เรื่องมีอยู่ว่า...
เราคบกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านทางแอพหาคู่ ผู้ชายอายุน้อยกว่า ตอนแรกก็คุยกันดีมีชวนไปเที่ยว แต่เขาทำงานรายได้น้อยกว่าเรา ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายเราจะเป็นคนออก แต่ก็ไม่คิดอะไร ต่อมาเขาขอยืมเงินเราจ่ายค่าผ่อนงวดรถ ผ่อนโทรศัพท์ ด้วยความที่เราคิดว่าน่าจะคบกันได้ยาวเราเลยถามเขาว่า ทำไมหนี้เขาถึงเยอะจังเลยให้เขาบอกหนี้ที่มีทั้งหมดจะได้วางแผนเผื่อจะได้ช่วยปลดหนี้ และวางแผนคืนเงินให้เราได้ ซึ่งยอดหนี้มีค่อนข้างสูง เงินเดือนเขาแค่ 14,000 แต่หนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือสเกือบๆ 8000 ยังไม่รวมค้ากอนและถ้ายืมเราก็ต้งหักจ่ายคืนเราด้วย และมีที่ค้างมาก่อนต้องเอาเงินก้อนไปปิดประมาน 27000 ซึ่งเราก็ให้ยืมและจะให้ผ่อนใช้คืนเป็นรายเดือน เขาก็ยอมแต่เงื่อนไขคือให้เอาบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีของเขามาให้เราถือไว้ ซึ่งเขาบอกว่าเขาไม่มีแอพไม่สามารถกดเงินได้
ต่อมาเขาบอกว่ามีปัญหากับที่บ้านเพราะเขาเอาทองของยายไปจำนำเอาเงินไปหมุน ทำให้ที่บ้านโกรธมากไล่ออกจากบ้าน เลยจะขอให้เราช่วย ไถ่ทองเพื่อที่จะได้ให้ที่บ้านยกโทษให้ อีก 22000 บาท ซึ่งเราก็สงสาร ระหว่างนี้มีเหตุให้เรากับเขาต้องแยกกันอยุไกลมาก หลังจากได้เงินค่าไถ่ทองไป เขาก็ไม่ค่อยติดต่อเรามาเหมือนเมื่อก่อนอ้างว่างานเยอะซึ่งก็อาจจะจริง และยังมีทักมาขอเงินทีละ 100 ซึ้งเราไม่ให้ เขาก็ไม่ค่อยพอใจ และไม่ค่อยคุยด้วย เราไม่เคยไปเช็คเรื่องเอทีเอ็มว่ากดได้มั๊ย หรือเงินเดือนเข้าบัญชีนี้จริงมั๊ย ด้วยความเชื่อใจ (ลืมบอกว่าระยะเวลาที่คบกับเขาแล้วยืมเงินประมาน 2 เดือน) แม่เราเริ่มรู้ว่าเราให้เขายืมเงินและกลัวว่าเราจะโดนหลอก เลยให้เราโทรไปถาม ปรากฏว่าเขาไม่รับโทรศัพท์ เปนสิบสาย ทำให้แม่ยิ่งด่าว่าๆ เขาโกงแน่นอน แต่สุดท้ายเขารับ และบอกว่าติดธุระน้าป่วยหนักเข้ารพ. เลยไม่ได้รับ และด่าเรายกใหญ่ว่าตื่นตูม ไปฟ้องแม่ ทำให้แม่เรามองเขาไม่ดี ไม่คิดจะโกง เอทีเอมก็มี จะอะไรหนักหนา บลาๆ เราก็ขอโทษเขาไปว่าเราอาจจะกลัวไปเพราะเราเคยเจอคนที่เขาทำแบบนี้ แม่ก็บอกว่าอย่าไปเชื่ออีกห้ามให้ยืมเงิน แต่ไม่วายเขามาบอกว่าที่เขาหายๆไปเพราะไปหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเทอมสุดท้ายที่เรียน หาเงินไม่ได้เลย ไม่รุ้จะทำไง ชีวิตกำลังจะพังบลาๆ เราด้วยความเปนห่วง ก็โทรไปหลายสายกะจะช่วย เขาก็ไม่รับ เขาก็คงคิดว่าโทรจิก โทรตาม ก็โมโหใส่ สุดท้ายคุยกันเราก็บอกว่าจะช่วยค่าเทอมให้นะ เขาก็กลับมาพูดดี พอเราโอนค่าเทอมไปให้ เราบอกว่าถ้าจ่ายแล้วให้ถ่ายสลิปค่าเทอมมาให้ดูด้วย เขาก็ไม่ถ่ายมา เรากลัวว่าเขาจะหลอกเราเรื่องค่าเทอม เราเลยโทรหาเขาเพื่อจะถาม แต่เขาไม่รับโทรศัพท์เลย และตั้งใจไม่รับ สุดท้ายพิมพ์ด่าเรามาว่าเราประสาท กดดันเขาและบอกเลิก ส่วนเรื่องเงินเขาไม่มีทางโกงเราเอทีเอมก็อยุกับเรา สิ้นเดือนก็ไปกดตังเอาไปได้เลย กดไปให้หมดบัญชี แล้วก็ด่สว่าเราสารพัด
แต่สุดท้าย พอเราไปเช็คกับธนาคารปรากฏว่า เขามีแอพธนาคาร และได้อายัติบัตรเอทีเอ็มไปแล้ว ซึ่งเราโกรธมาก เราถามเขาเขาบอกเขาจะโอนผ่อนเองตามที่ตกลง แบบนี้เรียกตั้งใจหลอกมั๊ยคะ หรือเราประสาทเสียไปเอง ถ้าเขาผ่อนคืนเขาจะเรียกยืมเงินปกติมั๊ย ดำเนินคดีอะไรได้มั๊ยเรารู้สึกเหมือนโดนหลอกมากกว่า สับสนงงไปหมด เราสงสารเขามากถึงได้ยื่นมือไปช่วย
แต่สุดท้าย เขาบอกเราว่าเราไปร้ายกับเขาไปโวยวายว่าเขาจะโกง กดดันเขา แต่ดูที่เขาหลอกเรามันน่าโมโหมาก หรือถ้าเราเลือกที่จะเงียบไปตั้งแต่ตอนที่ให้เงินไม่ดิ้นรนตามเงิน โทรถาม ขอดูหลักฐานต่างๆ เขาคงไม่ขอเลิกกับเรา คงจะคบกันต่อ แต่อาจจะต้องมีการยืมเงินไปเรื่อยๆ เราผิดมั๊ยคะ
ปล.ลืมบอกว่าตอนแรกเขาบอกเราไม่มีหนี้นอกระบบแต่สุดท้ายเขามี เราเลยสงสัยระบแวงว่าเขาหลอกเรื่องค่าเทอมเพื่อไปใช้หนี้ เราเลยระแวงไปหมด
ระแวงคนคุยที่ยืมเงิน ผิดมากมั๊ย
เราคบกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านทางแอพหาคู่ ผู้ชายอายุน้อยกว่า ตอนแรกก็คุยกันดีมีชวนไปเที่ยว แต่เขาทำงานรายได้น้อยกว่าเรา ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายเราจะเป็นคนออก แต่ก็ไม่คิดอะไร ต่อมาเขาขอยืมเงินเราจ่ายค่าผ่อนงวดรถ ผ่อนโทรศัพท์ ด้วยความที่เราคิดว่าน่าจะคบกันได้ยาวเราเลยถามเขาว่า ทำไมหนี้เขาถึงเยอะจังเลยให้เขาบอกหนี้ที่มีทั้งหมดจะได้วางแผนเผื่อจะได้ช่วยปลดหนี้ และวางแผนคืนเงินให้เราได้ ซึ่งยอดหนี้มีค่อนข้างสูง เงินเดือนเขาแค่ 14,000 แต่หนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือสเกือบๆ 8000 ยังไม่รวมค้ากอนและถ้ายืมเราก็ต้งหักจ่ายคืนเราด้วย และมีที่ค้างมาก่อนต้องเอาเงินก้อนไปปิดประมาน 27000 ซึ่งเราก็ให้ยืมและจะให้ผ่อนใช้คืนเป็นรายเดือน เขาก็ยอมแต่เงื่อนไขคือให้เอาบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีของเขามาให้เราถือไว้ ซึ่งเขาบอกว่าเขาไม่มีแอพไม่สามารถกดเงินได้
ต่อมาเขาบอกว่ามีปัญหากับที่บ้านเพราะเขาเอาทองของยายไปจำนำเอาเงินไปหมุน ทำให้ที่บ้านโกรธมากไล่ออกจากบ้าน เลยจะขอให้เราช่วย ไถ่ทองเพื่อที่จะได้ให้ที่บ้านยกโทษให้ อีก 22000 บาท ซึ่งเราก็สงสาร ระหว่างนี้มีเหตุให้เรากับเขาต้องแยกกันอยุไกลมาก หลังจากได้เงินค่าไถ่ทองไป เขาก็ไม่ค่อยติดต่อเรามาเหมือนเมื่อก่อนอ้างว่างานเยอะซึ่งก็อาจจะจริง และยังมีทักมาขอเงินทีละ 100 ซึ้งเราไม่ให้ เขาก็ไม่ค่อยพอใจ และไม่ค่อยคุยด้วย เราไม่เคยไปเช็คเรื่องเอทีเอ็มว่ากดได้มั๊ย หรือเงินเดือนเข้าบัญชีนี้จริงมั๊ย ด้วยความเชื่อใจ (ลืมบอกว่าระยะเวลาที่คบกับเขาแล้วยืมเงินประมาน 2 เดือน) แม่เราเริ่มรู้ว่าเราให้เขายืมเงินและกลัวว่าเราจะโดนหลอก เลยให้เราโทรไปถาม ปรากฏว่าเขาไม่รับโทรศัพท์ เปนสิบสาย ทำให้แม่ยิ่งด่าว่าๆ เขาโกงแน่นอน แต่สุดท้ายเขารับ และบอกว่าติดธุระน้าป่วยหนักเข้ารพ. เลยไม่ได้รับ และด่าเรายกใหญ่ว่าตื่นตูม ไปฟ้องแม่ ทำให้แม่เรามองเขาไม่ดี ไม่คิดจะโกง เอทีเอมก็มี จะอะไรหนักหนา บลาๆ เราก็ขอโทษเขาไปว่าเราอาจจะกลัวไปเพราะเราเคยเจอคนที่เขาทำแบบนี้ แม่ก็บอกว่าอย่าไปเชื่ออีกห้ามให้ยืมเงิน แต่ไม่วายเขามาบอกว่าที่เขาหายๆไปเพราะไปหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเทอมสุดท้ายที่เรียน หาเงินไม่ได้เลย ไม่รุ้จะทำไง ชีวิตกำลังจะพังบลาๆ เราด้วยความเปนห่วง ก็โทรไปหลายสายกะจะช่วย เขาก็ไม่รับ เขาก็คงคิดว่าโทรจิก โทรตาม ก็โมโหใส่ สุดท้ายคุยกันเราก็บอกว่าจะช่วยค่าเทอมให้นะ เขาก็กลับมาพูดดี พอเราโอนค่าเทอมไปให้ เราบอกว่าถ้าจ่ายแล้วให้ถ่ายสลิปค่าเทอมมาให้ดูด้วย เขาก็ไม่ถ่ายมา เรากลัวว่าเขาจะหลอกเราเรื่องค่าเทอม เราเลยโทรหาเขาเพื่อจะถาม แต่เขาไม่รับโทรศัพท์เลย และตั้งใจไม่รับ สุดท้ายพิมพ์ด่าเรามาว่าเราประสาท กดดันเขาและบอกเลิก ส่วนเรื่องเงินเขาไม่มีทางโกงเราเอทีเอมก็อยุกับเรา สิ้นเดือนก็ไปกดตังเอาไปได้เลย กดไปให้หมดบัญชี แล้วก็ด่สว่าเราสารพัด
แต่สุดท้าย พอเราไปเช็คกับธนาคารปรากฏว่า เขามีแอพธนาคาร และได้อายัติบัตรเอทีเอ็มไปแล้ว ซึ่งเราโกรธมาก เราถามเขาเขาบอกเขาจะโอนผ่อนเองตามที่ตกลง แบบนี้เรียกตั้งใจหลอกมั๊ยคะ หรือเราประสาทเสียไปเอง ถ้าเขาผ่อนคืนเขาจะเรียกยืมเงินปกติมั๊ย ดำเนินคดีอะไรได้มั๊ยเรารู้สึกเหมือนโดนหลอกมากกว่า สับสนงงไปหมด เราสงสารเขามากถึงได้ยื่นมือไปช่วย
แต่สุดท้าย เขาบอกเราว่าเราไปร้ายกับเขาไปโวยวายว่าเขาจะโกง กดดันเขา แต่ดูที่เขาหลอกเรามันน่าโมโหมาก หรือถ้าเราเลือกที่จะเงียบไปตั้งแต่ตอนที่ให้เงินไม่ดิ้นรนตามเงิน โทรถาม ขอดูหลักฐานต่างๆ เขาคงไม่ขอเลิกกับเรา คงจะคบกันต่อ แต่อาจจะต้องมีการยืมเงินไปเรื่อยๆ เราผิดมั๊ยคะ
ปล.ลืมบอกว่าตอนแรกเขาบอกเราไม่มีหนี้นอกระบบแต่สุดท้ายเขามี เราเลยสงสัยระบแวงว่าเขาหลอกเรื่องค่าเทอมเพื่อไปใช้หนี้ เราเลยระแวงไปหมด