สำหรับใครที่กำลังจะเข้ารับการเกณฑ์ทหาร หรือพ่อแม่ที่บุตรหลานกำลังจะเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ผมอยากให้คุณได้อ่านกระทู้นี้จนจบ!
โดยผมขอเริ่มตั้งแต่ก่อนเป็นทหารเกณฑ์เลยนะครับ
ทางครอบครัวผมอยากให้ผมรับราชการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทหารหรือตำรวจ เหตุผลก็คงเหมือนกับครอบครัวใครหลายๆคน คือสวัสดิการดี อนาคตสบาย แต่ก็ไม่เสมอไป ส่วนตัวผมเองไม่ชอบข้าราชการสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่คิดจะเป็นเด็ดขาด แต่พออายุถึงเกณฑ์ ก็ต้องลุ้นจับใบดำใบแดง สำหรับกรณีที่ไม่ได้เรียน รด. และร่างกายปกตินะครับ
ช่วงนั้นผมได้รับทุนเรียนฟรีจากวิทยาลัยที่นึง แต่ต้องทำงานด้วย ผมก็ไป เพราะไม่อยากรบกวนทางบ้านเรื่องค่าเทอมค่าอยู่ค่ากินต่างๆ เรียน 4 ปี ได้วุฒิ ป.ตรี และมีงานรองรับทันที เรียนแบบออนไลน์ และทำงานร้านสะดวกซื้อ เรียนไปจบ 2 ปีแรก แม่ก็โทรมาหา บอกว่ามีหมายเรียกทหารมาที่บ้าน ผมตกใจมาก ทั้งที่ผมอายุ 20 มันเกณฑ์ตอน 21 ไม่ใช่หรอ เลยเข้าไปดูในไลน์กลุ่ม น.ศ. มีอัลบั้มนึง เป็นรายชื่อคนที่ต้องผ่อนผันทหาร ซึ่งมีชื่อผม แต่ผมไม่ได้ผ่อนผัน ยอมรับว่าไม่เช็คให้ดี และประมาทเองด้วย เพราะคิดว่า ตัวเองน่าจะผ่อนผันปีหน้า ไม่ใช่ปีนี้ ผมเกิดเดือน มิ.ย. ถ้านับปี ผมก็อายุ 21 จริงๆ แค่ยังไม่ถึงวันเกิด ผมก็ต้องหยุดเรียนไป แต่ยังทำงานอยู่นะครับ คิดว่าจะลาออกก่อนเข้ากรม เพราะผมเองก็พึ่งได้เลื่อนขั้น เงินเดือนก็เพิ่มขึ้น เลยยังไม่อยากออกตอนนั้น ทำงานเก็บเงินไว้ก่อน
วันไปมอบตัวก่อนจับฉลาก ผมก็ไปมอบตัวตามปกติ เสียค่าปรับ 100 เพราะไปมอบตัวช้า และถูกถามคำถามนึงว่า ไม่อยากเกณฑ์มั้ย ให้พ่อแม่มาคุยสิ ผมก็บอกไปว่า ไม่เป็นไรครับ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร แต่บ้านผมฐานะไม่ได้ดีขนาดนั้นอยู่แล้ว ก็เหมือนเดิม ขอไม่รบกวนทางบ้าน เสี่ยงดวงเอาละกัน
มาถึงวันจับฉลาก ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก ก่อนมาก็ไปบนกับแม่นาคมาแล้วด้วย 555 ไม่อยากเป็นสุดๆ ถึงกับใส่เสื้อกลับด้านไปจับฉลาก มารู้ตัวอีกทีตอนเค้าให้ถอดเสื้อดูร่างกาย ถึงรู้ว่าใส่เสื้อกลับด้าน อายมาก 555 ผมนั่งอยู่แถวสุดท้าย คอยนับตลอด ใบแดงออกไปกี่ใบ ใบดำออกไปกี่ใบ พอถึงคิวผม ผมนับได้ว่า ใบแดงมันเหลือ 1 ใบดำมันเหลือ 4 เอาวะ เราคงไม่ดวงซวยขนาดนั้น 5 คนสุดท้ายกับใบแดง 1 ใบ ต้องไม่ใช่เรา ใจก็นึกถึงแม่นาคตลอดเวลา พอหยิบขึ้นมา กำลังจะประกาศ ใจเต้นแรงมาก พอประกาศว่าใบแดงเท่านั้น ไอ้ 4 คนสุดท้ายมันลุกขึ้นดีใจกันสุดเหวี่ยง ตัวผมนี่แทบทรุด กลับถึงบ้านร้องไห้ไปยกใหญ่ 555
แล้วก็มาถึงวันที่จะต้องเข้ากรม โอเคเลย มีรถบัสทหารมารอรับ มีอาหารว่างให้กิน ทุกอย่างดูปกติ แต่จริงๆ ตาแดง อยากจะวิ่งหนีตลอด ระหว่างที่นั่งรถกับแม่มา ถามแม่ว่าหนีดีมั้ย ไม่อยากเป็นอะ แม่ก็บอกว่า ทนเอาลูก 2 ปีเอง ถ้าเราหนี คดีมัน 15 ปี 20 ปี เลยนะลูก ผมก็ได้แต่ทำใจ แล้วเข้ากรมไปซะอย่างนั้น
ผมขอผ่านช่วงฝึกไปเลยนะครับ จากนี้จะเป็นปัญหาที่ผมเจอ ใครที่ดัดฟันอยู่ คงรู้ว่าถ้าเหล็กหลุด มันมีโอกาสที่ฟันจะล้ม ตัวผมนั้น เหล็กหลุดตั้งแต่เข้าฝึกเดือนแรก แต่ก็ทนจนฝึกเสร็จ คิดว่าจะได้ลากลับบ้าน แต่ไม่เลย ไม่ได้ลา ร่วม 3 เดือนได้ และปวดฟันมาก ผมขอลากิจ ยังไม่ได้เลย ช่วงเดือนที่ 2 ของการฝึก ยายผมเสีย ซึ่ง ผมก็ลาไม่ได้ เพราะนามสกุลไม่เหมือนกัน ตรงนี้ผมงงมาก คนในครอบครัวเสียเลยนะ ผมเชื่อว่าในหลายๆครอบครัว ก็คงไม่ได้ใช้นามสกุลเหมือนกันทั้งบ้าน แต่ครอบครับก็คือครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ลาอยู่ดี
ฝึกเสร็จเราจะได้รับเงินเดือนของ 3 เดือนแรกที่เราฝึกอยู่พร้อมสมุดบัญชี และบัตร ที่ถูกหักค่าชุดทหารที่คุณใส่ไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างคิดเงินหมด ชุดฝึกชุดตัด บลาๆ หักหมด เงินจะเหลือราวๆ 1 หมื่น+ บางคนก็ไม่ถึง หากส่งให้ที่บ้าน แต่ผมไม่ได้ส่ง หลังจากนั้น เงินเดือนของคุณจะออกเกือบวันที่ 10 ของเดือนถัดไป ใครมีภาระต้องจ่ายช่วงสิ้นเดือน ก็บริหารเงินเดือนดีๆนะครับ เหลือเอาไว้จ่ายด้วย เงินเดือนของทหารเกณฑ์คือ 6,924 บาท ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง ซึ่งจะออกทุกๆ 10 วัน งวดละ 960 บาท แต่!!!! อ่านดีๆนะครับ เบี้ยเลี้ยง 960 บาท จะถูกหักค่าอาหาร 750 บาท แล้วเหลือให้คุณ 210 บาท เอาล่ะ มาถึงตรงนี้ ผมอยากบอกพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายที่บอกว่า เป็นทหารมันดี ข้าวฟรี มีที่ซุกหัวนอน ถูกครึ่งนึงครับ มีที่ซุกหัวนอนจริง แต่ข้าวไม่ได้ฟรีนะครับ หักเงินนะครับ ใครบอกข้าวฟรี เปลี่ยนความคิดด่วนๆ
ใน 10 วันหักค่าอาหาร 750 บาท ตกวันละ 75 บาท แล้วทหารมีกี่คน งบค่าอาหารไม่พอหรืออะไรยังไงบอกที หักเงินไปแล้ว จะกินหรือไม่กิน ก็ตามใจเลยครับ แต่หักเงินแล้วแค่นั้น
หลังจากนั้น ชีวิตก็วนลูป ตัดหญ้า ทำความสะอาด รอวันลา ใช้ชีวิตไปวันๆ ผมจำได้เรื่องนึง วันที่แม่มาส่งตัวเข้ากรม มีนายทหารคนนึงยืนกล่าวสุนทรพจน์ ผมจับใจความตอนนึงได้ว่า ทหารบางคน พอปลดไป มีเงินออกรถได้เลย ผมก็คิดในใจ ทหารเงินเดือนเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ พอมาวันนี้ถึงได้เข้าใจ ว่ามันออกได้แค่รถบังคับเด็กเล่น เป่าหูกันขนาดนั้น พ่อแม่ที่ใหนไม่อยากให้ลูกเป็นตำรวจทหารบ้างล่ะ สำหรับคนที่ชอบ ผมไม่คัดค้าน แต่ผมพูดในความรู้สึกของผม อนาคตสบาย บางคนจะเกษียณแล้ว ยังเป็นได้แค่จ่าอยู่เลย มันไม่ได้สบายทุกคน ยอมรับว่าผมเองมีอคติกับอาชีพนี้มาก่อนแล้ว จึงไม่ชอบการเป็นทหารเลยสักนิด
คำว่าเกณฑ์ทหารเปลี่ยนชีวิต มันจริงครับ แต่มันจริงใน 2 กรณี หรือบางคน ก็ไม่ได้เปลี่ยนชีวิตเท่าไหร่ ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น
1. เปลี่ยนจากคนที่ชีวิตกำลังลำบาก ให้ดีขึ้นได้จริงๆ
2. เปลี่ยนจากคนที่ชีวิตดีอยู่แล้ว กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว ไม่ต้องพึ่งพาที่บ้านได้แล้ว ดูแลเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว เปลี่ยนให้ชีวิตมันพังทันที งานที่กำลังก้าวหน้า จะได้เลื่อนตำแหน่ง ต้องลาออก เงินเก็บแทบไม่เหลือ เพราะเงินเดือนทหาร มันไม่พอสำหรับภาระที่ต้องจ่าย หมายถึงของผมนะ สรุป ต้องกลับมาพึ่งพ่อแม่อีก ทุกอย่างพัง ดับ จนเคยคิดจะจบชีวิตตัวเอง
นี่คือเรื่องจริงที่ผมเจอ ประสบการณ์ตรงของผมเอง ซึ่งหลายๆคน อาจมีประสบการณ์ต่างจากผม ดีกว่าหรือแย่กว่าก็ได้ แต่ผมมาแชร์ประสบการณ์ของผมให้ได้อ่านเท่านั้น ไม่มีเจตนาหมิ่น ดูถูก หรือกล่าวโทษใครครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
รีวิวชีวิตเกณฑ์ทหาร
โดยผมขอเริ่มตั้งแต่ก่อนเป็นทหารเกณฑ์เลยนะครับ
ทางครอบครัวผมอยากให้ผมรับราชการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทหารหรือตำรวจ เหตุผลก็คงเหมือนกับครอบครัวใครหลายๆคน คือสวัสดิการดี อนาคตสบาย แต่ก็ไม่เสมอไป ส่วนตัวผมเองไม่ชอบข้าราชการสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่คิดจะเป็นเด็ดขาด แต่พออายุถึงเกณฑ์ ก็ต้องลุ้นจับใบดำใบแดง สำหรับกรณีที่ไม่ได้เรียน รด. และร่างกายปกตินะครับ
ช่วงนั้นผมได้รับทุนเรียนฟรีจากวิทยาลัยที่นึง แต่ต้องทำงานด้วย ผมก็ไป เพราะไม่อยากรบกวนทางบ้านเรื่องค่าเทอมค่าอยู่ค่ากินต่างๆ เรียน 4 ปี ได้วุฒิ ป.ตรี และมีงานรองรับทันที เรียนแบบออนไลน์ และทำงานร้านสะดวกซื้อ เรียนไปจบ 2 ปีแรก แม่ก็โทรมาหา บอกว่ามีหมายเรียกทหารมาที่บ้าน ผมตกใจมาก ทั้งที่ผมอายุ 20 มันเกณฑ์ตอน 21 ไม่ใช่หรอ เลยเข้าไปดูในไลน์กลุ่ม น.ศ. มีอัลบั้มนึง เป็นรายชื่อคนที่ต้องผ่อนผันทหาร ซึ่งมีชื่อผม แต่ผมไม่ได้ผ่อนผัน ยอมรับว่าไม่เช็คให้ดี และประมาทเองด้วย เพราะคิดว่า ตัวเองน่าจะผ่อนผันปีหน้า ไม่ใช่ปีนี้ ผมเกิดเดือน มิ.ย. ถ้านับปี ผมก็อายุ 21 จริงๆ แค่ยังไม่ถึงวันเกิด ผมก็ต้องหยุดเรียนไป แต่ยังทำงานอยู่นะครับ คิดว่าจะลาออกก่อนเข้ากรม เพราะผมเองก็พึ่งได้เลื่อนขั้น เงินเดือนก็เพิ่มขึ้น เลยยังไม่อยากออกตอนนั้น ทำงานเก็บเงินไว้ก่อน
วันไปมอบตัวก่อนจับฉลาก ผมก็ไปมอบตัวตามปกติ เสียค่าปรับ 100 เพราะไปมอบตัวช้า และถูกถามคำถามนึงว่า ไม่อยากเกณฑ์มั้ย ให้พ่อแม่มาคุยสิ ผมก็บอกไปว่า ไม่เป็นไรครับ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร แต่บ้านผมฐานะไม่ได้ดีขนาดนั้นอยู่แล้ว ก็เหมือนเดิม ขอไม่รบกวนทางบ้าน เสี่ยงดวงเอาละกัน
มาถึงวันจับฉลาก ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก ก่อนมาก็ไปบนกับแม่นาคมาแล้วด้วย 555 ไม่อยากเป็นสุดๆ ถึงกับใส่เสื้อกลับด้านไปจับฉลาก มารู้ตัวอีกทีตอนเค้าให้ถอดเสื้อดูร่างกาย ถึงรู้ว่าใส่เสื้อกลับด้าน อายมาก 555 ผมนั่งอยู่แถวสุดท้าย คอยนับตลอด ใบแดงออกไปกี่ใบ ใบดำออกไปกี่ใบ พอถึงคิวผม ผมนับได้ว่า ใบแดงมันเหลือ 1 ใบดำมันเหลือ 4 เอาวะ เราคงไม่ดวงซวยขนาดนั้น 5 คนสุดท้ายกับใบแดง 1 ใบ ต้องไม่ใช่เรา ใจก็นึกถึงแม่นาคตลอดเวลา พอหยิบขึ้นมา กำลังจะประกาศ ใจเต้นแรงมาก พอประกาศว่าใบแดงเท่านั้น ไอ้ 4 คนสุดท้ายมันลุกขึ้นดีใจกันสุดเหวี่ยง ตัวผมนี่แทบทรุด กลับถึงบ้านร้องไห้ไปยกใหญ่ 555
แล้วก็มาถึงวันที่จะต้องเข้ากรม โอเคเลย มีรถบัสทหารมารอรับ มีอาหารว่างให้กิน ทุกอย่างดูปกติ แต่จริงๆ ตาแดง อยากจะวิ่งหนีตลอด ระหว่างที่นั่งรถกับแม่มา ถามแม่ว่าหนีดีมั้ย ไม่อยากเป็นอะ แม่ก็บอกว่า ทนเอาลูก 2 ปีเอง ถ้าเราหนี คดีมัน 15 ปี 20 ปี เลยนะลูก ผมก็ได้แต่ทำใจ แล้วเข้ากรมไปซะอย่างนั้น
ผมขอผ่านช่วงฝึกไปเลยนะครับ จากนี้จะเป็นปัญหาที่ผมเจอ ใครที่ดัดฟันอยู่ คงรู้ว่าถ้าเหล็กหลุด มันมีโอกาสที่ฟันจะล้ม ตัวผมนั้น เหล็กหลุดตั้งแต่เข้าฝึกเดือนแรก แต่ก็ทนจนฝึกเสร็จ คิดว่าจะได้ลากลับบ้าน แต่ไม่เลย ไม่ได้ลา ร่วม 3 เดือนได้ และปวดฟันมาก ผมขอลากิจ ยังไม่ได้เลย ช่วงเดือนที่ 2 ของการฝึก ยายผมเสีย ซึ่ง ผมก็ลาไม่ได้ เพราะนามสกุลไม่เหมือนกัน ตรงนี้ผมงงมาก คนในครอบครัวเสียเลยนะ ผมเชื่อว่าในหลายๆครอบครัว ก็คงไม่ได้ใช้นามสกุลเหมือนกันทั้งบ้าน แต่ครอบครับก็คือครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ลาอยู่ดี
ฝึกเสร็จเราจะได้รับเงินเดือนของ 3 เดือนแรกที่เราฝึกอยู่พร้อมสมุดบัญชี และบัตร ที่ถูกหักค่าชุดทหารที่คุณใส่ไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างคิดเงินหมด ชุดฝึกชุดตัด บลาๆ หักหมด เงินจะเหลือราวๆ 1 หมื่น+ บางคนก็ไม่ถึง หากส่งให้ที่บ้าน แต่ผมไม่ได้ส่ง หลังจากนั้น เงินเดือนของคุณจะออกเกือบวันที่ 10 ของเดือนถัดไป ใครมีภาระต้องจ่ายช่วงสิ้นเดือน ก็บริหารเงินเดือนดีๆนะครับ เหลือเอาไว้จ่ายด้วย เงินเดือนของทหารเกณฑ์คือ 6,924 บาท ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง ซึ่งจะออกทุกๆ 10 วัน งวดละ 960 บาท แต่!!!! อ่านดีๆนะครับ เบี้ยเลี้ยง 960 บาท จะถูกหักค่าอาหาร 750 บาท แล้วเหลือให้คุณ 210 บาท เอาล่ะ มาถึงตรงนี้ ผมอยากบอกพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายที่บอกว่า เป็นทหารมันดี ข้าวฟรี มีที่ซุกหัวนอน ถูกครึ่งนึงครับ มีที่ซุกหัวนอนจริง แต่ข้าวไม่ได้ฟรีนะครับ หักเงินนะครับ ใครบอกข้าวฟรี เปลี่ยนความคิดด่วนๆ
ใน 10 วันหักค่าอาหาร 750 บาท ตกวันละ 75 บาท แล้วทหารมีกี่คน งบค่าอาหารไม่พอหรืออะไรยังไงบอกที หักเงินไปแล้ว จะกินหรือไม่กิน ก็ตามใจเลยครับ แต่หักเงินแล้วแค่นั้น
หลังจากนั้น ชีวิตก็วนลูป ตัดหญ้า ทำความสะอาด รอวันลา ใช้ชีวิตไปวันๆ ผมจำได้เรื่องนึง วันที่แม่มาส่งตัวเข้ากรม มีนายทหารคนนึงยืนกล่าวสุนทรพจน์ ผมจับใจความตอนนึงได้ว่า ทหารบางคน พอปลดไป มีเงินออกรถได้เลย ผมก็คิดในใจ ทหารเงินเดือนเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ พอมาวันนี้ถึงได้เข้าใจ ว่ามันออกได้แค่รถบังคับเด็กเล่น เป่าหูกันขนาดนั้น พ่อแม่ที่ใหนไม่อยากให้ลูกเป็นตำรวจทหารบ้างล่ะ สำหรับคนที่ชอบ ผมไม่คัดค้าน แต่ผมพูดในความรู้สึกของผม อนาคตสบาย บางคนจะเกษียณแล้ว ยังเป็นได้แค่จ่าอยู่เลย มันไม่ได้สบายทุกคน ยอมรับว่าผมเองมีอคติกับอาชีพนี้มาก่อนแล้ว จึงไม่ชอบการเป็นทหารเลยสักนิด
คำว่าเกณฑ์ทหารเปลี่ยนชีวิต มันจริงครับ แต่มันจริงใน 2 กรณี หรือบางคน ก็ไม่ได้เปลี่ยนชีวิตเท่าไหร่ ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น
1. เปลี่ยนจากคนที่ชีวิตกำลังลำบาก ให้ดีขึ้นได้จริงๆ
2. เปลี่ยนจากคนที่ชีวิตดีอยู่แล้ว กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว ไม่ต้องพึ่งพาที่บ้านได้แล้ว ดูแลเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว เปลี่ยนให้ชีวิตมันพังทันที งานที่กำลังก้าวหน้า จะได้เลื่อนตำแหน่ง ต้องลาออก เงินเก็บแทบไม่เหลือ เพราะเงินเดือนทหาร มันไม่พอสำหรับภาระที่ต้องจ่าย หมายถึงของผมนะ สรุป ต้องกลับมาพึ่งพ่อแม่อีก ทุกอย่างพัง ดับ จนเคยคิดจะจบชีวิตตัวเอง
นี่คือเรื่องจริงที่ผมเจอ ประสบการณ์ตรงของผมเอง ซึ่งหลายๆคน อาจมีประสบการณ์ต่างจากผม ดีกว่าหรือแย่กว่าก็ได้ แต่ผมมาแชร์ประสบการณ์ของผมให้ได้อ่านเท่านั้น ไม่มีเจตนาหมิ่น ดูถูก หรือกล่าวโทษใครครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ