่วทางผมจะช่วยรับผิดชอบ โดยการออกค่าแรง ส่วนทางนั้นออกค่าของ ซึ่งเหมือนทางนั้นจะไม่ยอมจะให้ผมออกหมด และต้องใช้ ผรม. ของทางเขาเองด้วย
4. ผมเลยได้สอบถามเกี่ยวกับสัญญาที่เซนต์กัน ว่าครบและเลยกำหนดมาเรียบร้อยแล้ว ทางนั้นเองก็อารมณ์ประมาณว่า เขารู้จักคนใหญ่คนโตในพื้นที่ และชอบอ้างว่าจะพา อบต. ผู้ใหญ่ เข้ามาดูในพื้นที่
.
ในมุมมองส่วนตัวผมเอง
1. ในช่วงเวลาที่บ้านเขาเกิดปัญหาขึ้น ทางฝั่งการต่อเติมบ้านผมเอง ไม่ได้มีงานหนักอะไร ที่จะถึงขั้นทำให้พื้นแตกร้าวเพิ่มแบบนี้
2. การต่อเติมของบ้านเขาเอง มีโอกาสทรุด หรือแตกร้าวอยู่แล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่เข้าไปถ่ายรุป Before ก็มีรอยแตกร้าวรอยทรุดเต็มบ้านไปหมด และวันนั้นทางเจ้าของบ้านเองก็ทราบ และพูดเหมือนเข้าใจตั้งแต่ตอน ลงเข็มหกเหลี่ยมและส่วนที่ไม่ลงในบ้านของเขาเอง ว่ามันมีโอกาสที่จะทรุด/แตกร้าว ในอนาคตอันใกล้
3. การต่อเติม ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วอยู่แล้ว ว่าการลงเสาหกเหลี่ยมและการไม่ลงเลย มีโอกาสทรุดหรือแตกร้าวสูงอยู่แล้ว ในระยะเวลา 1-2 ปี
4. จากการต่อเติมของบ้านเขาซึ่งใช้วิธีการลงเข็มแบบนั้น อาจทำให้บ้านเขาเองมีความเสี่ยงในการทรุดหรือแตกร้าว แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า จากการที่บ้านเขาเองเลือกใช้วัสดุในการต่อเติมแบบนั้น เขาก็ไม่น่าจะมีสิทธิอะไร ที่จะห้ามให้คนรอบข้างใช้วัสดุแบบไหน ด้วยเหตุผลที่ว่า บ้านฉันทำก่อนโดยใช้วัสดุเปราะบางแบบนี้
5. ด้วยตัวสัญญาเป็นทางฝั่งผมที่ยอมเซนต์รับผิดชอบทุกอย่างเป็นเวลา 1 เดือนนับจากการตอกเข็มเสร็จ
6. จากปห. ที่เกิดขึ้น ได้มีการให้ ผรม. คาดคะเน ราคาค่าซ่อมเบื้องต้น น่าจะอยู่ที่ไม่กี่พันบาท โดยจะเป็นการซ่อมเฉพาะกระเบื้องแผ่นที่แตก
7. จริงๆ ทางฝั่งผมยินดีที่จะซ่อมให้ทั้งหมดเลยก็ได้ แต่ผมก็กังวลอยู่ 2 อย่าง
7.1 หากซ่อมครั้งนี้ไปแล้ว แล้วเวลาผ่านไปในระหว่างที่ผมต่อเติม หรือผ่านไป 1-2 เดือนข้างหน้า เกิดมี ปห อีก ก็จะมาทวงถามความรับผิดชอบจากผมอีกรึป่าว
7.2 ผมจะสบายใจมากในการรับผิดชอบ หากมีข้อพิสูจน์ได้ว่า รอบแตกร้าวตรงนั้น เกิดจากการทำงานฝั่งผม เพราะ การที่พื้นทรุดมีได้หลายปัจจัย เช่น ดินทรุดเองตามระยะเวลาอยู่แล้ว, ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกวัน, อาจจะมาจากการต่อเติมจริงๆ หรือมาจากวัสดุที่เขาเลือกใช้ ซึ่งตรงนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้
.
เพื่อนๆ ที่พอมีความรู้ หรือเคยรับมือเรื่องแบบนี้ผมรบกวนขอคำแนะนำทีครับ ว่าผมควรไปต่อในทางไหน หรือผมเข้าใจส่วนไหนผิด รบกวนชี้แนะหน่อยครับ
1. ดื้อไม่จ่ายไปให้สุดทางก่อนแล้วค่อยยอม (จริงๆ ผมยินดีรับผิดชอบได้ เพื่อให้เรื่องจบ แต่กังวลปัญหาในข้อ 7.1และ7.2)  
**จากข้อ 1 จะเกิด ปห. กับงานต่อเติมบ้านผมมั้ยครับ หากจู่ๆ หลังบ้านเกิดไปแจ้งความ แล้วเคสของบ้านผมต้องหยุดต่อเติม จนกว่าจะหาทางออกเคสนี้ได้
2. ยอมจ่ายไป เพื่อให้เรื่องจบ แต่ผมก็จะติดปห. ในข้อ 7.1 อีก เพราะขนาดรอบนี้มีสัญญาคลุมไว้ ยังเป็นแบบนี้เลย ซึ่งอนาคตก็น่าจะมี % ที่จะเกิด ปห. แบบนี้อีก