สั้นๆก็คือ เมื่อ1ปีที่แล้ว ผมไปงานคอสเพลย์ครั้งแรกตื่นเต้น สนุกมากๆ
พอ1ปีต่อมา งานเดิมจัดแล้วผมไปอีก กลับไม่รู้สึกอะไร แต่ในขณะเดียวกัน
ผมเห็นเด็กวัยรุ่นที่เหมือนพึ่งจะเคยไปครั้งแรกและทำปฏิกิริยาเหมือนกับผมในตอนเมื่อ 1 ปีที่แล้ว
มีอะไรเปลี่ยนไป?
งานไม่ได้เปลี่ยน.. ผมต่างหากที่เปลี่ยน
แต่อะไรล่ะ?
คำตอบก็คือ ความเชื่อ
1ปีที่ผ่านมาผมได้เติบโต มีความรู้มากขึ้นและเห็นอะไรมากมาย
และไม่ได้ตื่นเต้นกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว..
ผมเคยอ่านหนังสือ เจ้าชายน้อย
เนื้อหาหลักๆในหนังสือมันก็คล้ายๆกับเรื่องนี้
หรือเพราะโฟกัสผมเปลี่ยนไป?
ผมไม่รู้จริงๆว่าที่ผมเป็นอยู่มันดีหรือไม่ดีกันแน่..
(ข้างล่างนี้ผมจะวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น)
หลายๆเรื่องในชีวิตบางทีมันไม่มีอะไรหรอก
มันอาจจะเป็นเพราะเราเองที่ให้ความหมายกับมัน
"เราเชื่อว่ามันมีความหมาย"
และพอมันมีความหมายมันจะส่งผลกับภายในเราไม่ว่าจะดีหรือร้าย
พอมันส่งผลกับเรา เราก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับมัน
ปฏิกิริยาโต้ตอบนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งจิตใต้สำนึกของเราและสิ่งแวดล้อมภายนอก
บางที ความไม่รู้ก็สามารถทำให้เราเชื่อแบบผิดๆได้เหมือนกัน
ความไม่รู้เกิดจากเพราะเรายังโง่ หรือ ยังเด็กอยู่นั่นแหละ
ถามว่าจะรู้ได้ไงว่าผิด ถูก
ผมว่ามันวัดจากการวิเคราะห์แบบใช้ตรรกะในการประเมินคุณค่าของสิ่งต่างๆ based on ความรู้ที่มี
ถ้าผมฉลาดเกินไป มันจะทำให้ Inner Child ของผมหายไปงั้นหรอ?
(ข้างล่างนี้คือ Formula การทำงานของความเชื่อ)
ความเชื่อ มีรากฐานจาก ความคิด
ความคิด มีรากฐานจาก ความรู้และปัญญา ไม่ว่าจะ conscious หรือ Subconscious
ความรู้และปัญญา มีรากฐานจาก การเติบโต
การเติบโต มีรากฐานจาก ประสบการณ์
ซึ่งมันจะสะสมและใช้เวลาจากการทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือ Comfort zone
เมื่อเราโตขึ้น ความเชื่อต่อสิ่งต่างๆของเราจะเปลี่ยนไป
คำถามก็คือ ผมไม่รู้จริงๆว่าที่ผมเป็นอยู่มันดีหรือไม่ดีกันแน่..
โพสเล่นๆนะครับ คิดเห็นกันยังไง ไม่เห็นด้วยยังไง แสดงความคิดเห็นมาได้เลย
Inner Child
พอ1ปีต่อมา งานเดิมจัดแล้วผมไปอีก กลับไม่รู้สึกอะไร แต่ในขณะเดียวกัน
ผมเห็นเด็กวัยรุ่นที่เหมือนพึ่งจะเคยไปครั้งแรกและทำปฏิกิริยาเหมือนกับผมในตอนเมื่อ 1 ปีที่แล้ว
มีอะไรเปลี่ยนไป?
งานไม่ได้เปลี่ยน.. ผมต่างหากที่เปลี่ยน
แต่อะไรล่ะ?
คำตอบก็คือ ความเชื่อ
1ปีที่ผ่านมาผมได้เติบโต มีความรู้มากขึ้นและเห็นอะไรมากมาย
และไม่ได้ตื่นเต้นกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว..
ผมเคยอ่านหนังสือ เจ้าชายน้อย
เนื้อหาหลักๆในหนังสือมันก็คล้ายๆกับเรื่องนี้
หรือเพราะโฟกัสผมเปลี่ยนไป?
ผมไม่รู้จริงๆว่าที่ผมเป็นอยู่มันดีหรือไม่ดีกันแน่..
(ข้างล่างนี้ผมจะวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น)
หลายๆเรื่องในชีวิตบางทีมันไม่มีอะไรหรอก
มันอาจจะเป็นเพราะเราเองที่ให้ความหมายกับมัน
"เราเชื่อว่ามันมีความหมาย"
และพอมันมีความหมายมันจะส่งผลกับภายในเราไม่ว่าจะดีหรือร้าย
พอมันส่งผลกับเรา เราก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับมัน
ปฏิกิริยาโต้ตอบนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งจิตใต้สำนึกของเราและสิ่งแวดล้อมภายนอก
บางที ความไม่รู้ก็สามารถทำให้เราเชื่อแบบผิดๆได้เหมือนกัน
ความไม่รู้เกิดจากเพราะเรายังโง่ หรือ ยังเด็กอยู่นั่นแหละ
ถามว่าจะรู้ได้ไงว่าผิด ถูก
ผมว่ามันวัดจากการวิเคราะห์แบบใช้ตรรกะในการประเมินคุณค่าของสิ่งต่างๆ based on ความรู้ที่มี
ถ้าผมฉลาดเกินไป มันจะทำให้ Inner Child ของผมหายไปงั้นหรอ?
(ข้างล่างนี้คือ Formula การทำงานของความเชื่อ)
ความเชื่อ มีรากฐานจาก ความคิด
ความคิด มีรากฐานจาก ความรู้และปัญญา ไม่ว่าจะ conscious หรือ Subconscious
ความรู้และปัญญา มีรากฐานจาก การเติบโต
การเติบโต มีรากฐานจาก ประสบการณ์
ซึ่งมันจะสะสมและใช้เวลาจากการทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือ Comfort zone
เมื่อเราโตขึ้น ความเชื่อต่อสิ่งต่างๆของเราจะเปลี่ยนไป
คำถามก็คือ ผมไม่รู้จริงๆว่าที่ผมเป็นอยู่มันดีหรือไม่ดีกันแน่..
โพสเล่นๆนะครับ คิดเห็นกันยังไง ไม่เห็นด้วยยังไง แสดงความคิดเห็นมาได้เลย