ได้ค่ะ แต่กรอบที่นำมาต้องเหมาะกับการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟนะคะ
แว่นโปรเกรสซีฟเป็นแว่นที่มองได้หลายระยะในเลนส์เดียว ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดในการเลือกกรอบแว่นค่ะ เนื่องจากแว่นโปรเกรสซีฟ แบ่งโซนการมองอยู่ในเลนส์เพียงชิ้นเดียว เช่น
มองไกล อยู่ด้านบนสุดของเลนส์
มองระยะกลาง คอมพิวเตอร์ อยู่โซนกึ่งกลางเลนส์
มองใกล้ จะอยู่ด้านล่างสุดของเลนส์
ด้วยเหตุนี้ การเลือกกรอบต้องสัมพันธ์กับเลนส์โปรเกรสซีฟค่ะ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากรอบนั้นเหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟไหม? สามารถดูได้ดังนี้ค่ะ
กรอบแว่นที่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.เป็นกรอบแว่นที่มีแป้นจมูก
ต้องเป็นกรอบแว่นที่มีแป้นจมูก และแป้นจมูกต้องปรับดัดได้ เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟ จะมีจุดโฟกัสที่เลนส์ เวลาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่ร้านแว่น จะตั้งจุดโฟกัสนั้นให้ตรงกับกลางตาดำของผู้ส่วมใส่ หากแว่นไม่พอดีกับใบหน้า แว่นเบี้ยว หรือแว่นหลวมเกินไป ทำให้จุดโฟกัสไม่ตรงกลางตา จะส่งผลให้เราใส่แว่นแล้วเกิดอาการไม่สบายตาต่างๆ ได้ เช่น ปวดหัว ปวดตา ภาพไม่ชัด แต่ถ้าหากแป้นจมูกปรับดัดได้ เราก็สามารถปรับดัดให้จุดโฟกัส มาตรงกลางตาดำของผู้ใส่ได้ ให้เราใส่แว่นได้สบายตามากขึ้นค่ะ
2.กรอบแว่นนั้นต้องพอดีกับใบหน้า
กรอบแว่นที่นำมาต้องไม่คับไปหรือหลวมจนเกินไป เนื่องจากแว่นถ้าหลวมจนเกินไป จะทำให้เวลาใส่แว่นแล้วแว่นตก จุดโฟกัสจะตกลงไปด้วย ทำให้กลางตาดำของผู้สวมใส่ไม่ตรงกับจุดโฟกัส เวลาใส่แว่นจะเกิดอาการปวดหัว ปวดตา ภาพไม่ชัด บางคนเห็นภาพซ้อนก็ได้เลยค่ะ
แต่ถ้าหากแว่นคับจนเกินไป จะบีบรัดขมับด้านข้าง จะทำให้เราใส่แว่นแล้วไม่สบาย จนไม่อยากใส่แว่นนั้นในที่สุด
3.กรอบแว่นต้องไม่กว้าง ย้อย หรือแคบจนเกินไป
แว่นโปรเกรสซีฟจะมีภาพบินเบือนที่ด้านข้างของเลนส์ หากกรอบแว่นกว้างจนเกินไป จะทำให้ภาพบิดเบือนด้านข้างเยอะขึ้น แทนที่กรอบจะเล็กกว่านี้จะได้ตัดส่วนภาพบิดเบือนนี้ลงลด
อีกทั้งถ้ากรอบแว่นย้อยเกินไป จะทำให้เวลาเหลือบตามองลงจะเจอโซนอ่านหนังสือยากขึ้น
แต่ถ้าหากกรอบแว่นแคบจนเกินไป จะทำให้ภาพที่เราใช้งานได้ ถูกตัดออกไปด้วย ทำให้เราเสียภาพบางส่วนไป ดังนั้นควรเลือกกรอบแว่นที่พอดีกับกรอบหน้าเรา จะได้มีการมองที่พอดี ภาพบิดเบือนด้านข้างไม่เยอะจนเกินไปค่ะ
4. กรอบแว่นต้องแข็งแรง และทน
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีจุดโฟกัสที่แว่นตรงกับกลางตาดำของผู้สวมใส่พอดี ถ้ากรอบที่เรานำมาใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ มีการแตกหัก เราจะไม่สามารถย้ายเลนส์โปรเกรสซีฟเดิมนั้นไปกรอบยี่ห้ออื่น รุ่นอื่นได้ จะย้ายได้เพียงกรอบนั้นต้องเป็นยี่ห้อเดิม รุ่นเดิม ขนาดเท่าเดิมเท่านั้น ไม่อย่างนั้น จุดโฟกัสจะไม่ตรงกับตา ทำให้ใส่แว่นแล้วไม่สบายตา
ถ้าสุดท้ายแล้วหากรอบเดิม รุ่นเดิมไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเลนส์โปรเกรสซีฟและกรอบใหม่หมดเลยค่ะ ซึ่งเพียงแค่ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟก็ค่อนข้างสูงแล้ว
ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟเดิมถึงย้ายเลนส์ไปกรอบอื่นไม่ได้?
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีทั้ง จุดโฟกัสของเลนส์กับกลางตาดำของผู้สวมใส่ ก็ยังมีการวัดค่าความเท ความโค้ง ความห่าง ของกรอบนั้นๆ ให้พอดีกับเลนส์ไว้แล้ว หากไม่ใช้กรอบเดิม รุ่นเดิม ขนาดเท่าเดิม ค่าทั้งหมดเหล่านี้ จะผิดเพี้ยนไปหมด ทำให้เวลาใส่แว่นตาจะไม่สบายตา มีอาการปวดหัว ปวดตา ภาพเบลอ ภาพซ้อน ได้ค่ะ
แล้วเราควรจะมี วิธีเลือกกรอบแว่นที่ดีที่สุดอย่างไร?
คือให้เลือกกรอบแว่นที่ร้านแว่นที่เราจะไปตัดเลนส์โปรเกรสซีฟนั้นเลย เนื่องจากหากมีการแตกหักของกรอบ ที่ร้านจะได้หากรอบรุ่นเดิม แบบเดิม ขนาดเท่าเดิมไว้เป็นกรอบสำรองใ้ห้เราได้ย้ายเลนส์ได้ ถ้าเราหาซื้อกรอบเอง แล้วกรอบนั้นเป็นกรอบแฟชั่นที่พอถึงช่วงที่ไม่ฮิตกรอบนั้นแล้ว ก็จะไม่มีกรอบนนั้นผลิตขึ้นมาอีก เราต้องซื้อใหม่ทั้งกรอบและเลนส์ใหม่หมดเลยค่ะ
หรืออีกหนึ่งวิธีเลือกซื้อกรอบดีดี แข็งแรงทนทาน ไปเลยค่ะ เพื่อให้เราใช้งานกรอบนั้นไปจนครบอายุการใช้งานของเลนส์ไปเลย เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเลนส์จากค่าสายตาเปลี่ยน เราจะได้ใช้กรอบเดิม แล้วเปลี่ยนแค่เลนส์ จะประหยัดไปอีกทางได้ค่ะ
ซื้อกรอบแว่นมาเอง ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ ได้ไหม?
แว่นโปรเกรสซีฟเป็นแว่นที่มองได้หลายระยะในเลนส์เดียว ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดในการเลือกกรอบแว่นค่ะ เนื่องจากแว่นโปรเกรสซีฟ แบ่งโซนการมองอยู่ในเลนส์เพียงชิ้นเดียว เช่น
มองไกล อยู่ด้านบนสุดของเลนส์
มองระยะกลาง คอมพิวเตอร์ อยู่โซนกึ่งกลางเลนส์
มองใกล้ จะอยู่ด้านล่างสุดของเลนส์
ด้วยเหตุนี้ การเลือกกรอบต้องสัมพันธ์กับเลนส์โปรเกรสซีฟค่ะ
กรอบแว่นที่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.เป็นกรอบแว่นที่มีแป้นจมูก
ต้องเป็นกรอบแว่นที่มีแป้นจมูก และแป้นจมูกต้องปรับดัดได้ เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟ จะมีจุดโฟกัสที่เลนส์ เวลาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่ร้านแว่น จะตั้งจุดโฟกัสนั้นให้ตรงกับกลางตาดำของผู้ส่วมใส่ หากแว่นไม่พอดีกับใบหน้า แว่นเบี้ยว หรือแว่นหลวมเกินไป ทำให้จุดโฟกัสไม่ตรงกลางตา จะส่งผลให้เราใส่แว่นแล้วเกิดอาการไม่สบายตาต่างๆ ได้ เช่น ปวดหัว ปวดตา ภาพไม่ชัด แต่ถ้าหากแป้นจมูกปรับดัดได้ เราก็สามารถปรับดัดให้จุดโฟกัส มาตรงกลางตาดำของผู้ใส่ได้ ให้เราใส่แว่นได้สบายตามากขึ้นค่ะ
2.กรอบแว่นนั้นต้องพอดีกับใบหน้า
กรอบแว่นที่นำมาต้องไม่คับไปหรือหลวมจนเกินไป เนื่องจากแว่นถ้าหลวมจนเกินไป จะทำให้เวลาใส่แว่นแล้วแว่นตก จุดโฟกัสจะตกลงไปด้วย ทำให้กลางตาดำของผู้สวมใส่ไม่ตรงกับจุดโฟกัส เวลาใส่แว่นจะเกิดอาการปวดหัว ปวดตา ภาพไม่ชัด บางคนเห็นภาพซ้อนก็ได้เลยค่ะ
แต่ถ้าหากแว่นคับจนเกินไป จะบีบรัดขมับด้านข้าง จะทำให้เราใส่แว่นแล้วไม่สบาย จนไม่อยากใส่แว่นนั้นในที่สุด
3.กรอบแว่นต้องไม่กว้าง ย้อย หรือแคบจนเกินไป
แว่นโปรเกรสซีฟจะมีภาพบินเบือนที่ด้านข้างของเลนส์ หากกรอบแว่นกว้างจนเกินไป จะทำให้ภาพบิดเบือนด้านข้างเยอะขึ้น แทนที่กรอบจะเล็กกว่านี้จะได้ตัดส่วนภาพบิดเบือนนี้ลงลด
อีกทั้งถ้ากรอบแว่นย้อยเกินไป จะทำให้เวลาเหลือบตามองลงจะเจอโซนอ่านหนังสือยากขึ้น
แต่ถ้าหากกรอบแว่นแคบจนเกินไป จะทำให้ภาพที่เราใช้งานได้ ถูกตัดออกไปด้วย ทำให้เราเสียภาพบางส่วนไป ดังนั้นควรเลือกกรอบแว่นที่พอดีกับกรอบหน้าเรา จะได้มีการมองที่พอดี ภาพบิดเบือนด้านข้างไม่เยอะจนเกินไปค่ะ
4. กรอบแว่นต้องแข็งแรง และทน
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีจุดโฟกัสที่แว่นตรงกับกลางตาดำของผู้สวมใส่พอดี ถ้ากรอบที่เรานำมาใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ มีการแตกหัก เราจะไม่สามารถย้ายเลนส์โปรเกรสซีฟเดิมนั้นไปกรอบยี่ห้ออื่น รุ่นอื่นได้ จะย้ายได้เพียงกรอบนั้นต้องเป็นยี่ห้อเดิม รุ่นเดิม ขนาดเท่าเดิมเท่านั้น ไม่อย่างนั้น จุดโฟกัสจะไม่ตรงกับตา ทำให้ใส่แว่นแล้วไม่สบายตา
ถ้าสุดท้ายแล้วหากรอบเดิม รุ่นเดิมไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเลนส์โปรเกรสซีฟและกรอบใหม่หมดเลยค่ะ ซึ่งเพียงแค่ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟก็ค่อนข้างสูงแล้ว
ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟเดิมถึงย้ายเลนส์ไปกรอบอื่นไม่ได้?
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีทั้ง จุดโฟกัสของเลนส์กับกลางตาดำของผู้สวมใส่ ก็ยังมีการวัดค่าความเท ความโค้ง ความห่าง ของกรอบนั้นๆ ให้พอดีกับเลนส์ไว้แล้ว หากไม่ใช้กรอบเดิม รุ่นเดิม ขนาดเท่าเดิม ค่าทั้งหมดเหล่านี้ จะผิดเพี้ยนไปหมด ทำให้เวลาใส่แว่นตาจะไม่สบายตา มีอาการปวดหัว ปวดตา ภาพเบลอ ภาพซ้อน ได้ค่ะ
คือให้เลือกกรอบแว่นที่ร้านแว่นที่เราจะไปตัดเลนส์โปรเกรสซีฟนั้นเลย เนื่องจากหากมีการแตกหักของกรอบ ที่ร้านจะได้หากรอบรุ่นเดิม แบบเดิม ขนาดเท่าเดิมไว้เป็นกรอบสำรองใ้ห้เราได้ย้ายเลนส์ได้ ถ้าเราหาซื้อกรอบเอง แล้วกรอบนั้นเป็นกรอบแฟชั่นที่พอถึงช่วงที่ไม่ฮิตกรอบนั้นแล้ว ก็จะไม่มีกรอบนนั้นผลิตขึ้นมาอีก เราต้องซื้อใหม่ทั้งกรอบและเลนส์ใหม่หมดเลยค่ะ
หรืออีกหนึ่งวิธีเลือกซื้อกรอบดีดี แข็งแรงทนทาน ไปเลยค่ะ เพื่อให้เราใช้งานกรอบนั้นไปจนครบอายุการใช้งานของเลนส์ไปเลย เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเลนส์จากค่าสายตาเปลี่ยน เราจะได้ใช้กรอบเดิม แล้วเปลี่ยนแค่เลนส์ จะประหยัดไปอีกทางได้ค่ะ