บ้านหลังหนึ่งสร้างด้วยปูนกึ่งไม้ติดทางถนนสีดำยามกลางคืนไม่มีไฟฟ้า เป็นซอยที่มีหมู่นักเลงมานัดยิงกันอยู่ประจำผู้เฒ่านักเลงชื่อ เทียน ข่าวคราวลือกันว่าที่แกมาอาศัยอยู่เงียบๆ ลำพังในซอยเปลี่ยวดูร้างเพราะว่าแกเคยบวชจำพรรษาอยู่ในวัดเก่าแก่โบราณ มีหลายคนสงสัยว่าแกมีวิชาอาคมอะไรถึงได้กล้าอยู่ในที่ๆ มีการยิงกันตายแทบจะทุกหัวค่ำในซอยมืดๆ วันนั้นนักเลงสองตัวนัดกันมาดวลปืนกันตัวต่อตัว ปืนพกขนาด 9 มม. ซัดลูกกระสุนใส่กันไม่ยั้งทั้งคู่ย่างเดินเข้าหากันแบบไม่มีใครกลัวใคร ทางปืนของสองคนแทบจะสูสี เสียงปืนดังรวมกันเกือบสิบนัดใบหน้าของนักเลงตัวห้าวมีรูเหวอะเลือดหยดไหลลงพื้นถนน ร่างของมันค่อยๆ ผละลงจากอากาศ ผู้เฒ่าเทียนนั่งมองด้วยความพอใจแกชื่นชมฝีมือของทั้งสองคน แต่ละวันมีแต่ศพถมกันเป็นกองนักเลงห้าวเลือดร้อนสมควรตายทุกคน กลิ่นของศพเหม็นเน่าจนผะอืดผะอม ยามค่ำๆ  ของคืนเดือนหงายจะมีชาวบ้านแอบเข้ามาดูว่าผู้เฒ่าเทียนแกทำอะไร ใช้ชีวิตยังไง ชาวบ้านใส่ชุดม่อฮ่อมชาวนาคนหนึ่งเปิดไฟฉายที่หัวส่องดูด้านทางเข้ามาในซอย ทันทีรูปร่างสีดำเกรียมเดินเข้ามาหาเขารูปร่างเกรียมไหม้เหล่านี้มีแต่รอยกระสุนพรุนไปทั่วร่าง ชาวบ้านคนนั้นเป็นบ้าเป็นบอตะโกนโหวกเหวกโวยวายไปทั่วว่าผู้เฒ่าเทียนอาศัยอยู่ร่วมกับผีตายโหง เรื่องมันสยองขวัญตรงที่ปู่เทียนไม่พูดไม่จากับผู้ใดทั้งสิ้น อยู่ลำพังยามกลางวันผู้เฒ่าก็เดินเหินปกติแต่คาถาอาคมใดที่ป้องกันผีหรือควบคุมมัน ชาวบ้านเข้ามาลองดีกันทุกผู้ทุกคน บางคนตายไปก็เยอะเป็นผีตายโหงอยู่ในซอยเพราะถูกยิงตายทุกศพ กฎหมายไม่สามารถหาสาเหตุได้เป็นเรื่องอาถรรพ์ของซอยนักเลงปืนมานับนาน ผู้เฒ่าเทียนอาจจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางที่แท้จริง การแก่งแย่งเพราะความริษยาไม่อยู่ในธรรมที่สมควรของมนุษย์ซอยร้างหลายซอยอาจเป็นที่ที่เฒ่าเทียนเดินทางไปหาพวกนักเลงไม่แท้เที่ยวท้าหาเรื่องฆ่าผู้อื่นดดยไม่มีเหตุผลพอในความเป็นมนุษย์ ศพทุกศพจะต้องทบถมเพราะความอิจฉาผู้อื่นอีกตั้งเท่าไหร่กว่าจะถมความเน่าเหม็นให้เป็นธรรมของมนุษย์ที่ควรจดำว่าไม่ควรมี!!