ไม่อยากกลับบ้านไปหาเเม่เพราะเคยโดนพ่อเลี้ยงขืนใจตอนเด็กผิดมั้ย

ขออนุญาตพูดถึงเรื่องตอนหนูอายุ8ปีก่อนนะคะคือครอบครัวของของหนูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่พ่อเเม่เเยกทางกันตั้งแต่ตอนเด็กๆแม่หนูตัดสินใจพาหนูมาอยู่อีกจังหวัดนึงซึ่งเป็นบ้านยายพออยู่ทางนั้น
ได้ปีกว่ายายกับคนรอบๆข้างก็เเนะนำให้เเม่หนูมีแฟนใหม่เพราะจะได้มีคนช่วยทำไร่ทำนาแม่หนูก็เริ่มต้นรักใหม่กับพ่อเลี้ยงหนูนั้นแหละค่ะตอนนั้นแม่หนูอายุ29พ่อเลี้ยงอายุ48ซึ่งก็ดูมีอายุพอสมควรค่ะช่วงแรกๆหนูก็ดีใจนะคะที่เห็นแม่มีความสุขมีคนแบ่งเบาภาระแล้วก็ดีใจที่หนูจะได้มีพ่อด้วยหลังจากแม่หนูแต่งตอนหนูอายุ9ปีทุกอย่างก็ดูไปได้ดีค่ะทั้งแม่เเละพ่อเลี้ยงเป็นคนขยันพ่อเลี้ยงเป็นคนที่ดื่มเหล้านิดหน่อยก่อนกินข้าวโดยพูดว่ากินเพื่อให้กินข้าวอร่อยแม่หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะดูทรงเเกไม่ได้ติดเหล้าเเค่กินก่อนกินข้าวพอ2ปีให้หลังต่อมาหนูอายุ11ปีทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปทีล่ะน้อยโดยแม่หนูมีลูกกับพ่อเลี้ยงมันก็เป็นเรื่องปกตินั้นแหละค่ะทั้ง2ดีใจที่มีลูกชีวิตหนูก็เริ่มเปลี่ยนไปทีล่ะนิดโดยหลังจากเลิกเรียนก็เลี้ยงน้องเริ่มทำงานบ้านล้างจานถูพื้นซักผ้าของตัวเองเเละทำงานบ้านอื่นๆพ่อเลี้ยงหนูใช้ให้หนูถูบ้านทั้งตอนเช้าก่อนไปเรียนเเละตอนเย็นหลังเลิกเรียนแม่หนูก็เห็นด้วยเพราะเป็นการฝึกงานบ้านไปในตัวทำวนๆอย่างนั้นจะกระทั้งหนูขึ้นป.6ช่วงวันหยุดพ่อเลี้ยงจะไปถ่างหญ้าในสวนเลยชวนให้หนูไปเก็บพริกเก็บผักมาให้แม่ด้วยเพราะเเม่ไปไม่ได้ติดเลี้ยงน้องเเม่ก็ไม่ได้ค้านอะไรพร้อมบอกว่าเดียวจะซักผ้าให้ถ้าไปเก็บที่ยื่นข้อเสนอเเบบนี้เพราะหนูชอบอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหนติดบ้านนั้นแหละค่ะหนูก็เลยไปเพราะถึงยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้เดี๋ยวโดนดุพอกรอกน้ำเตรียมตัวเสร็จก็นั่งซ้อนท้ายรถกันไปจนถึงสวนพ่อเลี้ยงก็ใช่หนูเอาน้ำไปเก็บกระท่อมน้ำจะได้ไม่โดนเเดดพอหนูไปเก็บน้ำเเล้วเลยหยิบตระกร้าจะออกไปเก็บพริกก็โดนพ่อเลี้ยงบีบไหล่จากทางด้านหลังหนูก็ไม่ได้คิดอะไรพร้อมกับเดินออกไปจากกระท่อมหนูก็โดนกระชากเเขนเเล้วโดนจับกดลงไปนอนหนูพยามดิ้นออกเเต่มันก็ไม่สู้เเรงผู้ใหญ่จะร้องให้คนช่วยก็ไม่มีใครอยู่แถวนั้นพ่อเลี้ยงก็ข่มขืนหนูรู้สึกทั้งเจ็บทั้งแค้นใจนั่งร้องไห้อยู่ตรงมุมเสาพ่อเเลี้ยงเอามือมาลูบหัวหนูะร้อมบอกหนูว่าอย่าร้องไห้เเล้วก็อย่าเอาไปบอกใครเพราะยังไงก็ไม่มีใครเชื่อแล้วพ่อเลี้ยงก็หยิบตระกล้าไปเก็บพริกเก็บผักจะได้ไม่กลับบ้านมือเปล่าใช้เวลาไม่นานพ่อเลี้ยงก็เก็บเสร็จลากหนูไปที่รถเพื่อกลับบ้านย้ำกับหนูว่าอยากจะบอกใครก็บอกถ้าคิดว่ามีคนเชื่อถ้าไม่อายคนหนูขึ้นรถนั่งนิ่งไม่พูดอะไรตลอดทางพอถึงบ้านหนูก็เห็นเสื้อหนูที่ซักเเขวนตากเรียงกันอย่างดีพร้อมกับแม่ที่ชวนหนูกินข้าวหนูพูดอะไรไม่ออกเดินเอาตระกร้าพริกไปให้แม่เเล้วบอกแม่ว่าไม่หิวจะไปอาบน้ำพ่อเลี้ยงก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยิ่งทำให้หนูเจ็บใจพออาบน้ำเสร็จหนูก็บอกแม่ว่าไม่ค่อยสบายจะไปนอนแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะปกติก็เก็บตัวเงียบอยู่แล้วแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรพอผ่านไป2-3วันหนูก็ซึมลงเรื่อยๆเลยถามว่าโดนพ่อเลี้ยงดุหรอหนูส่ายหัวแม่เลยพูดว่าแกบอกแกสอนเพราะเเกรักหนูน้ำตาไหลเลยจะพูดออกไปก็ไม่กล้าแม่พูดต่อว่าถึงจะไม่ใช่พ่อเเท้ๆเขาก็รักเขาหวังดีกับหนูจะได้ไม่โดนคนอื่นว่าคนอื่นดูหมิ่นเวลาโตขึ้นทำงานร่วมกับคนอื่นจะได้เข้ากับอื่นได้หนูก็พยักหน้ายิ้มให้เเม่หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็หาข้ออ้างมาเพื่อให้หนูไปทำงานที่สวนในช่วงวันหยุดด้วยเรื่อยๆแม่ก็้เห็นดีเห็นงามด้วยไปหมดหนูค้านว่าจะไม่ไปจะไปทำรายงานจะทำการบ้านบ้านเพื่อนพ่อเลี้ยงก็เป่าหูแม่ว่าหนูขี้เกียจหาข้ออ้างจะไปถเลถไลกับเพื่อนที่ไหนก็ไม่รู้เเม่ก็เอ่ออ่อตามให้หนูไปสวนจะได้เป็นงานเป็นการงานหนูก็ทำได้เเค่เดินตามพ่อเลี้ยงไปที่รถรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรเเต่ก็ต้องไปหลายครั้งที่พยายามจะบอกแม่แต่ก็ไม่กล้าไม่รู้ว่าอายเพราะช่วงนั้นกำลังเริ่มโตรึเปล่าเรื่องที่โดนพ่อเลี้ยงข่มขืนวนๆมาเเบบนั้นจนหนูขึ้นม.2หนูยิ่งไม่กล้าบอกใครไม่อยากวนลูอยู่เเบบนั้นอีกหนูเลยตัดสินใจเข้าไปอยู่หอในโรงเรียนเพราะไม่อยากเจอหน้าพ่อเลี้ยงแม่ก็ไม่อนุญาตเพราะเป็นห่วงกลัวจะเจอเพื่อนไม่ดีกลัวเข้ากับคนอื่นตอนนั้นหนูคิดในใจแค่เอาตัวออกจากตรงนี้เลยบอกแม่ว่าจะลองไปอยู่ดูก่อนถ้าไม่ไหวจะกลับมาอยู่ด้วยแม่เลยตกลงพออยู่หอหนูก็เริ่มปรับตัวเริ่มเข้ากับเพื่อนได้อยู่หอได้อาทิตย์ที่2ยายให้ญาติที่เรียนรร.เดียวกันบอกว่าแม่ป่วยหนักหนูก็เริ่มร้อนใจเย็นวันนั้นก็ขนของย้ายกลับบ้านทันทีพอถึงบ้านเท่านั้นอหละค่ะเลยรู้ว่าถูกหลอกแม่สบายดีเดินเข้ามาพร้อมกับคำว่าไม่อยากให้ไปนอนเเบบนั้นบ้านก็ไม่ไกลขนาดที่จะต้องไปพักอยู่บ้านเรานี้แหละนับจากนั้นชีวิตเดิมวนกลับมาอีกครั้งพ่อเลี้ยงก็ทำเหมือนเดิมตามเคยเเต่พอน้องเริ่มโตแม่ก็เอาไปฝากยายเลี้ยงแล้วไปด้วยเป็นบางครั้งเพราะต้องให้นมน้องเเต่ก็ทำให้หนูสบายใจขึ้นมาบ้างเพราะจะไม่ได้โดนพ่อเลี้ยงพ่อเลี้ยงทำเรื่องอย่างว่า ทุกอย่างดำเนินมาเรื่อยๆหนูขึ้นม.3และวางเเผนเรียนบ้านพ่อหนูเพื่อออกห่างจากพ่อเลี้ยงมากขึ้นเพราะมีกลุ่มเพื่อนวางเเผนและไปฟังเเนะเเนวการเรียนต่อจากครูทุกวันหยุดหนูกลับมาบอกแม่ว่าจะหาเรียนต่างจังหวัดแม่ไม่อยากให้ให้อยู่ไกลแม่เงินก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นจะให้เรียนแถวโรงเรียนประจำอำเภอหนูก็เลยอกว่าคุยกับพ่อเเล้วว่าจะไปอยู่กับพ่อช่วงเรียนม.ปลายแม่ก็ยิ่งเป็นห่วงเพราะเคยอยู่เเล้วรู้ว่ามันไม่น่าอยู่ขนาดไหนในใจลึกๆก็อยากทำตามอยู่ค่ะเข้าใจแม่เเต่ทนต่อไปหนูบ้าชัวร์เลยตัดสินใจบอกว่ายังไงก็จะไปเรียนเเถวบ้านพ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไรบอกแล้วไม่ฟังเองเชิงว่าอยากให้หนูรู้เองว่าที่ที่จะไปมันไม่ได้โอเคขนาดนั้น   พอม.3เทอม2หนุก็ได้ข่าวร้ายค่ะพ่อแท้ๆหนูเสียชีวิต โดยการ ผ.ค.ต. หนูไม่ได้เจอเเกนานมากไม่คิดว่าเเกจะทำงี้หนูเสียดายมากค่ะที่ไม่ได้เจอไม่ได้ยินเสียงไม่ได้เห็นหน้านั้นทำให้หนูเก็บตัวไปพักใหญ่เงียบไม่คุยกับใครเลยงานศพก็ไม่ได้ไปเพราะติดสอบปลายภาคสอบปลายภาคตามดูคะเเนนที่ผ่านมาเคลียร์อะไรเรียบร้อยหนูเลยโทรหาลูกพี่ลูกน้องทางพ่อให้แนะนำที่เรียนให้น้องก็เเนะนำอย่างดีจึงตัดสินใจเตรียมตัวเก็บกระเป๋าช่วงปิดเทอมเเล้วบอกกับเเม่ว่าพ่อก็เสียย่าอยู่คนเดียวจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนเเล้วก็เตรียมตัวกับรร.ใหม่ต้วยแกแม่ก็ไม่ขัดเพราะเห็นหนูซึมตั้งเเต่พ่อเสียหนูตัดสินใจใช้เงินที่พ่อเก็บไว้ให้เป็นค่าเดินทางและค่าเทอมในการไปเรียนหนูดีใจมากที่จะได้หลุดพ้นจากที่นี้เเต่ไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไงพอถึงบ้านย่าย่าก็ดูดีใจมากน้าๆป้าๆก็ตอนรับนิดหน่อยทำให้หนูอุ่นใจพอเปิดเทอมมารร.ใหม่หนูก็เข้ากับเพื่อนได้ดีหนูเริ่มทำตัวเป็นมิตรกับทุกคนไม่นิ่งพูดมากขึ้นเข้าหาเพื่อนมากขึ้นด้วยช่วงวัยทุกอย่างกำลังไปได้ดีแต่ก็เกิดปัญหาที่น้ากับป้าทะเลาะกันป้าจึงย้ายออกจากบ้านน้าก็ไปนอนนาเหลือเเค่หนูลูกน้าเเละย่าลุกน้าอายุ3-4ขวบซึ่งพ่อไม่ค่อยสนใจน้องเท่าไหร่เลยตกเป็นหน้าที่หนุต้องดูแลเงินที่พ่อเก็บไว้ก็เริ่มน้อยเพราะค่าใช้จ่ายในบ้านไม่มีคนหาป้าก็ไม่อยู่ย่าก็แก่แล้วน้าก็ไม่ได้สนใจหนูเลยได้รับผิดชอบค่าใช่จ่ายเหล่านั้นมันจึ้งมากเลยลองหางานพาสทามหลังเลิกเรียนทำแต่มันก็ได้น้อยอ่ะไม่คุ้มเลยเเต่ก็ทนทำไปช่วงนั้นรู้สึกเหนื่อยมากจนท้อแปบๆก็จบจนเริ่มขึ้นปวช.2เรียนก็หนักขึ้นหน่อยเเต่เวลากลับได้กลับไวขึ้นเลยคิดว่าหางานพาสทามในเมืองน่าจะรุ่งกว่าจนมาเจอกะร้านนึงเจ้าของร้านเป็นกันเองคุยถูกคอเเละเล่าเรื่องให้เเกฟังแต่ไม่ได้เล่าขนาดที่ว่าโดนขืนใจหรอกแค่เล่าเผิ่นๆเเกก็ว่าเก่งแล้วให้กำลังใจตลอดทุกอย่างกำลังโอเคแต่เหนื่อยขับรถมากอ่ะ27โลกลับถึงก็เกือบ5ทุ่มเป็นผู้หญิงคนเดียวอีกแต่ตอนนั้นไม่กลัวอะไรเลยคิดว่าเริ่มเข้าที่ล่ะจนกระทั่งรู้ว่าค่าใช้จ่ายในบ้านที่เคยให้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่มีคนหาช่วยน้อยใจตัวเองมากเรียนก็เริ่มไม่รู้เรื่องเเล้วกลับดึกตื่นเช้าจนจะจบเทอม1ตัดสินใจเเยกออกมาอยู่คนเดียวโดยไม่มีเงินสักบาทเพราะเอาเงินที่มีอยู่วางให้ย่าตอนเเกนอนแล้วเก็บเสื้อผ้าออกไปแบบเงียบๆเจ้าของร้านคือเซฟโซนมากให้อยู่บ้านแกก่อนคือตอนนั้นพี่เขาเหมือนแม่พระมาโปรดเป็นแสงสว่างสุดท้ายแหละทำงานได้เกือบ2อาทิตย์ก็ตัดสินใจเช่าหอใกล้ร้านเพราะไม่มีรถใช่พี่เเกเสนอให้ใช่รถร้านใจดีแบบนางฟ้าอ่ะคือตอนนั้นก็เสียดายเรื่องเรียนอยู่แต่คือถ้าทนไปตุยแหง่ๆ ทำงานต่อไปเรื่อยไปจนถึงปัจจุบันจะเข้า18คือมีปัญหานั้นนี้บ้างแต่ก็ผ่านมาได้แบบชิวๆคือมันโล่งใจแบบบอกไม่ถูกจนนี้แหละค่ะปัญหาที่ยังคาใจคือแม่อยากให้กลับบ้านเพราะอยากให้ไปอยู่ใกล้เวลาอยากเจอคิดถึงจะได้ไปมาหากันง่ายเเต่ทางหนูไม่อยากเปลี่ยนงานค่ะเพราะงานที่ทำมันโอเคมันสบายใจหัวหน้าหนูก็ใจดีอย่างกับแม่พระส่วนเเฟนหัวหน้าก็คอยเป็นโค้ชให้คำปรึกษาเรื่องทัศนคติดีๆคือทุกอย่างมันดีหมดแล้วหนูไม่อยากกลับไปเจอหน้าพ่อเลี้ยงเเต่ก็คิดถึงแม่อยู่ครั้งล่าสุดที่คุยกันก็พยายามจะบอกว่าไม่ค่อยโอเคน๊าถ้าจะให้เปลี่ยนงานใหม่เพราะเเม่ตีกรอบเลยให้ทำงานในจังหวัดเดียวถ้ากลับมาทำงานเดิมไม่ต้องมาคุยกันเลยเราคือหนูเสียความรู้สึกแบบเเม่ลูกมันตัดง่ายขนาดนั้นเลยหรอพยามอธิบายก็ตัดสายใส่พอโทรคุยกันอีกทีแกบอกพูดเพราะโมโหแต่ความรู้สึกหนูนี้สิคือหนูอยู่คนเดียวจนหนูชินแล้วมาเจอคำพูดเเบบนี้อีกมันไม่อยากมีครอบครัวเลยอ่ะตอนหนูลำบากเป็นคนอื่นที่เขาไม่รู้จักหนูดีด้วยซ้ำรอดมาได้ทุกวันนี้โดยที่ไม่ตุยอ่ะก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้วคิดถึงแม่ก็คิดถึงอยู่ค่ะเต่ไม่กล้ากลับไปยิ่งโทรคุยเเล้วแกร้องไห้เพราะคิดว่าหนูไม่คิดถึงแกหนูยิ่งรู้สึกผิดบาปไปใหญ่ขอคำเเนะนำหน่อยนะคะว่าควรพูดยังไงดีคนเล่ามืด8ด้านมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่