สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
จากกระทู้ที่แล้วที่ตั้งไป ก็ตัดสินใจได้ว่าเลิกดีกว่า แล้วใช่เราก็ไปนัดเจอและเลิกกับเค้าจริงๆ
ยิ่งวันที่นัดคุย ยิ่งมั่นใจว่า ตัดสินใจถูกแล้วที่เลิก
แต่.....ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงก็ตามมาหลังจากนั้นไม่กี่วัน
เป้าหมายชีวิตเรา
1.ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในเลเวลที่เราตั้งใจไว้ (กำลังทำอยู่ แต่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย)
2.เก็บเงินสร้างบ้าน สร้าง safe zone ให้ตัวเอง
3.เลี้ยงสัตว์ให้ครบทุกชนิดที่อยากเลี้ยง
และ ใช่ การมีลูกไม่เคยอยู่ในสมการ เพราะ ไม่เชื่อเรื่องความรักที่อยู่ชั่วนิรันดร์ มีแฟนโอเค แต่มีลูกขอคิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนานๆๆๆเลย
ไม่อยากมีอะไรผูกพันธ์เหมือนผ่อนของตลอดชีวิตผ่อนยันตาย
เราคบกับอีแฟนคนที่พูดถึงในช่วงแรก ทุกอย่างดี ถถถถถถถถ ดีสิ จะจีบนิเนาะ อะไรออกมาจากปากเค้าเกี่ยวกับพื้นฐานครอบครัว คนในครอบครัวก็ฟังดูโอเค ไม่แย่ ปกติดี นี่ก็เป็นส่วนนึงเวลาเราตัดสินใจเลือกใคร เพราะคิดว่าสังคมที่ระดับเดียวกัน พื้นฐานใกล้ๆกันจะเข้าใจและมีมุมมองในทิศทางที่คล้ายๆกัน
แต่ยิ่งนานวันยิ่งรู้มากขึ้นเรื่อย ตัวเข้าเองก็ไม่ได้เป็นแบบที่โฆษณาไว้ ก็ผิดหวังในระดับนึงแล้ว แต่เค้าก็ยังคงมั่นใจว่าหน้าที่การงานของเค้าดี การเรียนของเค้าก็ดี ประวัติการคบหากับแฟนเก่าก็เป็นคบยาวคบนานไม่ได้เปลี่ยนบ่อย จร้าๆน่าจะคบได้
ผิดหวัง 1 พบว่า lifestyle ไม่ได้เป็นดั่งที่พูด
ผิดหวัง 2 พบว่า ตำแหน่งงานสูงได้เลื่อนขั้นตลอดเวลา แต่เพียง 1 ปีกว่าที่แล้ว หมดเนื้อหมดตัวแม้กระทั้งเงิน 2000 ยังต้องยืมคนอื่น
ผิดหวัง 3 พบว่า พี่สาวที่บรรจุบันเที่ยวอยู่ต่างแดน เรียนจบแค่ ม.ปลาย และเคยเป็นแค่หัวหน้า พนง ทำความสะอาด ทำงานเก็บเงิน ตระเวนเที่ยว เงินหมด กลับมาทำงานใหม่ วนลูป แต่เวลาเราได้ยินเรื่องเค้าผ่านอีแฟนเก่า พูดสะเหมือนเป็นช่างภาพ freeland ค่าตัวสูง (แอบไปดูพอร์ตมา ...เอ่อ แค่นี้เรียกค่าจ้างได้เยอะจิงอ่อว่า อายุ 36 ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีอาชีพมั่นคง
ผิดหวัง 4 ตอนเจอกับน้องสาว คุยเรื่อยเปื่อยกัน และมีครั้งที่เค้าพูดว่า เนี่ยนะถ้าเจอผู้ชายในผับ สิ่งแรกที่จะถามคือคุณขับรถอะไร ถ้าพวกรถกระป๋องฉันไม่คุยด้วยนะ (เราก็ฟังและแบบเอ่อมั่นหน้าดีนะ ไหนขอรู้จักหน่อย เหตุอันใดรสนิยมสูงกันทั้งพี่ทั้งน้อง ) สรุปน้องก็เรียนไม่จบ และ หาเงินจากการรับจ้างไปทำเล็บตามบ้าน เพ้นต์เล็บพลาสติกขาย อะไรกันครับเนี่ยยยย
ผิดหวัง 5 ตอนเจอหน้าครอบครัวเค้า เราเป็นคนขับรถเรา พาแฟนไปหัวหิน (ขับเอง ออกค่าน้ำมันเองทั้งทริป) เพราะครอบครัวมาซื้อบ้านที่หัวหินเพื่ออยู่ตอนเกษียร ดินเนอร์ แรกตลาด cicada .......... สุดดดดด พ่อแม่ให้ตังลูกเค้าไป 500 (เฮลโล่วววว มีกัน 5 คน จะพอไงว่ะ ) เราเลยชวนแฟนไปเดินซื้อกัน หมดไปเกือบพัน ใครออก กรูสิค่ะ แล้วก็เอาอาหารกลับมาที่โต๊ะ มาทานร่วมกัน สรุปอาหารเหลือ แม่เค้าเลยเอาเทรวมๆกันใส่ถาด กลับบ้าน
วันที่ 2 ที่อยู่ด้วยกับครอบครัวเค้า เราก็คิดว่าคืนนี้น่าจะเป็น proper dinner แนะนำเรากับครอบครัวอย่างเป็นทางการงี้ สรุปกินอาหารเหลือ จากเมื่อวาน และ ไม่ยอมแช่ตู้เย็นด้วยนะ เราเตือนแล้วว่ามันอาจจะเสีย บ้านเราอากาศร้อนนะ ก็ไม่แช่ สรุปได้กินอาหารเน่าเข้าเตาอบใหม่ แล้วมาล้อมวงเอาไม้จิ้มๆกินเป็น dinner เรานี้แบบโครตหิว จิงๆก็ไม่กล้ากิน แต่ต้องทำเป็น enjoy ด้วยไปก่อน เป็นบ้านเราคือทิ้งแล้วนะ อยากร้องไห้
กลับมาไม่นานเราก็ขอเค้าเลิก เค้าเสียใจมากและบอกว่าเทอสำคัญมากจริงๆเค้าถึงได้พาเราไปเจอครอบครัวเค้า ครอบครัวเค้ารักและตอนรับเราทุกคน ทำไมเราต้องหาเรื่องเลิกหลังจากเหตุการณ์สำคัญแบบนี้ (เจอครอบครัวเค้า) แกร...... มันต่างกัน มันเห็นอะไรหลายๆอย่างว่าเรามันต่างกันจริงๆ ครอบครัวเราไม่ตอนรับใครแบบนี้ ตอนครอบครัวเราเจอแฟนเก่า เราก็จองห้อง private ในร้านอาหารที่ดีเพื่อตอนรับ ไม่ได้ตอนรับแบบให้เดินไปหาซื้อกินเองใน foodcourt และ นั่งกินอาหารเน่าในวันถัดมา
เค้าก็ยังคงมองว่าเรางี่เง่าจะเลิก เพราะกลัวการผูกมักบลาๆ จะบอกเหตุผลตรงๆ ถามจริงจะรับได้หรอ ทรรศนคติ พี่น้องเทอ

เพี้ยนไปหมด lifestyle บ้านเทอก็ไม่ใช่ทางเราเลยว่ะ การได้รับคือดี ชอบๆ ยิ่งฟรียิ่งดี การพูดเรื่องเกินจริงคือปกติ สัญญาแล้วทำไม่ได้ก็ปกติ เค้าบอกเราอ่ะคิดมากเรื่องสัจจะ คำสัญญามากเกินไป เรามัน impress ยากเอง น้องชายฉันเลยต้องโม้ไปเยอะให้เทอชอบไง
แต่เรามันโง่แล้วโง่อีก เอ่อช่างครอบครัวเค้า ไม่ได้จะอยู่ด้วยอยู่ดีแฟนเราน่าจะมีอนาคตสุดในบ้าน โอเคแหละมั้ง เราสร้างครอบครัวกันเอง อยู่กัน 2 คนไม่ข้องเกี่ยวคนอื่น คงไม่เป็นไรหรอก
ก็คบต่อมา จนกระทั่งวันนึงความสะอิดสะเอียนมันถึงที่สุด เกลียดความมั่น ฉันพูดภาษาอังกฤษดีที่สุดในบรรดาแฟนเก่าเทอ ใช่สิ เป็นคนอังกฤษตั้งแต่เกิดพูดไม่ได้คือต้องเป็นใบ้แล้วนะ ฉันถือพาสปอร์ตที่มีอำนาจนะ ฉันหน้าตาดีสุดเทียบจากบรรดาแฟนเก่าเทอ ฉันสัดส่วนสมมาตร ตัว 50 ขา 50 อะไรของมันว่ะ ฉันเล่นกีฬาเป็นหลายชนิด ......แล้วไงหรอ
สรุปเราขอห่าง เพื่อถอยออกมาดูกันอีกรอบ เค้ากลับอังกฤษไปเดือนนึง ทุกๆอย่างมันดีขึ้นจากการมีเวลาพูดโทรศัพท์กันน้อยลง แบบไม่ต้องเจอตัว
พอกลับมาเจอกันเราทั้งคู่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้น
จนวันนึงเราป่วย ในคืนนั้นเข้ายังขอมี sex ด้วย เราบอกเอาจิงดิป่วยอยู่มันไม่ได้ไหม โอเคผ่านคืนนั้นไปเช้าวันต่อมาเราต้องรีบแต่งตัวไปทำงาน เอาอีกแล้วววว ขอมี sex ได้ไหม ตอนนั้นเราหมดคำจะพูดแล้วในใจเริ่มจะเลิกจริงๆเลิกถาวรเลยนะ ก็ไม่ให้
ผ่านมา 1-2 สัปดาห์เราเริ่มเจ็บหน้าอก ก็คิดว่าเดี๋ยวรอบเดือนน่าจะมา แต่มันก็เร็วไปนะ แต่รอบเดือนเราไม่เคยนับเราคงจำช่วงเวลาไม่ได้เองมั้ง
ตอนนั้นยังพูดเล่นกับเค้าเลยว่า ถ้าท้องทำไง เค้าบอกไม่นะ หวังว่าจะไม่ แต่มันยังที่ถึงวันที่เราคิดว่ารอบเดือนจะมา
และแล้ว เราก็เลิกกับระหว่างนั้น เพราะเราตกตะกอนแล้วว่า คำว่าแคร์ความรู้สึกเราดูแลเราที่เค้าพูดมันโครตปลอม ปลอมพอๆกับทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเค้าและครอบครัวเค้า เค้าขอเราว่า ส่งข้อความติดต่อกันบ้างนะ เป็นเพื่อน นัดเจอเดือนละครั้งก็ได้
และวันแห่งความล้มสลายก็มาถึง มันเลยวันที่รอบเดือนควรจะมา เรากังวลหนักเข้าไปอีก เลยไปซื้อที่ตรวจมา และมันก็ขึ้นว่าท้อง ชิป...ล่ะ เราส่งข้อความไปบอกเค้าเค้ารีบโทรมา พูดว่า we need to talk we gonna do this เรายิ่งสติแตกไปอีก ก็บอกว่าก็พูดอยู่ก็พูดมาสิจะพูดอะไร แล้วจะ do this หมายความว่าไง จะทำอะไร เค้าก็ย้ำวนอยู่แบบนั้น เราก็วางสาย เค้าก็กระนำโทรมา แล้วก็พูดแบบเดิม we need to talk we gonna do this, me and you both hard working we gonna be mega อีกละ mega ยิ่งใหญ่ ยังไง how โครตน่ารำคาญเวลาไปยินประโยคแบบนี้ เราก็ตัดสาย ก็กระหน่ำมาทุกช่องทาง เราก็เลยบล๊อคไปก่อน เดี๋ยวรับ

ก็จะพูดวนอยู่แบบเดิมอีก ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเราก็ unblock แล้วโทรไปคุย เราถามเค้าว่าจะทำอะไรพูดแบบมีรายละเอียดนะ สรุปได้ว่าเค้าก็ยังไม่พร้อม ที่จะมีลูก แต่เค้าทำดีทุกอย่างแล้ว เราคือคนที่ไม่ยอมรักเค้า เค้าแคร์ดูแลเราทุกอย่าง (ตรงไหนว่ะ ป่วยยังจะขอเย%เราอีก หายาให้กินก่อนไหม อันนี้จุดแตกหักในใจเราแบบ 100%) และ ประโยคที่ทำให้เราทรุด กรีดร้องไห้ออกมา คือ ครั้งนี้เทอมาหลอกลวงอะไรเค้าหรือป่าว น้องชายเค้าก็รู้สึกไม่ปกติ เค้าจะไปตรวจบ้างดีกว่า อยากร้องเห๊ยยยยยยยยยดังมาก หมายความว่าไงว่ะ ทำไมเลวววววววววอย่างนี้
และตอนนี้เค้า block facebook instagram เราแล้ว ข้อความส่งไปก็ไม่อ่าน ตอบก็ตอบข้ามวัน เค้าบอกยังไงก็จะรับผิดชอบในส่วนนี้ คือพาไป รพ ไปยุติการตั้งครรถ์ แต่ตอนนี้ไม่เคยถามเราเลยว่าอาการเป็นไง สบายดีไหม รู้สึกยังไง ไม่หาข้อมูลไม่ถามเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ
เราโครตโง่ โง่ที่สุด เกลียดตัวเอง นึกว่าความรักครั้งนี้จะเยียวยาความรู้สึกที่เราหมดศรัทรากับความรัก แต่กลับทำให้ทุกอย่างแย่ที่สุด และจิตใจตกต่ำที่สุดในชีวิต
ใครมาอ่าน ใครเจอเรื่องคล้ายๆกันตั้งแต่แรกให้รีบหนีไป อย่าใจอ่อน อย่าให้โอกาสคนโกหก
ด่าเราเถอะ ให้กำลังใจก็ได้ เม้นอะไรก็ได้ เราอยากระบาย เราอึดอัด เราอยากได้ยินความคิดเห็นคนอื่นหลายๆคน
เรากำลังจะนัดคุยกับจิตแพทย์ด้วย มันรู้สึกดิ่งกับชีวิตแบบบอกไม่ถูกแล้วค่ะ
ขอบคุณคนที่เข้ามาทนอ่านจนจบจริงๆค่ะ
กระทู้ระบาย อึดอัด เครียด ท้อง และโดนเป็นคนผิดทุกครั้ง
จากกระทู้ที่แล้วที่ตั้งไป ก็ตัดสินใจได้ว่าเลิกดีกว่า แล้วใช่เราก็ไปนัดเจอและเลิกกับเค้าจริงๆ
ยิ่งวันที่นัดคุย ยิ่งมั่นใจว่า ตัดสินใจถูกแล้วที่เลิก
แต่.....ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงก็ตามมาหลังจากนั้นไม่กี่วัน
เป้าหมายชีวิตเรา
1.ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในเลเวลที่เราตั้งใจไว้ (กำลังทำอยู่ แต่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย)
2.เก็บเงินสร้างบ้าน สร้าง safe zone ให้ตัวเอง
3.เลี้ยงสัตว์ให้ครบทุกชนิดที่อยากเลี้ยง
และ ใช่ การมีลูกไม่เคยอยู่ในสมการ เพราะ ไม่เชื่อเรื่องความรักที่อยู่ชั่วนิรันดร์ มีแฟนโอเค แต่มีลูกขอคิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนานๆๆๆเลย
ไม่อยากมีอะไรผูกพันธ์เหมือนผ่อนของตลอดชีวิตผ่อนยันตาย
เราคบกับอีแฟนคนที่พูดถึงในช่วงแรก ทุกอย่างดี ถถถถถถถถ ดีสิ จะจีบนิเนาะ อะไรออกมาจากปากเค้าเกี่ยวกับพื้นฐานครอบครัว คนในครอบครัวก็ฟังดูโอเค ไม่แย่ ปกติดี นี่ก็เป็นส่วนนึงเวลาเราตัดสินใจเลือกใคร เพราะคิดว่าสังคมที่ระดับเดียวกัน พื้นฐานใกล้ๆกันจะเข้าใจและมีมุมมองในทิศทางที่คล้ายๆกัน
แต่ยิ่งนานวันยิ่งรู้มากขึ้นเรื่อย ตัวเข้าเองก็ไม่ได้เป็นแบบที่โฆษณาไว้ ก็ผิดหวังในระดับนึงแล้ว แต่เค้าก็ยังคงมั่นใจว่าหน้าที่การงานของเค้าดี การเรียนของเค้าก็ดี ประวัติการคบหากับแฟนเก่าก็เป็นคบยาวคบนานไม่ได้เปลี่ยนบ่อย จร้าๆน่าจะคบได้
ผิดหวัง 1 พบว่า lifestyle ไม่ได้เป็นดั่งที่พูด
ผิดหวัง 2 พบว่า ตำแหน่งงานสูงได้เลื่อนขั้นตลอดเวลา แต่เพียง 1 ปีกว่าที่แล้ว หมดเนื้อหมดตัวแม้กระทั้งเงิน 2000 ยังต้องยืมคนอื่น
ผิดหวัง 3 พบว่า พี่สาวที่บรรจุบันเที่ยวอยู่ต่างแดน เรียนจบแค่ ม.ปลาย และเคยเป็นแค่หัวหน้า พนง ทำความสะอาด ทำงานเก็บเงิน ตระเวนเที่ยว เงินหมด กลับมาทำงานใหม่ วนลูป แต่เวลาเราได้ยินเรื่องเค้าผ่านอีแฟนเก่า พูดสะเหมือนเป็นช่างภาพ freeland ค่าตัวสูง (แอบไปดูพอร์ตมา ...เอ่อ แค่นี้เรียกค่าจ้างได้เยอะจิงอ่อว่า อายุ 36 ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีอาชีพมั่นคง
ผิดหวัง 4 ตอนเจอกับน้องสาว คุยเรื่อยเปื่อยกัน และมีครั้งที่เค้าพูดว่า เนี่ยนะถ้าเจอผู้ชายในผับ สิ่งแรกที่จะถามคือคุณขับรถอะไร ถ้าพวกรถกระป๋องฉันไม่คุยด้วยนะ (เราก็ฟังและแบบเอ่อมั่นหน้าดีนะ ไหนขอรู้จักหน่อย เหตุอันใดรสนิยมสูงกันทั้งพี่ทั้งน้อง ) สรุปน้องก็เรียนไม่จบ และ หาเงินจากการรับจ้างไปทำเล็บตามบ้าน เพ้นต์เล็บพลาสติกขาย อะไรกันครับเนี่ยยยย
ผิดหวัง 5 ตอนเจอหน้าครอบครัวเค้า เราเป็นคนขับรถเรา พาแฟนไปหัวหิน (ขับเอง ออกค่าน้ำมันเองทั้งทริป) เพราะครอบครัวมาซื้อบ้านที่หัวหินเพื่ออยู่ตอนเกษียร ดินเนอร์ แรกตลาด cicada .......... สุดดดดด พ่อแม่ให้ตังลูกเค้าไป 500 (เฮลโล่วววว มีกัน 5 คน จะพอไงว่ะ ) เราเลยชวนแฟนไปเดินซื้อกัน หมดไปเกือบพัน ใครออก กรูสิค่ะ แล้วก็เอาอาหารกลับมาที่โต๊ะ มาทานร่วมกัน สรุปอาหารเหลือ แม่เค้าเลยเอาเทรวมๆกันใส่ถาด กลับบ้าน
วันที่ 2 ที่อยู่ด้วยกับครอบครัวเค้า เราก็คิดว่าคืนนี้น่าจะเป็น proper dinner แนะนำเรากับครอบครัวอย่างเป็นทางการงี้ สรุปกินอาหารเหลือ จากเมื่อวาน และ ไม่ยอมแช่ตู้เย็นด้วยนะ เราเตือนแล้วว่ามันอาจจะเสีย บ้านเราอากาศร้อนนะ ก็ไม่แช่ สรุปได้กินอาหารเน่าเข้าเตาอบใหม่ แล้วมาล้อมวงเอาไม้จิ้มๆกินเป็น dinner เรานี้แบบโครตหิว จิงๆก็ไม่กล้ากิน แต่ต้องทำเป็น enjoy ด้วยไปก่อน เป็นบ้านเราคือทิ้งแล้วนะ อยากร้องไห้
กลับมาไม่นานเราก็ขอเค้าเลิก เค้าเสียใจมากและบอกว่าเทอสำคัญมากจริงๆเค้าถึงได้พาเราไปเจอครอบครัวเค้า ครอบครัวเค้ารักและตอนรับเราทุกคน ทำไมเราต้องหาเรื่องเลิกหลังจากเหตุการณ์สำคัญแบบนี้ (เจอครอบครัวเค้า) แกร...... มันต่างกัน มันเห็นอะไรหลายๆอย่างว่าเรามันต่างกันจริงๆ ครอบครัวเราไม่ตอนรับใครแบบนี้ ตอนครอบครัวเราเจอแฟนเก่า เราก็จองห้อง private ในร้านอาหารที่ดีเพื่อตอนรับ ไม่ได้ตอนรับแบบให้เดินไปหาซื้อกินเองใน foodcourt และ นั่งกินอาหารเน่าในวันถัดมา
เค้าก็ยังคงมองว่าเรางี่เง่าจะเลิก เพราะกลัวการผูกมักบลาๆ จะบอกเหตุผลตรงๆ ถามจริงจะรับได้หรอ ทรรศนคติ พี่น้องเทอ
แต่เรามันโง่แล้วโง่อีก เอ่อช่างครอบครัวเค้า ไม่ได้จะอยู่ด้วยอยู่ดีแฟนเราน่าจะมีอนาคตสุดในบ้าน โอเคแหละมั้ง เราสร้างครอบครัวกันเอง อยู่กัน 2 คนไม่ข้องเกี่ยวคนอื่น คงไม่เป็นไรหรอก
ก็คบต่อมา จนกระทั่งวันนึงความสะอิดสะเอียนมันถึงที่สุด เกลียดความมั่น ฉันพูดภาษาอังกฤษดีที่สุดในบรรดาแฟนเก่าเทอ ใช่สิ เป็นคนอังกฤษตั้งแต่เกิดพูดไม่ได้คือต้องเป็นใบ้แล้วนะ ฉันถือพาสปอร์ตที่มีอำนาจนะ ฉันหน้าตาดีสุดเทียบจากบรรดาแฟนเก่าเทอ ฉันสัดส่วนสมมาตร ตัว 50 ขา 50 อะไรของมันว่ะ ฉันเล่นกีฬาเป็นหลายชนิด ......แล้วไงหรอ
สรุปเราขอห่าง เพื่อถอยออกมาดูกันอีกรอบ เค้ากลับอังกฤษไปเดือนนึง ทุกๆอย่างมันดีขึ้นจากการมีเวลาพูดโทรศัพท์กันน้อยลง แบบไม่ต้องเจอตัว
พอกลับมาเจอกันเราทั้งคู่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้น
จนวันนึงเราป่วย ในคืนนั้นเข้ายังขอมี sex ด้วย เราบอกเอาจิงดิป่วยอยู่มันไม่ได้ไหม โอเคผ่านคืนนั้นไปเช้าวันต่อมาเราต้องรีบแต่งตัวไปทำงาน เอาอีกแล้วววว ขอมี sex ได้ไหม ตอนนั้นเราหมดคำจะพูดแล้วในใจเริ่มจะเลิกจริงๆเลิกถาวรเลยนะ ก็ไม่ให้
ผ่านมา 1-2 สัปดาห์เราเริ่มเจ็บหน้าอก ก็คิดว่าเดี๋ยวรอบเดือนน่าจะมา แต่มันก็เร็วไปนะ แต่รอบเดือนเราไม่เคยนับเราคงจำช่วงเวลาไม่ได้เองมั้ง
ตอนนั้นยังพูดเล่นกับเค้าเลยว่า ถ้าท้องทำไง เค้าบอกไม่นะ หวังว่าจะไม่ แต่มันยังที่ถึงวันที่เราคิดว่ารอบเดือนจะมา
และแล้ว เราก็เลิกกับระหว่างนั้น เพราะเราตกตะกอนแล้วว่า คำว่าแคร์ความรู้สึกเราดูแลเราที่เค้าพูดมันโครตปลอม ปลอมพอๆกับทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเค้าและครอบครัวเค้า เค้าขอเราว่า ส่งข้อความติดต่อกันบ้างนะ เป็นเพื่อน นัดเจอเดือนละครั้งก็ได้
และวันแห่งความล้มสลายก็มาถึง มันเลยวันที่รอบเดือนควรจะมา เรากังวลหนักเข้าไปอีก เลยไปซื้อที่ตรวจมา และมันก็ขึ้นว่าท้อง ชิป...ล่ะ เราส่งข้อความไปบอกเค้าเค้ารีบโทรมา พูดว่า we need to talk we gonna do this เรายิ่งสติแตกไปอีก ก็บอกว่าก็พูดอยู่ก็พูดมาสิจะพูดอะไร แล้วจะ do this หมายความว่าไง จะทำอะไร เค้าก็ย้ำวนอยู่แบบนั้น เราก็วางสาย เค้าก็กระนำโทรมา แล้วก็พูดแบบเดิม we need to talk we gonna do this, me and you both hard working we gonna be mega อีกละ mega ยิ่งใหญ่ ยังไง how โครตน่ารำคาญเวลาไปยินประโยคแบบนี้ เราก็ตัดสาย ก็กระหน่ำมาทุกช่องทาง เราก็เลยบล๊อคไปก่อน เดี๋ยวรับ
และตอนนี้เค้า block facebook instagram เราแล้ว ข้อความส่งไปก็ไม่อ่าน ตอบก็ตอบข้ามวัน เค้าบอกยังไงก็จะรับผิดชอบในส่วนนี้ คือพาไป รพ ไปยุติการตั้งครรถ์ แต่ตอนนี้ไม่เคยถามเราเลยว่าอาการเป็นไง สบายดีไหม รู้สึกยังไง ไม่หาข้อมูลไม่ถามเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ
เราโครตโง่ โง่ที่สุด เกลียดตัวเอง นึกว่าความรักครั้งนี้จะเยียวยาความรู้สึกที่เราหมดศรัทรากับความรัก แต่กลับทำให้ทุกอย่างแย่ที่สุด และจิตใจตกต่ำที่สุดในชีวิต
ใครมาอ่าน ใครเจอเรื่องคล้ายๆกันตั้งแต่แรกให้รีบหนีไป อย่าใจอ่อน อย่าให้โอกาสคนโกหก
ด่าเราเถอะ ให้กำลังใจก็ได้ เม้นอะไรก็ได้ เราอยากระบาย เราอึดอัด เราอยากได้ยินความคิดเห็นคนอื่นหลายๆคน
เรากำลังจะนัดคุยกับจิตแพทย์ด้วย มันรู้สึกดิ่งกับชีวิตแบบบอกไม่ถูกแล้วค่ะ
ขอบคุณคนที่เข้ามาทนอ่านจนจบจริงๆค่ะ