เข้าทำนองที่ว่า 1. ต่อให้เราทำความดีแค่ใหนก็ตาม ถ้าคนอื่น ๆ ไม่ชอบหน้า เกลียดชังเรา เราก็จะถูกคนอื่น ด่า ต่อว่า ตำหนิ ว่าเราเป็นคนชั่วอยู่ร่ำไป โดยไม่เห็นความดีที่เราทำ เผลอ ๆ คนอื่น ๆ เหล่านั้นจะช่วยคนที่เขาชอบมาซ้ำเติมแล่นงานเราซะด้วยซ้ำ
2. ต่อให้เขาทำชั่วแค่ใหน ผิดพลาดมากแค่ใหน ถ้าคนอื่น ๆ รักชอบเขา เขาก็จะถูกชมเชยว่าดี หรือ ช่วยรับหน้า แก้ต่าง หรือให้ท้ายอยู่ร่ำไป โดยตาใจบอด มองไม่เห็นความชั่วที่เขาทำ หรือไม่ก็โกหกตัวเอง ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะเขาคนนั้นให้ผลประโยชน์แก่ฝ่ายของตน ไม่สนว่าอีกฝ่ายเขาจะเดือดร้อนหรือไม่
คนยุคนี้เอาแต่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์แก่ฝ่ายตนเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ เช่น ฉัน เพื่อน หรือ ครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนสุข สบาย ร่ำรวย คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันหนะ่หรือ
คนยุคนี้เอาแต่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์แก่ฝ่ายตนเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ
2. ต่อให้เขาทำชั่วแค่ใหน ผิดพลาดมากแค่ใหน ถ้าคนอื่น ๆ รักชอบเขา เขาก็จะถูกชมเชยว่าดี หรือ ช่วยรับหน้า แก้ต่าง หรือให้ท้ายอยู่ร่ำไป โดยตาใจบอด มองไม่เห็นความชั่วที่เขาทำ หรือไม่ก็โกหกตัวเอง ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะเขาคนนั้นให้ผลประโยชน์แก่ฝ่ายของตน ไม่สนว่าอีกฝ่ายเขาจะเดือดร้อนหรือไม่
คนยุคนี้เอาแต่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์แก่ฝ่ายตนเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ เช่น ฉัน เพื่อน หรือ ครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนสุข สบาย ร่ำรวย คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันหนะ่หรือ