
18 ก.ย. 2566 - 11:03 น.
เจ๊งบิตคอยน์เป็นเหตุ เมียขอแยกทาง สามีเครียดหนัก ชักปืนยิง ล้อมบ้านกล่อม 6 ชั่วโมงก่อนยอมมอบตัว ตร.แจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่า
กรณี นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) หรือ “เหน่ง” อายุ 35 ปี สามีอารมณ์ร้อน ใช้ปืนยิงภรรยา จนบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ปิดล้อมบ้านพักเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้ญาติโทรศัพท์เข้าเจรจาจนยอมมอบตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่18 ก.ย.2566 ที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นายกฤษฎา อายุ 35 ปี หลังจากรักษาตัวอาการบาดเจ็บ ที่ใช้อาวุธปืนยิงขาตัวเองแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีญาติและคนใกล้ชิดมาเยี่ยม

เจ้าหน้าที่ปิดล้อมบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสิ่งของเข้าเยี่ยมอย่างละเอียด พร้อมคอยสังเกต นายเหน่งอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในอาการเครียด และยังมีอาการเจ็บปวด เนื่องจากใช้ปืนยิงใส่ต้นขาของตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ นายกฤษฎาผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พิศสมัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภรรยา แล้วผู้ต้องหาเก็บตัวอยู่ในบ้านนานกว่า 6 ชั่วโมงทาง ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายควบคุมสถานการณ์และมีการเจรจาเป็นระยะๆ เนื่องจากผู้ต้องหาที่อยู่ในบ้านไม่มีตัวประกัน ทางเจ้าตำรวจจึงไม่อยากเข้าไปควบคุมตัวเนื่องจากกลัวเกิดเหตุร้าย
จึงใช้วิธีการเจรจาและให้ผู้ต้องหา คลายความตึงเครียด และขอมอบตัวเอง พร้อมประสานน้องสาวให้มาพูดคุยเจรจา เพื่อให้ผู้ต้องหาคลายความตึงเครียด จนมีการมอบตัวเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อม ของกลางอาวุธปืน ขนาด .38 และยังพบว่าผู้ต้องหานั้นใช้อาวุธปืนยิงบริเวณต้นขาซ้ายของตนเองจากความเครียด เนื่องจากยิงภรรยาบาดเจ็บตอนแรกคิดว่าจะยิงฆ่าตัวตายถ้าหากภรรยาเสียชีวิต

พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนสาเหตุของการที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยา เกิดจาก นายเหน่ง นำเงิน 700,000 บาท ไปลงทุน บิตคอยน์จนขาดทุนทำให้มีปัญหากับภรรยา มีปากเสียงกันจนภรรยาของแยกทาง ทำให้ นายเหน่ง มีความเครียด และคอยขับรถมาดูภรรยาอยู่ที่บ้านเป็นประจำด้วยความหวาดระแวงว่าภรรยาจะนอกใจ
กระทั่งช่วงเช้าวันเกิดเหตุผู้ต้องหาเข้ามางัดบ้านของภรรยาแล้วเข้าไปอยู่ในบ้านเพื่อขอคืนดี แต่ภรรยากลับมาเจอจนเป็นเหตุให้ต้องมาแจ้งความเมื่อช่วงเช้า หลังจากนั้นทั้งคู่กลับไปบ้านจนมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนเมื่อคืนนั้นผู้ต้องหาหลังจากที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยแล้วได้นำตัวกลับมาควบคุมที่ห้องขังพบว่ามีอาการเครียดตลอดทั้งคืน จึงไม่สามารถสอบปากคำได้จะต้องรอให้ทางผู้ต้องหานั้นหายจากความเครียดก่อน ส่วนคนเจ็บนั้นตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา นายเหน่ง พยายามฆ่า มีอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7871303
เจ๊งบิตคอยน์เป็นเหตุ เมียขอแยกทาง สามีเครียดหนัก ชักปืนยิง
18 ก.ย. 2566 - 11:03 น.
เจ๊งบิตคอยน์เป็นเหตุ เมียขอแยกทาง สามีเครียดหนัก ชักปืนยิง ล้อมบ้านกล่อม 6 ชั่วโมงก่อนยอมมอบตัว ตร.แจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่า
กรณี นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) หรือ “เหน่ง” อายุ 35 ปี สามีอารมณ์ร้อน ใช้ปืนยิงภรรยา จนบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ปิดล้อมบ้านพักเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้ญาติโทรศัพท์เข้าเจรจาจนยอมมอบตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่18 ก.ย.2566 ที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นายกฤษฎา อายุ 35 ปี หลังจากรักษาตัวอาการบาดเจ็บ ที่ใช้อาวุธปืนยิงขาตัวเองแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีญาติและคนใกล้ชิดมาเยี่ยม
เจ้าหน้าที่ปิดล้อมบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสิ่งของเข้าเยี่ยมอย่างละเอียด พร้อมคอยสังเกต นายเหน่งอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในอาการเครียด และยังมีอาการเจ็บปวด เนื่องจากใช้ปืนยิงใส่ต้นขาของตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ นายกฤษฎาผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พิศสมัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภรรยา แล้วผู้ต้องหาเก็บตัวอยู่ในบ้านนานกว่า 6 ชั่วโมงทาง ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายควบคุมสถานการณ์และมีการเจรจาเป็นระยะๆ เนื่องจากผู้ต้องหาที่อยู่ในบ้านไม่มีตัวประกัน ทางเจ้าตำรวจจึงไม่อยากเข้าไปควบคุมตัวเนื่องจากกลัวเกิดเหตุร้าย
จึงใช้วิธีการเจรจาและให้ผู้ต้องหา คลายความตึงเครียด และขอมอบตัวเอง พร้อมประสานน้องสาวให้มาพูดคุยเจรจา เพื่อให้ผู้ต้องหาคลายความตึงเครียด จนมีการมอบตัวเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อม ของกลางอาวุธปืน ขนาด .38 และยังพบว่าผู้ต้องหานั้นใช้อาวุธปืนยิงบริเวณต้นขาซ้ายของตนเองจากความเครียด เนื่องจากยิงภรรยาบาดเจ็บตอนแรกคิดว่าจะยิงฆ่าตัวตายถ้าหากภรรยาเสียชีวิต
พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนสาเหตุของการที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยา เกิดจาก นายเหน่ง นำเงิน 700,000 บาท ไปลงทุน บิตคอยน์จนขาดทุนทำให้มีปัญหากับภรรยา มีปากเสียงกันจนภรรยาของแยกทาง ทำให้ นายเหน่ง มีความเครียด และคอยขับรถมาดูภรรยาอยู่ที่บ้านเป็นประจำด้วยความหวาดระแวงว่าภรรยาจะนอกใจ
กระทั่งช่วงเช้าวันเกิดเหตุผู้ต้องหาเข้ามางัดบ้านของภรรยาแล้วเข้าไปอยู่ในบ้านเพื่อขอคืนดี แต่ภรรยากลับมาเจอจนเป็นเหตุให้ต้องมาแจ้งความเมื่อช่วงเช้า หลังจากนั้นทั้งคู่กลับไปบ้านจนมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนเมื่อคืนนั้นผู้ต้องหาหลังจากที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยแล้วได้นำตัวกลับมาควบคุมที่ห้องขังพบว่ามีอาการเครียดตลอดทั้งคืน จึงไม่สามารถสอบปากคำได้จะต้องรอให้ทางผู้ต้องหานั้นหายจากความเครียดก่อน ส่วนคนเจ็บนั้นตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา นายเหน่ง พยายามฆ่า มีอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7871303