นิทานล้านบรรทัด
ประภาส ชลศรานนท์
"ต้นไม้"
มีคนบอกว่าโลกร้อนขึ้น
..................................
เขาเป็นคนไม่กินผัก
ผักชีใบเล็กๆที่ลอยอยู่ในก๋วยเตี๋ยวยังถูกเขาเขี่ยออก
“ผัดซีอิ๊วไม่ใส่คะน้า”คือเมนูโปรดของเขา
..................................
นักวิทยาศาสตร์พูดกันว่า สภาวะของน้ำบนผืนโลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
.................................
เขาเป็นโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้
อาการคัดจมูกจะมาทันทีที่ใครมอบดอกไม้ให้เขา
ยิ่งเป็นดอกหญ้าด้วยละก็ น้ำมูกเขาจะไหลเป็นทางทันที
เขาจึงหลีกเลี่ยงสนามหญ้า รวมไปถึงหลีกเลี่ยงกีฬาเกือบทุกชนิด
.................................
รายงานสภาพอากาศจากหลายๆประเทศ สร้างสถิติใหม่ให้คนทั้งโลกหนักใจ
บางเมืองร้อนจนผู้คนพากันกักตุนน้ำ
บางเมืองเกิดเหตุการณ์หิมะตกกินเวลานานกว่าสถิติร้อยปีที่ผ่านมา
................................
เขาคนเป็นคนแรกๆของเมืองไทยที่ออกมากระตุ้นผู้คนเรื่องมลภาวะ
“หนังสือต้นไม้กำลังจะหมดป่า” ที่เขาเขียนกลายเป็นหนังสือที่ผู้คนในแวดวงนักวิชาการให้ความสนใจ
...............................
รายงานเรื่องระดับน้ำที่สูงขึ้นในแม่น้ำหลายสายถูกรายการโทรทัศน์เกือบทั้งโลกนำมาต่อยอดพูดถึง
ในขณะเดียวกัน ข่าวแม่น้ำแห้งขอดก็เป็นข่าวใหญ่ๆบนหน้าหนังสือพิมพ์
..............................
เขายังชีพด้วยการเดินสายบรรยายให้องค์กรที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ
และด้วยบุคลิกท่าทางและคำพูดของเขา ทำให้เขาถูกชักชวนขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น
เขาเสนอให้นิตยสารแฟชั่นเขียนภาพป่าเขาลำเนาไพรเป็นฉากหลังของภาพชุดนี้
..............................
ตัวเลขสัดส่วนป่าไม้กับเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัดในรอบสิบปียี่สิบปีมานี้
ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่หาดูได้ง่ายๆบนโทรศัพท์มือถือยืนยันให้เห็นว่าสีเขียวบนโลกน้อยลงจริงๆ
.............................
เพื่อป้องกันผดร้อนที่ขึ้นตามผิวหนังซึ่งเกิดขึ้นจากเหงื่อ เขาสั่งติดแอร์ห้องทุกห้องในบ้านเพื่อหยุดเหงื่อตัวเอง
.............................
นักวิทยาศาสตร์เริ่มพูดถึงปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสัดส่วนมากขึ้นให้คนทั่วไปได้ยิน
ส่วนใครที่เผลอไปอ่านวารสารวิทยาศาสตร์ ก็คงเริ่มได้ยินเรื่องของฮีเลียมที่รั่วออกจากรอยแยกของภูเขาน้ำแข็งที่ละลาย
.............................
เขาตะโกนด่าออกรายการวิทยุถึงคนที่ตัดต้นไม้ ไม่เว้นแม้แต่คนที่ชอบสลักชื่อตัวเองลงบนต้นไม้
............................
ข่าวการให้สัมปทานตัดไม้ในป่าผืนสุดท้ายของประเทศหนึ่งแถบอัฟริกา ถูกพาดหัวหน้าหนึ่ง
............................
หนังสือฉบับนั้นเปียกไปด้วยน้ำตาของเขา เขาอ่านหนังสือพิมพ์เช้านั้นด้วยหัวใจที่แตกสลาย
เขาปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ยอดนิยม ประกาศกร้าวเสียงดังน้ำตาอาบแก้ม ขอทำสงครามกับคนทำลายต้นไม้ไปตลอดชาติ
...........................
โฆษณารณรงค์โลกสีเขียวของเขาได้รับรางวัลกรีนแปซิฟิค
...........................
ที่บ้านของเขา
เขามุงานจนไม่มีเวลาดูแลบ้าน เขาออกจากบ้านแต่เช้าและกลับถึงบ้านในตอนดึก
เขาใช้สอยบ้านเพียงแค่เตียงนอนและห้องน้ำ
ไม้พุ่มเล็กๆที่เขาปลูกไว้รอบๆบ้านตายหมด เพราะขาดคนดูแล
ใครจะเชื่อ พลูด่าง ต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายที่สุดที่เขาปักใส่ขวดวางตบแต่งในห้องน้ำ
แห้งตายแล้ว
มีคนบอกว่าโลกร้อนขึ้น
.............................
นิทานล้านบรรทัด เรื่องต้นไม้ ของประภาส ชลศรานนท์ ทุกคนอ่านแล้วทีความรู้สึกอย่างไร?
ประภาส ชลศรานนท์
"ต้นไม้"
มีคนบอกว่าโลกร้อนขึ้น
..................................
เขาเป็นคนไม่กินผัก
ผักชีใบเล็กๆที่ลอยอยู่ในก๋วยเตี๋ยวยังถูกเขาเขี่ยออก
“ผัดซีอิ๊วไม่ใส่คะน้า”คือเมนูโปรดของเขา
..................................
นักวิทยาศาสตร์พูดกันว่า สภาวะของน้ำบนผืนโลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
.................................
เขาเป็นโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้
อาการคัดจมูกจะมาทันทีที่ใครมอบดอกไม้ให้เขา
ยิ่งเป็นดอกหญ้าด้วยละก็ น้ำมูกเขาจะไหลเป็นทางทันที
เขาจึงหลีกเลี่ยงสนามหญ้า รวมไปถึงหลีกเลี่ยงกีฬาเกือบทุกชนิด
.................................
รายงานสภาพอากาศจากหลายๆประเทศ สร้างสถิติใหม่ให้คนทั้งโลกหนักใจ
บางเมืองร้อนจนผู้คนพากันกักตุนน้ำ
บางเมืองเกิดเหตุการณ์หิมะตกกินเวลานานกว่าสถิติร้อยปีที่ผ่านมา
................................
เขาคนเป็นคนแรกๆของเมืองไทยที่ออกมากระตุ้นผู้คนเรื่องมลภาวะ
“หนังสือต้นไม้กำลังจะหมดป่า” ที่เขาเขียนกลายเป็นหนังสือที่ผู้คนในแวดวงนักวิชาการให้ความสนใจ
...............................
รายงานเรื่องระดับน้ำที่สูงขึ้นในแม่น้ำหลายสายถูกรายการโทรทัศน์เกือบทั้งโลกนำมาต่อยอดพูดถึง
ในขณะเดียวกัน ข่าวแม่น้ำแห้งขอดก็เป็นข่าวใหญ่ๆบนหน้าหนังสือพิมพ์
..............................
เขายังชีพด้วยการเดินสายบรรยายให้องค์กรที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ
และด้วยบุคลิกท่าทางและคำพูดของเขา ทำให้เขาถูกชักชวนขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น
เขาเสนอให้นิตยสารแฟชั่นเขียนภาพป่าเขาลำเนาไพรเป็นฉากหลังของภาพชุดนี้
..............................
ตัวเลขสัดส่วนป่าไม้กับเมืองลดลงอย่างเห็นได้ชัดในรอบสิบปียี่สิบปีมานี้
ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่หาดูได้ง่ายๆบนโทรศัพท์มือถือยืนยันให้เห็นว่าสีเขียวบนโลกน้อยลงจริงๆ
.............................
เพื่อป้องกันผดร้อนที่ขึ้นตามผิวหนังซึ่งเกิดขึ้นจากเหงื่อ เขาสั่งติดแอร์ห้องทุกห้องในบ้านเพื่อหยุดเหงื่อตัวเอง
.............................
นักวิทยาศาสตร์เริ่มพูดถึงปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสัดส่วนมากขึ้นให้คนทั่วไปได้ยิน
ส่วนใครที่เผลอไปอ่านวารสารวิทยาศาสตร์ ก็คงเริ่มได้ยินเรื่องของฮีเลียมที่รั่วออกจากรอยแยกของภูเขาน้ำแข็งที่ละลาย
.............................
เขาตะโกนด่าออกรายการวิทยุถึงคนที่ตัดต้นไม้ ไม่เว้นแม้แต่คนที่ชอบสลักชื่อตัวเองลงบนต้นไม้
............................
ข่าวการให้สัมปทานตัดไม้ในป่าผืนสุดท้ายของประเทศหนึ่งแถบอัฟริกา ถูกพาดหัวหน้าหนึ่ง
............................
หนังสือฉบับนั้นเปียกไปด้วยน้ำตาของเขา เขาอ่านหนังสือพิมพ์เช้านั้นด้วยหัวใจที่แตกสลาย
เขาปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ยอดนิยม ประกาศกร้าวเสียงดังน้ำตาอาบแก้ม ขอทำสงครามกับคนทำลายต้นไม้ไปตลอดชาติ
...........................
โฆษณารณรงค์โลกสีเขียวของเขาได้รับรางวัลกรีนแปซิฟิค
...........................
ที่บ้านของเขา
เขามุงานจนไม่มีเวลาดูแลบ้าน เขาออกจากบ้านแต่เช้าและกลับถึงบ้านในตอนดึก
เขาใช้สอยบ้านเพียงแค่เตียงนอนและห้องน้ำ
ไม้พุ่มเล็กๆที่เขาปลูกไว้รอบๆบ้านตายหมด เพราะขาดคนดูแล
ใครจะเชื่อ พลูด่าง ต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายที่สุดที่เขาปักใส่ขวดวางตบแต่งในห้องน้ำ
แห้งตายแล้ว
มีคนบอกว่าโลกร้อนขึ้น
.............................