สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จัดแบบคนเมืองซิครับ
ไม่เกิน 3 วัน
และไม่ต้องเลี้ยงอาหารครับ แค่น้ำชา กาแฟ ขนมก็พอแล้ว ดอกไม้หรืออะไรก็ไม่ต้องเยอะครับ
ลองไปดูงานศพใน กทม ซิครับ ไม่มีเลี้ยงข้าวเช้าเที่ยงเย็นนะครับ เพราะนั่นคือสิ่งที่สิ้นเปลืองที่สุดแล้ว
ใน กทม แจกแค่น้ำขวด ขนมกล่องเท่านั้นแหละครับ เหมือนบนรถทัวร์
จุดประสงค์ของงานศพคือ การป่าวประกาศให้คนรู้ว่า คนๆนี้เสียชีวิตแล้วนะ ถ้ามีใครแอบอ้างว่าไปยืมเงินหรืออะไร อย่าเชื่อ ใครติดหนี้สินก็รีบมาชดใช้กับทายาท ประมาณนั้นครับ
พวกที่ชอบนินทาว่างานศพโน้น งานนี้ไม่ดี คือชาวบ้านทั่วไปนี่แหละ หลักๆ คือจะฝากท้องทั้งครอบครัวไว้กับงานศพ ขนของกลับบ้านก็เอามาทิ้งขว้าง งานศพจบแล้ว กับข้าวที่ขนมายังกินได้เป็นอาทิตย์
คุณอยากจะจัดงานศพเพื่อเลี้ยงดูชาวบ้านทุกครอบครัวคงไม่ไหวหรอกครับ
ไม่เกิน 3 วัน
และไม่ต้องเลี้ยงอาหารครับ แค่น้ำชา กาแฟ ขนมก็พอแล้ว ดอกไม้หรืออะไรก็ไม่ต้องเยอะครับ
ลองไปดูงานศพใน กทม ซิครับ ไม่มีเลี้ยงข้าวเช้าเที่ยงเย็นนะครับ เพราะนั่นคือสิ่งที่สิ้นเปลืองที่สุดแล้ว
ใน กทม แจกแค่น้ำขวด ขนมกล่องเท่านั้นแหละครับ เหมือนบนรถทัวร์
จุดประสงค์ของงานศพคือ การป่าวประกาศให้คนรู้ว่า คนๆนี้เสียชีวิตแล้วนะ ถ้ามีใครแอบอ้างว่าไปยืมเงินหรืออะไร อย่าเชื่อ ใครติดหนี้สินก็รีบมาชดใช้กับทายาท ประมาณนั้นครับ
พวกที่ชอบนินทาว่างานศพโน้น งานนี้ไม่ดี คือชาวบ้านทั่วไปนี่แหละ หลักๆ คือจะฝากท้องทั้งครอบครัวไว้กับงานศพ ขนของกลับบ้านก็เอามาทิ้งขว้าง งานศพจบแล้ว กับข้าวที่ขนมายังกินได้เป็นอาทิตย์
คุณอยากจะจัดงานศพเพื่อเลี้ยงดูชาวบ้านทุกครอบครัวคงไม่ไหวหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมสังเกตุว่าการจัดงานศพตามต่างจังหวัดจะสิ้นเปลืองค่อนข้างมาก
เพราะส่วนมากจะตั้งศพไว้ที่บ้าน ชาวบ้านต่างๆ ก็จะมาร่วมงาน และเจ้าภาพก็ต้องทำอาหารรับรองตลอด
บางครั้งก็หิ้วอาหารกลับไปด้วย อาหารไม่ดีหรือไม่พอ ก็จะเอาไปนินทากันว่าจัดของรับรองไม่ดี
ไม่รู้ว่ามาร่วมไว้อาลัยหรือมาร่วมกิน
เพื่อนผมที่อยู่ใต้เคยบอกว่า จัดงานศพที เหมือนคนตายขายคนเป็น
ซึ่งลุงผมเองเป็นคนอีสานตอนตาย ทางญาติก็จัดเยอะแบบนี้เหมือนกัน
ซึ่งผมว่ามันไม่จำเป็นและมองว่ามันสิ้นเปลืองมากกับที่จัดงานใหญ่โต ป่าวประกาศไปทั่ว (แต่ถ้ามีเงิน อยากจัดก็ไม่ขัด)
ตอนพ่อกับแม่ยายของผมตาย จัดงานศพตั้งสวด 3 วัน แล้วก็เผาเลยครับ
จัดที่วัดใน กทม กับ ปทุมธานี
ต้องการจัดงานให้ง่ายและรวดเร็ว เพราะตัวผมเองและครอบครัวก็มีเวลาไม่เยอะ
การดูแลแขกที่มาร่วมงานก็จะไม่ทั่วถึงและจะเหนื่อยกับตัวเองและครอบครัวมาก
แต่ในส่วนพิธีศพต่างๆ ก็ทำให้ครบตามพิธี ซึ่งทางวัดก็จะแจกแจงมาเลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง
แต่ละอย่างมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
แต่ละวัดมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน บางวัดก็ไม่คิดค่าอะไรเลยแล้วแต่เจ้าภาพจะจ่ายตามกำลังศรัทธา
เงินช่วยทำบุญ ได้มาก็เอาเงินนี้ไปทำบุญให้กับผู้ตายและทำทานหมด
ส่วนอาหารรับรอง ซื้อเป็น box set กับ ไปซื้อขนม น้ำผลไม้ และน้ำเปล่ามาจัดเป็นชุดให้แขก
ไม่มีเลี้ยงอาหารคาว เพราะมันวุ่นวายและดูแลยาก
ความคิดที่ว่าเป็นการทำให้ผู้ตายครั้งสุดท้ายต้องทำให้ใหญ่ ให้สมเกียรติ ไม่ให้คนมาว่าได้
แบบนั้นผมมองว่ามันไม่ถูกเท่าไร เพราะผู้ตายก็ตายไปแล้วไม่มารับรู้อะไรหรอก
แต่ตอนก่อนเค้าตาย ตอนอยู่กับเราควรจะปฎิบัติกับเค้าให้ดีตามกำลังที่เราทำได้
เพราะส่วนมากจะตั้งศพไว้ที่บ้าน ชาวบ้านต่างๆ ก็จะมาร่วมงาน และเจ้าภาพก็ต้องทำอาหารรับรองตลอด
บางครั้งก็หิ้วอาหารกลับไปด้วย อาหารไม่ดีหรือไม่พอ ก็จะเอาไปนินทากันว่าจัดของรับรองไม่ดี
ไม่รู้ว่ามาร่วมไว้อาลัยหรือมาร่วมกิน
เพื่อนผมที่อยู่ใต้เคยบอกว่า จัดงานศพที เหมือนคนตายขายคนเป็น
ซึ่งลุงผมเองเป็นคนอีสานตอนตาย ทางญาติก็จัดเยอะแบบนี้เหมือนกัน
ซึ่งผมว่ามันไม่จำเป็นและมองว่ามันสิ้นเปลืองมากกับที่จัดงานใหญ่โต ป่าวประกาศไปทั่ว (แต่ถ้ามีเงิน อยากจัดก็ไม่ขัด)
ตอนพ่อกับแม่ยายของผมตาย จัดงานศพตั้งสวด 3 วัน แล้วก็เผาเลยครับ
จัดที่วัดใน กทม กับ ปทุมธานี
ต้องการจัดงานให้ง่ายและรวดเร็ว เพราะตัวผมเองและครอบครัวก็มีเวลาไม่เยอะ
การดูแลแขกที่มาร่วมงานก็จะไม่ทั่วถึงและจะเหนื่อยกับตัวเองและครอบครัวมาก
แต่ในส่วนพิธีศพต่างๆ ก็ทำให้ครบตามพิธี ซึ่งทางวัดก็จะแจกแจงมาเลยว่าต้องใช้อะไรบ้าง
แต่ละอย่างมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
แต่ละวัดมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน บางวัดก็ไม่คิดค่าอะไรเลยแล้วแต่เจ้าภาพจะจ่ายตามกำลังศรัทธา
เงินช่วยทำบุญ ได้มาก็เอาเงินนี้ไปทำบุญให้กับผู้ตายและทำทานหมด
ส่วนอาหารรับรอง ซื้อเป็น box set กับ ไปซื้อขนม น้ำผลไม้ และน้ำเปล่ามาจัดเป็นชุดให้แขก
ไม่มีเลี้ยงอาหารคาว เพราะมันวุ่นวายและดูแลยาก
ความคิดที่ว่าเป็นการทำให้ผู้ตายครั้งสุดท้ายต้องทำให้ใหญ่ ให้สมเกียรติ ไม่ให้คนมาว่าได้
แบบนั้นผมมองว่ามันไม่ถูกเท่าไร เพราะผู้ตายก็ตายไปแล้วไม่มารับรู้อะไรหรอก
แต่ตอนก่อนเค้าตาย ตอนอยู่กับเราควรจะปฎิบัติกับเค้าให้ดีตามกำลังที่เราทำได้
แสดงความคิดเห็น
การจัดงานศพ จำเป็นต้องเป็นหนี้ เพื่อให้คนมางานเยอะๆ ไหม?
มีคนมาเล่าให้ฟังเรื่องของจัดงานศพในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้มีกำลังทรัพย์เพียงพอ ของทุกอย่าง ที่นำมาทำกับข้าวเลี้ยงแขกต้องติดหนี้ไว้ก่อนทุกอย่าง ทีมแม่ครัวก็เป็นเพื่อนบ้าน แขกมางานไม่มี แต่กับข้าว ทำอยู่เรื่อยๆ วัตถุดิบก็หมดเรื่อยๆ แต่ถ้าพูดก็จะไม่มีคนมาช่วยงาน.....
ในมุมมองของเรา เราคิดว่า การจัดงานศพ หรือจัดอะไรก็แล้วแต่ แม้จะไม่มีชาวบ้านมาช่วย ไม่มีคนมางานเยอะๆ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องเป็นหนี้เยอะ ไม่ใช่เราไม่เอาใครนะ แต่เพียงเพราะถ้าเราเป็นหนี้จัดงานเพื่อให้คนอื่นพูดเล่าขานว่าของกินไม่ขาดปาก แต่หลังจบงานเราต้องมานั่งเครียด เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้ แบบนี้เราจะทำไปทำไม.....แต่เชื่อไหมว่าเราพูดแบบนี้ไปสิ่งที่เราโดนตอบกลับมา เค้าบอกว่าถ้าทำแบบเราคือเราจะโดดเดี่ยว อยู่คนเดียว ไม่มีใครช่วยเลย...เราจึงเกิดความสงสัยว่า ที่จริงแล้วแบบไหนถูกต้อง ควรทำแบบไหนจะดีกว่า....
ขนบธรรมเนียม ประเพณี สำหรับจัดงานศพ มันต้องถึงขั้นไหน ถ้าไม่ทำตามจะผิดหรือเปล่า
ทำแบบไม่เดือดร้อนคนอยู่ จะส่งผลต่อคนตายไหม
หากกระทู้นี้มันขัดต่อความคิดเห็นของบางท่าน หรือหลักของธรรมเนียม ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้